ผมได้รับการแต่งตั้งโดยแพทยสภาให้เป็นเลขาธิการแพทยสภาสมัย 2552-2554 ซึ่งเป็นสมัยแรกของผมรวมทั้งนายแพทย์อิทธพร คณะเจริญ ให้เป็นรองเลขาธิการแพทยสภาและให้มีผู้ช่วยอีก 6 คน พวกเราได้ปรึกษากันอย่างเข้มข้นส่งลูกรับลูกกันตลอด และมีความเห็นร่วมกันว่า ทีมเลขาฯน่าจะไปขอพบอาจารย์แพทย์ที่ประสบความสำเร็จเป็นที่เคารพนับถือของแพทย์ส่วนใหญ่เพื่อขอคำแนะนำ ขอความเห็น รวมทั้งปรึกษากิจการของแพทยสภา เพื่อนำมาประมวลเป็นวิสัยทัศน์ ภารกิจหลักของแพทยสภา.
ดังนั้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนมีนาคม พวกเราจึงไม่รอช้ารีบติดต่อประสานเกจิอาจารย์แพทย์ขอเข้าพบ อาจารย์อรุณ เผ่าสวัสดิ์, อาจารย์อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ, อาจารย์จรัส สุวรรณเวลา, อาจารย์เกษม วัฒนชัย (องคมนตรี) ท่านอาจารย์เหล่านี้ให้ความกรุณา อนุญาตให้ทีมเลขาธิการแพทยสภาเข้าพบตามลำดับ พวกเราถือว่าเป็นศิริมงคล ถือเป็นเกียรติ ถือเป็นการไหว้ครู ด้วยครับ. ขณะเข้าพบท่านอาจารย์ทุกท่านให้ความเมตตาแสดงวิสัยทัศน์ของท่านแสดงให้เห็นถึงวิธีคิด การวางตัว วางตำแหน่ง (position) ของแพทยสภาที่เหมาะสม ผมมีความรู้สึกดีมากๆ รู้สึกได้ว่าท่านอาจารย์มีความรู้มีปัญญามากสามารถมองภาพรวมที่ใหญ่มากทั้งที่เกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับวงการแพทย์ของเราครับ.
สรุปโดยรวมที่ทีมเลขาแพทยสภาเข้าพบ ครูแพทย์ มีข้อที่น่าจะนำมาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้ครับ
1) แพทยสภาสมควรหาสมดุลให้ได้ ระหว่างประชาชน แพทย์ และสถาบันแพทย์.
2) แพทยสภาควรส่งเสริมให้แพทย์มีความสามัคคี สร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของมวลหมู่สมาชิก.
3) แพทยสภาควรมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพโดยเฉพาะ PATIENT SAFETY.
4) แพทยสภาต้องไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก.
5) แพทยสภาควรดูแลเรื่องกฎหมายที่มีผลกระทบต่อการทำงานของแพทย์ โดยเฉพาะแพทย์ที่ดี แพทย์ที่ปฏิบัติงานภายใต้ข้อจำกัดของทรัพยากร.
6) ควรเร่งรัดคดีจริยธรรมที่เป็นที่สนใจของสังคม.
สุดท้ายอาจารย์ทุกท่านบอกว่าถ้าแพทยสภามีกิจการใดให้ช่วยก็บอก ท่านยินดีให้ความร่วมมือ ตรงนี้สิครับ ผมเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อแพทยสภาอย่างมากในอนาคตต่อไป ยังมีคำแนะนำให้กำลังใจอื่นๆ อีกมากแต่คงไม่ต้องเล่าทั้งหมด เพราะเป็นรายละเอียดปลีกย่อยเสียมากกว่า.
ที่จริงผมได้รับความกรุณาจากอาจารย์แพทย์ ที่เก่งๆ อีกมากและอีกส่วนหนึ่งผมใช้วิธีสังเกตใช้วิธี "ลักจำ" เป็นหลัก เนื่องจากอัจฉริยภาพของเกจิอาจารย์แพทย์มีมากมายเหลือเกินครับ ทุกท่านผ่านเหตุการณ์ ผ่านการตัดสินใจจนสามารถตกผลึกความคิดเป็นแนวทางของแต่ละคน ที่ผมขอเอ่ยนาม ได้แก่ อาจารย์สมศักดิ์ โล่ห์เลขา, อาจารย์ประมวล วีรุตมเสน, อาจารย์เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ ซึ่งท่านเหล่านี้ทำงานได้ผลผลิตสูงมากและผมได้มีโอกาสสัมผัสใกล้ชิดบ่อยๆ โดยเฉพาะอาจารย์เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ ต้องถือว่าสนิทท่านมองผมเป็นทั้งลูกศิษย์, เป็นน้อง, เป็นผู้ร่วมงาน ท่านพูดหลายครั้งว่า "หมอเป็นคนละพรรคกันได้ แต่สุดท้ายต้องเป็นพวกเดียวกัน" ยังมีอาจารย์ท่านอื่นอีกมากที่ผมใช้วิธี "ลักจำ" มาตลอด.
อีกท่านหนึ่งครับ อาจารย์จอมจักร จันทรสกุล เป็นอีกท่านหนึ่งที่ผมให้ความเคารพนับถืออย่างมากเป็นส่วนตัว ในส่วนที่ท่านมีจิตใจงดงาม, มีหัวใจแพทย์เกินร้อยอย่างแน่นอน ท่านมีหนังสือถึงผมเรื่อง "กังขาของสมาชิก" วันที่ 10 มีนาคม 2552 เป็นข้อมูลแสดงความคิดเห็นหลายเรื่องที่สำคัญดังนี้ครับ แพทย์ต้องมีวิญญาณแห่งความเป็นแพทย์ที่ดี ต่อกันให้รักใคร่สามัคคีกลมเกลียวกันต้องมี Unity อย่าไปนิยมเคารพนับถือนักการเมืองเกินขอบเขต ควรพัฒนาให้เปิดโรงเรียนแพทย์ใหม่เท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงคุณภาพและน่าจะสนับสนุนโรงเรียนแพทย์ที่มีอยู่เดิมให้ทบทวนการเลือกตั้งวาระของกรรมการที่อยู่ในหน้าที่ต่างๆ ควรสร้างคนรุ่นใหม่ให้มีความเข้มแข็ง มั่นคง มีคุณธรรม.
ในนามของเลขาธิการแพทยสภา ขอขอบคุณ อาจารย์แพทย์ทุกท่าน ทั้งที่ได้เอ่ยนามและไม่ได้เอ่ยนาม คำแนะนำ ข้อเสนอแนะที่ได้กรุณาชี้ จะเป็นภารกิจของแพทยสภาต่อไปอย่างแน่นอน หลายเรื่องที่แพทยสภาได้ทำอยู่แล้ว หลายเรื่องอยู่ในระหว่างพัฒนาดำเนินการ. สำหรับในที่นี้ ขณะนี้แพทยสภากำลังวางแผนให้แพทย์จบใหม่มีความเคารพความผูกพันกับครูแพทย์ จะจัดให้มีพิธีไหว้ "ครูแพทย์" เพื่อให้มีการปลูกฝังหัวใจแพทย์ให้กับแพทย์ที่จบใหม่ทุกปี โดยจะให้มีพิธีมอบ "ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม" มอบรางวัลแพทย์ดีเด่นของ แพทยสภา, และให้เป็นพิธีพระราชทานด้วยจะเชิญคณบดีทุกคณะมาร่วมกับแพทยสภาทุกราชวิทยาลัย เพื่อให้พิธีนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ ทรงเกียรติ. สุดท้ายให้แพทย์รุ่นใหม่มีความผูกพันกับสถาบันแพทย์ อาจารย์แพทย์ และได้ปฏิญาณตนต่อที่ประชุมในการรักษาจริยธรรมของแพทย์ ถือเป็นวันไหว้ครูของแพทย์ร่วมกันทุกสถาบันทั่วประเทศ โครงการนี้เป็นนวัตกรรมจำต้องได้รับการสนับสนุน ความร่วมมือ การประสานงานในระดับสูงอีกมาก ผมเชื่ออย่างยิ่งว่าจะส่งผลทางบวกอย่างยิ่งแก่สถาบันแพทย์ของเราโดยรวมและจะเป็นการสร้างวัฒนธรรมที่ดีงามของสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของเราสืบไป.
สัมพันธ์ คมฤทธิ์ พ.บ.
เลขาธิการแพทยสภา
- อ่าน 1 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้