-
นิตยสารหมอชาวบ้าน
106
กุมภาพันธ์ 2531
บุคคลที่เป็นลม จะต้องได้รับ “การจับชีพจร” ถ้าจับชีพจรที่ข้อมือหรือข้อพับข้อศอกไม่ได้ ให้จับที่คอ ถ้าแน่ใจว่าจับไม่ได้ แสดงถึงสัญญาณอันตรายว่า อาจเกิดจากหัวใจหยุดเต้น ซึ่งจะต้องตรวจให้แน่ใจอย่างรวดเร็วว่า1. “ดูว่าหมดสติจริงหรือเปล่า” โดยการเรียกชื่อ หรือหยิกต้นแขนต้นขาแรงๆ หรือใช้ข้อนิ้วมือกดขยี้บนกระดูกหน้าอก ถ้าหมดสติจะไม่แสดงความรู้สึกต่อการกระทำเหล่านี้2. ...
-
นิตยสารหมอชาวบ้าน
105
มกราคม 2531
“การเป็นลม” เป็นอาการเนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอชั่วคราว ทำให้ไม่รู้สึกตัวไประยะหนึ่ง มีได้หลายสาเหตุ เช่น หิว เหนื่อย ร้อนมาก กังวลใจ ตกใจ กลัว มีความเครียดอย่างรุนแรง เสียเลือด และมีการกระทบกระเทือนที่สมองอย่างรุนแรงลักษณะของผู้ที่เป็นลมในระยะแรกผู้เป็นลม อาจมีความรู้สึกที่บอกได้ว่า รู้สึกเวียนศีรษะ ตาพร่า หน้ามืด ใจสั่น มือเท้าไม่มีแรง จากนั้นจะหมดความรู้สึก ...
-
นิตยสารหมอชาวบ้าน
104
ธันวาคม 2530
เครื่องใช้ในการวัดความดันโลหิต1. เครื่องวัดความดันโลหิตมีหลายชนิดทั้งเล็ก และใหญ่ ชนิดใหญ่เหมาะสำหรับไว้ใช้กับที่ไม่เคลื่อนย้ายไปไหน ชนิดเล็กนำติดตัวไปได้ เครื่องวัดประกอบด้วยกระเปาะปรอท มีขีดบอกระดับ และผ้าพันแขน2. หูฟัง3. สำลี, แอลกอฮอล์ 70% สำหรับเช็ดหูฟังก่อนและหลังใช้วิธีการวัด1. ก่อนวัดความดันโลหิต ต้องให้ผู้ถูกวัดนั่งพัก หรือนอนพักก่อนประมาณ 10-15 นาที2. ...
-
นิตยสารหมอชาวบ้าน
103
พฤศจิกายน 2530
“ความดันโลหิต” หรือ “ความดันเลือด” หมายถึงแรงดันที่อยู่ในระบบหลอดเลือด จากการที่หัวใจสูบฉีดเลือดออกจากหัวใจไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย ในระยะเวลา 1 นาที“การวัดความดันโลหิต” เป็นการวัดการทำงานของหัวใจ และแรงดันในหลอดเลือด โดยเครื่องมือวัดความดันโลหิต ค่าที่วัดได้จะมี 2 ค่า คือ ค่าความดันสูงสุด ...
-
นิตยสารหมอชาวบ้าน
102
ตุลาคม 2530
“การหายใจ” เป็นการแสดงการสูดออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย โดยผ่านจมูก หลอดลม และปอด ที่เรียกว่า การหายใจเข้า และเป็นการแสดงการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกายโดยผ่านปอด หลอดลม และจมูก ที่เรียกว่า การหายใจออก การตรวจนับการหายใจเป็นการสังเกตว่ามีการหายใจที่ผิดปกติหรือไม่ ในจังหวะ และจำนวนครั้ง/นาที โดยวิธีการสังเกตไม่ให้ผู้ถูกสังเกตรู้ตัว ...
-
นิตยสารหมอชาวบ้าน
101
กันยายน 2530
“ชีพจร” เป็นสัญญาณการสูบฉีดเลือดออกจากหัวใจ เพื่อไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆของร่างกาย บริเวณที่สามารถจับชีพจรได้ชัดเจน คือ1. ที่ข้อมือทั้งสองข้าง โดยใช้นิ้วชี้ ...
-
นิตยสารหมอชาวบ้าน
100
สิงหาคม 2530
“ผ้าสามเหลี่ยม” เป็นผ้าพันแผลที่ตัดเป็นรูปสามเหลี่ยม ขนาดของผ้าสามเหลี่ยมขึ้นอยู่กับอวัยวะที่ใช้ และมีหลักการใช้เช่นเดียวกับผ้าพันแผลชนิดม้วน คือ1. ผ้าที่ใช้ต้องสะอาดและแห้ง2. ถ้าผ้าผืนใหญ่ ต้องพับให้มีขนาดพอเหมาะ3. พันให้พอกระชับ อย่าให้แน่นหรือตึงเกินไป4. การผูกปลายผ้า ควรผูกแบบเงื่อนกระตุก เสร็จแล้วใช้เข็มซ่อนปลายกลัดให้เรียบร้อย5. การผูกปลายผ้า ...
-
นิตยสารหมอชาวบ้าน
99
กรกฎาคม 2530
การพันผ้าที่ผ่านมา เป็นการพันชนิดเป็นเกลียว ซึ่งเหมาะสำหรับอวัยวะที่เป็นรูปทรงกระบอก เช่น แขน หรือขา แต่สำหรับอวัยวะที่มีข้อพับหรือข้อต่างๆ รวมทั้งฝ่ามือ ฝ่าเท้า หลังมือ หลังเท้า และไหล่ การพันผ้าเป็นรูปเลข 8 จะกระชับ ไม่ลื่นหลุดง่ายเหมือนการพันชนิดเกลียว ...
-
นิตยสารหมอชาวบ้าน
98
มิถุนายน 2530
เมื่อมีบาดแผลที่นิ้วมือหรือนิ้วเท้า ต้องการพันผ้าหลังทำแผลเรียบร้อยให้ปฏิบัติดังนี้1. จับม้วนผ้าหงายขึ้น ตั้งต้นพันมาตั้งแต่ปลายนิ้วโดยทับปลายผ้าที่ตั้งต้นก่อน 2-3 รอบ2. ...
-
นิตยสารหมอชาวบ้าน
97
พฤษภาคม 2530
“ผ้าพันแผล” ที่ใช้กันมากในชีวิตประจำวัน คือ ผ้าพันชนิดม้วน อาจเป็น “ผ้าโปร่ง” ชนิดเดียวกับผ้ากอซ หรือ “ผ้ายืด” ก็ได้วิธีการพันไม่แตกต่างกัน แต่ต้องเลือกขนาดให้พอเหมาะกับบริเวณที่จะพันคือ1. ผ้าพันสำหรับพันนิ้วมือ นิ้วเท้า จะใช้ขนาดกว้างประมาณ 1 นิ้ว2. ผ้าพันสำหรับพันแขนและขา จะใช้ขนาดกว้างประมาณ 2-4 นิ้ว3. ผ้าสำหรับพันศีรษะ ลำตัว ...