ผลงานที่เกิดจากการดำเนินการในเชิงรุกของทีมงานแพทยสภาชุดปัจจุบันที่สำคัญมีดังนี้
1. ได้ดำเนินการลดคดีจริยธรรมร้องเรียนแพทย์ที่ได้เคยค้างสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆมาโดยตลอด จากเดือนตุลาคม พ.ศ. 2550 มีอยู่ถึง 616 คดี ในปีนี้ได้ลดลงอย่างรวดเร็วภายในปีเดียวลดลงเหลือ 288 คดีเมื่อ ตุลาคม พ.ศ. 2551 เพราะมีการพิจารณาที่รวดเร็วขึ้น และได้ลดคดีที่มาใหม่ที่เคยสูงปีละเกือบ 300 คดีเหลือเพียง 93 คดี รวมเหลือค้างเพียง 381 คดี ทั้งนี้ เพราะเราได้ตั้งคณะอนุกรรมการช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน แห่งแพทยสภาขึ้น ซึ่งมีทีมเลขาธิการแพทยสภาอยู่เวรรับเรื่องตลอดเวลา ทำให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนและแพทย์ ซึ่งช่วยแก้ปัญหาการร้องเรียนจริยธรรมแพทย์ให้ลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
2. ได้ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และได้เข้าพบและเพื่อชี้แจงถึงความสลับซับซ้อนทางวิชาการทางการแพทย์ในการตรวจรักษาผู้ป่วย ซึ่งอาจเกิดภาวะอันไม่พึงประสงค์ได้ทุกขั้นตอน ดังนั้น เมื่อตำรวจได้รับแจ้งความขอให้ถามความเห็นทางวิชาการมายังแพทยสภาก่อน ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เห็นด้วยและได้ทำหนังสือเวียนแจ้งไปยังพนักงานสอบสวนทั่วประเทศให้ถือปฏิบัติเหมือนกันหมดแล้ว ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าพนักงานสอบสวนจะได้ข้อมูลอย่างเพียงพอในการพิจารณาคดีอาญา ทำให้สามารถพิจารณาได้อย่างเป็นธรรม.
3. ในชั้นอัยการ ก็ได้ดำเนินการเข้าพบอัยการสูงสุดและท่านก็เข้าใจและได้ทำหนังสือเวียนแจ้งอัยการทั่วประเทศแล้วโดยใช้หลักเดียวกันทำให้เรามีหลักประกันว่าอัยการจะได้ข้อมูลทางวิชาการอย่างเพียงพอในการพิจารณาคดีอาญาของแพทย์.
4. ในชั้นผู้พิพากษา ทีมแพทยสภาสัญจร ได้เข้าพบท่านผู้พิพากษาตามภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดี ให้วิชาชีพของเรา และขอปรึกษาหารือ รวมทั้งชี้แจงต่อท่านในลักษณะเช่นเดียวกัน และขอให้ท่านร่วมแก้ปัญหาการฟ้องร้องแพทย์ ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ทีมเลขาธิการแพทยสภาและกระทรวงสาธารณสุขได้เข้าพบเลขาธิการศาลยุติธรรม และผู้พิพากษาท่านที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันแก้ปัญหานี้ให้ได้ ซึ่งได้มีแนวทางต่างเกิดขึ้นหลายอย่างเพื่อแก้ไข ปัญหานี้ และได้ตั้งคณะทำงานชุดเล็กขึ้นเพื่อดำเนินการให้เป็นรูปธรรมโดยด่วนต่อไปแล้ว.
5. การเข้าร่วมร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการด้านสาธารณสุข โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณา ของคณะกรรมการกฤษฎีกา ล่าสุดที่ผมได้ไปประชุมมามีความคืบหน้าไปมากแล้วโดยกองทุนนี้จะจ่ายค่าเงินช่วยเหลือให้กับผู้ได้รับผล อันไม่พึงประสงค์จากการรับบริการทางการแพทย์โดยไม่ต้องมีการพิสูจน์ถูกผิด และเมื่อผู้เสียหายรับเงินแล้วต้องยุติการฟ้องร้อง.
6. การเสนอร่างพระราชบัญญัติความรับผิดและวิธีพิจารณาความสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ ซึ่งจะเป็นกฎหมายที่ทำให้แพทย์รับผิดทางอาญาจากการประกอบวิชาชีพเวชกรรมเฉพาะกรณีประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเท่านั้น มิใช่ประมาทธรรมดาก็ต้องรับผิดแล้วอย่างในปัจจุบัน และในการพิจารณาคดีได้กำหนดให้ศาลรับฟังพยานที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและเป็นกลางจริงๆ เท่านั้น.
7. การเสนอขอแก้ไขพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 (ที่มีอายุความในการฟ้องร้อง ยาวมากและมีวิธีการฟ้องร้องที่สะดวกง่ายดาย และเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ฟ้องมากที่สุด) ให้การประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพไม่ต้องอยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัตินี้.
8. ดำเนินการเสนอการเพิ่มค่าตอบแพทย์ใน ภาคราชการให้มีแท่งเงินเดือนแยกต่างหาก โดยแพทย์จบใหม่จะเริ่มต้นที่ 30,000 บาท ผู้จบ board เริ่มที่ 40,000 บาท และ sub board เริ่มที่ 50,000 บาท โดยจะปรับรายปีขึ้นไปเรื่อย ตันที่ 80,000 บาทเหมือนกันหมด ส่วนค่าเวรเสนอให้ปรับเท่ากับแพทย์สังกัดกรุงเทพมหานครซึ่งเริ่มต้นที่คืนละประมาณ 5,000 บาท รวมทั้งการเพิ่มค่าตอบแทนและเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายแก่แพทย์.
9. จัดให้มีการทำ Smart card สมาชิกแพทยสภาในรูปแบบที่สวยงาม เป็นสากล มีข้อมูลครบ และมีเอกลักษณ์ของตนเอง ปลอมแปลงยาก.
10. จัดตั้งองค์กรแพทย์จังหวัดขึ้นเพื่อประสานความร่วมมือและความสามัคคีของแพทย์ทั่วประเทศ.
11. เสนอปรับปรุงหลักสูตรแพทย์เพื่อให้มีความรู้ด้านกฎหมายและจริยธรรมเพิ่มขึ้น โดยมีคณบดี คณะแพทย์ต่างๆ หรือผู้แทนเป็นอนุกรรมการ.
12. ออกข้อบังคับแพทยสภาในเรื่องใหม่ๆ เช่น Stem cell การทำศัลยกรรมเสริมสวย และการทำศัลยกรรมแปลงเพศ รวมทั้งแก้ไขบางข้อบังคับให้ทันเหตุการณ์ เช่น เรื่องสมองตาย เป็นต้น.
13. การเสนอจัดระยะเวลาเพิ่มพูนทักษะให้เหมาะสมเพื่อให้แพทย์จบใหม่ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ และลดความเสี่ยงจากการถูกฟ้องร้อง จัดเกณฑ์การฝึกอบรมเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญให้เหมาะสมขึ้น การรับสมัครแพทย์ประจำบ้านผ่านเว็บไซต์ได้
14. คัดค้านร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรมฉบับใหม่ (ที่แก้ไขให้มีบุคคลภายนอกสายมวลชนจำนวนมากเข้ามาเป็นกรรมการแพทยสภา) จนประสบความสำเร็จ
15. เป็นแกนนำในการจัดทำโครงการเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย (Patient Safety Program) ร่วมกับวิชาชีพด้านสุขภาพอื่นๆ.
16. จัดทำสื่อสาธารณะให้ความรู้ทางการแพทย์แก่ประชาชน โดยนำตัวอย่างผู้ป่วยจริงมาทำเป็นสารคดีกึ่งละครชื่อรายการ เพชฌฆาตเงียบ ออกอากาศ ทุกวันเสาร์เวลา 18.00 น. ทางทีวีไทยทีวีสาธารณะ.
นอกจากนี้ยังมีการเรื่องเร่งด่วนเฉพาะหน้าอีกจำนวนมากที่ได้ดำเนินการเพื่อให้ประชาชนมีเจตคติที่ดีต่อแพทย์และเพื่อปกป้องสิทธิอันชอบธรรมของแพทย์เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของแพทยสภาชุดนี้คือ
แพทยสภายุคใหม่ ยกคุณภาพชีวิตแพทย์ไทย โปร่งใส ใส่ใจประชาชน
อำนาจ กุสลานันท์ พ.บ. น.บ., น.บ.ท., ว.ว. (นิติเวชศาสตร์)
ศาสตราจารย์คลินิก เลขาธิการแพทยสภา
- อ่าน 2,240 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้