Skip to main content
ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
menu

Login Pop

  • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
search
  • เว็บหลักหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ
หน้าแรก » ถาม-ตอบปัญหาสุขภาพ » หลักการการใช้ยากันชักในหญิงตั้งครรภ์
  • ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

หลักการการใช้ยากันชักในหญิงตั้งครรภ์

โพสโดย l3aipat เมื่อ 18 พฤษภาคม 2553 14:26

คำถาม: อยากทราบหลักการการใช้ยากันชักในหญิงตั้งครรภ์ ?
หัวข้อในการสืบค้น: Epilepsy, Seizure, Phenytoin, Phenobarbital, Carbamazepine, Valproic acid ประเภทคำถาม :  Therapeutic use / efficacy
การสืบค้น
วิธีสืบค้น : ใช้เอกสารและคอมพิวเตอร์                       
แหล่งข้อมูล :  ใช้เอกสารทุติยภูมิ (Secondary Source) และเอกสารตติยภูมิ (Tietiary Source)
การเริ่มค้นหาคำตอบและคำตอบที่ได้ :
เริ่มจากการเปิดหนังสือ Applied Therapeutics โดยเปิดคำว่า Epilepsy จากในส่วนของ index ข้างหลังเล่มก่อน หลังจากนั้นจะพบว่ามีหัวข้อใหญ่ของ Epilepsy จากนั้นเมื่อเปิดค้นในหน้าหลักก่อน พบว่ามีอธิบายในเรื่องโรค Epilepsy และมีหัวข้อย่อยของหลักการการใช้ยากันชักในหญิงตั้งครรภ์ และจากนั้นได้ค้นเพิ่มในหนังสือ Pharmacotherapy Dipiro โดยเปิดในส่วนของสารบัญ โดยมีหัวข้อหลักคือ Seizure และมีเรื่องย่อยของการใช้ยากันชักในหญิงตั้งครรภ์ เมื่อพิจารณาจากหนังสือทั้ง 2 เล่มให้ข้อมูลที่คล้ายกัน และจากฐานข้อมูลของ CCIS ได้ให้ข้อมูลที่คล้ายคลึงกัน โดยคำตอบดังนี้คือ
1.  ก่อนอื่นให้พิจารณาถึงความจำเป็นในการใช้ยากันชัก
2. ในหญิงตั้งครรภ์ที่รับประทานยากันชักอยู่แล้ว ควรให้ในขนาดยาที่ต่ำที่สุด ที่ควบคุมอาการชักได้
3. ควรมีการตรวจวัดระดับยากันชักในเลือดทุก 1 เดือนในระหว่างตั้งครรภ์ถ้าเป็นไปได้ และถ้ามีอาการชักเกิดขึ้น ควรพิจารณาแพทย์ปรับขนาดยาเพิ่มขึ้นได้
4. เน้นถึงความจำเป็นที่ต้องรับประทานยากันชักอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถคุมอาการชักได้
5. ไม่แนะนำให้มีการใช้ยากันชักมากกว่า 1 ชนิดร่วมกัน เนื่องจากมีผลเพิ่มการเกิดทารกก่อวิรูปได้ โดยให้ใช้ยากันชัก 1 ชนิดเท่านั้น และในขนาดยาที่ต่ำที่สุดที่คุมชักได้
6. ให้ยา Folic acid 5 mg/day ในระหว่างที่ใช้ยากันชัก การให้ Folic acid อาจลดความพิการในทารกได้ นอกจากนี้การใช้ยา Phenytoin, Valproic acid มีผลรบกวน metabolism Folic acid ได้ มีผลทำให้เกิดการขาด Folic acid และอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิด congenital malformation
7. ควรมีการตรวจเพื่อดูความผิดปกติของ neural tube ของทารกในครรภ์ โดยอาจมีการตรวจโดยใช้วิธี Ultrasound
8. ในระหว่างที่ตั้งครรภ์ให้รับประทาน Vitamin K 10 mg/day เป็นเวลา 1 เดือนก่อนคลอด และถ้าแม่ได้รับยา Phenytoin, Phenobarbital, Carbamazepine เมื่อคลอดทารกแล้ว ทารกต้องได้รับการฉีด Vitamin K ในขนาด 1 mg  โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
9. ในช่วงหลังคลอด ควรมีการติดตามวัดระดับยากันชักในเลือดอย่างใกล้ชิด และแพทย์อาจปรับลดขนาดยาลงในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกหลังคลอดได้
10. ในช่วงที่ให้นมบุตร พบว่ายากันชักส่วนมากมักขับออกทางน้ำนมได้ จึงให้แม่หมั่นสังเกตอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นในทารก เช่นอาการง่วงซึม งอแงบ่อย รับประทานอาหารได้น้อยลง
จากนั้นได้ค้นข้อมูลเพิ่มในส่วนของผลจากยากันชักที่มีต่อทารกในครรภ์ พบว่า
- ยา Phenytoin ทำให้เกิด Fetal hydantoin syndrome 11 %
- ยา Phenobarbital ทำให้เกิด Fetal Phenobarbital syndrome 4.2 - 25 %
- ยา Carbamazepine ทำให้เกิด neural tube defect 19 % ซึ่งเกิดน้อยกว่ายา Valproate
- ยา Valproate เกิด neural tube defect, spina bifida พบว่าเกิดทารกก่อวิรูปได้มากกว่ายากันชักอื่นๆ ได้ถึง 20 เท่า
ซึ่งความผิดปกติที่พบได้บ่อยในทารก คือ ความผิดปกติในช่องปากและใบหน้า การเกิดโรคหัวใจตั้งแต่เด็กและการเกิด neural tube defect ถือว่ารุนแรงสุด แต่สัมพันธ์กับขนาดยาที่ใช้ ถ้าใช้ขนาดยาสูงย่อมมีโอกาสเกิดมากขึ้นด้วย และได้ค้นหาข้อมูลเพิ่มในหนังสือ Pregnancy and Lactation พบว่า ยา Phenytoin, Phenobarbital, Carbamazepine, Valproic acid อยู่ในกลุ่ม Pregnancy Category D            
เอกสารอ้างอิง:
· Susan J. Roger and Jose E. Cavazos ; Charpter 58 Epilepsy ; Pharmacotherapy Dipiro : A Pathophysiologic approach ; 7 th edition ;2008:938
· James W. McAuley, Rex S. Lott;Charpter 54 Seizure disorders;Teratogenicity;Applied Therapeutics 8 th ed :2005: 54-35
· MICROMEDEX® Healthcare Series. Available at: URL: http://www.thomsonhc.com/home/dispatch<. Accessed January 13, 2009
· Gerald G. Briggs, Roger K. Freeman, Sumner J. Yaffe; Drug in Pregnancy and Lactation;
7 th edition; 2005; 217,1277,1297,1689  
 

  • อ่าน 10,293 ครั้ง
  • พิมพ์หน้านี้พิมพ์หน้านี้
Skip to Top

คำถามสุขภาพ

  • ทั้งหมด
  • การแพทย์ทางเลือก
    • แพทย์แผนไทย
      • กดจุด
      • นวดไทย
    • แพทย์แผนจีน
  • ดูแลสุขภาพ
    • การดูแลผู้สูงอายุ
    • การปฐมพยาบาล
    • การรักษาเบื้องต้น
    • การใช้ยาสมุนไพร
    • คู่มือดูแลสุขภาพ
    • ยาและวิธีใช้
    • ตรวจสุขภาพด้วยตัวเอง
      • คำนวณค่า BMI
      • วินิจฉัยโรคเบื้องต้น
      • แนะนำการตรวจสุขภาพประจำปี
    • คุยสุขภาพ
      • กรณีศึกษา
      • ถามตอบปัญหาสุขภาพ
  • สุขภาพทางเพศและครอบครัว
    • การดูแลบุตร
    • แม่และเด็ก
    • การตั้งครรภ์
    • เรียนรู้เรื่องเพศและการวางแผนครอบครัว
  • สร้างเสริมสุขภาพ 3 อ. และป้องกันโรค
    • อาหาร
      • อาหาร 5 หมู่
      • อาหารของผู้่ป่วยโรคเรื้อรัง
        • ความดันสูง
        • หัวใจ
        • เกาต์
        • เบาหวาน
      • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
      • อาหารป้องกันมะเร็ง
      • อาหารสมุนไพร
    • ออกกำลังกาย
      • วิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แอร์โรบิค แอร์โรบอคซิ่ง รำกระบอง ไทเก็ก ชี่กง โยคะ
    • อารมณ์
      • การทำสมาธิ
      • การพักผ่อน
      • การพัฒนา EQ
      • จิตอาสา/ ฉือจี้
  • พฤติกรรมอันตราย
    • พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ
    • อนามัยสิ่งแวดล้อม
    • อิริยาบถ
  • โรคและอาการ
    • โรคเรื้อรัง
      • กลุ่มอาการเมตาโบลิค
      • ความดันโลหิตสูง
      • ถุงลมปอดโป่งพอง
      • มะเร็ง
      • อัมพฤกษ์ อัมพาต
      • เบาหวาน
      • โรคข้อ/เกาต์
      • โรคทางจิตเวช เครียด หวาดระแวง
      • โรคหวัด ภูมิแพ้
      • โรคหัวใจ
      • โรคหืด
      • ไขมันในเลือดสูง/ผิดปกติ
      • ไตวาย
    • โรคตามระบบ
      • ระบบทางเดินอาหาร
      • โรคจากอุบัติเหตุ สารพิษ และสัตว์พิษ
      • โรคช่องปากและฟัน
      • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      • โรคติดเชื้อ
      • โรคผิวหนัง
      • โรคพยาธิ
      • โรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
      • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศชาย
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศหญิง
      • โรคระบบทางเดินปัสสาวะ
      • โรคระบบทางเดินหายใจ
      • โรคระบบประสาทและสมอง
      • โรคระบบไหลเวียนโลหิต
      • โรคหู ตา คอ จมูก
    • โรคจากการทำงาน
      • พิษภัยจากสารเคมี (ยาฆ่าเมลง/ สารตะกั่ว)
      • โรคจากฝุ่นและสารเคมีในโรงงาน
      • โรคจากสัตว์ เช่น ฉี่หนู
      • โรคจากอริยาบทที่ผิดสุขลักษณะ
      • โรคเส้นเอ็นอักเสบ/ นิ้วล็อค
  • อื่น ๆ

  • สนับสนุนสื่อสุขภาพออนไลน์หมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • คำแนะนำสำหรับประชาชน เรื่อง โรคจากเชื้อแบคทีเรีย อีโคไลชนิดรุนแรง
  • ผ่าตัดฟรีสำหรับเด็ก ที่เป็นโรคหัวใจ
  • สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย (สพท.)

แผนผังเว็บไซต์

  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ

รวมลิงค์เครือข่าย

  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • สถาบันโยคะวิชาการ

สื่อสุขภาพ

  • คลิปสุขภาพ
  • หมอชาวบ้านรายเดือน
  • คลินิกรายเดือน
  • จดหมายข่าวย้อนหลัง
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • twitter หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)< และสถาบัน ChangeFusion< พัฒนาระบบโดย Opendream< สัญญาอนุญาต cc by-nc-sa <