Skip to main content
ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
menu

Login Pop

  • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
search
  • เว็บหลักหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ
หน้าแรก » ถาม-ตอบปัญหาสุขภาพ » คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรับประทานยา
  • ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรับประทานยา

โพสโดย l3aipat เมื่อ 30 มิถุนายน 2553 11:02

  1.  ยาทานก่อนอาหารต้องทานก่อนอาหารนานเท่าไร เพราะเหตุใดต้องทานก่อนอาหาร

  • สาเหตุที่ต้องรับประทานยาก่อนอาหาร เป็นไปได้จากหลายสาเหตุเช่น เนื่องมาจากยาตัวนั้นไม่ทนต่อกรดในกระเพาะ ยาตัวนั้นดูดซึมได้น้อยเมื่อมีอาหารอยู่ในกระเพาะ หรือต้องการให้ตัวยาออกฤทธิ์ภายหลังมื้ออาหารนั้น(เช่นยาเบาหวานบางชนิด)
  • ระยะเวลาที่ต้องทานก่อนอาหาร ขึ้นอยู่กับประเภทของยาตัวนั้นๆ โดยปกติให้ทานก่อนอาหาร ครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง เพราะเป็นช่วงที่กระเพาะอาหารว่าง และไม่มีกรดมาก
    ** กรณีที่ลืม ควรเปลี่ยนเป็นรับประทานหลังอาหารมื้อนั้นอย่างน้อย 2 ชั่วโมงแทน **
  • ผลเสียถ้าทานยาไม่ถูกเวลา ตัวยาอาจถูกดูดซึมลดลง เป็นผลทำให้ไม่หายจากโรค หรือถ้ากรณียาเบาหวาน ผลของยาที่ช่วยลดน้ำตาลของมื้ออาหารนั้นๆ ก็อาจออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่


  2.  ยาหลังอาหารต้องทานหลังอาหารนานเท่าไร เพราะเหตุใดต้องทานหลังอาหาร

  • ยาที่รับประทานหลังอาหารสามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ ยาที่ต้องทานหลังอาหารทันที และยาที่รับประทานหลังอาหาร
  • ยาที่ให้รับประทานหลังอาหารทันที มักเป็นยาที่ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร หรือทำให้เกิดผลข้างเคียง คลื่นไส้อาเจียน เช่นยาแอสไพริน
  • ส่วนยาที่ไม่มีคำเตือนให้ทานหลังอาหารทันที โดยมากยาประเภทนี้จะไม่มีปัญหาเหมือนยาที่ต้องทานก่อนอาหาร จึงสามารถทานหลังอาหารได้ การทานยาหลังอาหารจะดีกว่าก่อนอาหาร คือ ลดผลข้างเคียงคลื่นไส้อาเจียนจากยาได้ และ การลืมทานยาจะน้อยกว่าการทานก่อนอาหาร
  • ปกติจะแนะนำให้ทานหลังอาหาร 15- 30 นาที แต่ในทางปฏิบัติการทานหลังอาหารทันทีหรือ หลังอาหาร15-30 นาที ไม่ได้ให้ผลแตกต่างกันมากนัก จึงแนะนำให้รับประทานตามสะดวกของผู้ป่วย
     

3. ถ้าฉลากแนะนำให้รับประทานยาหลังอาหารเช้า แต่ว่าตอนเช้าเราไม่รับประทานอาหารจะทานยาได้ไหม

  • กรณีที่เป็นยาให้รับประทานหลังอาหารทั่วไป (ไม่ใช่ยาที่ระคายกระเพาะ หรือมีผลข้างเคียงคลื่นไส้ อาเจียน มากนัก) เราสามารถทานยาตอนท้องว่างได้ โดยการออกฤทธิ์ของยาไม่ต่างจากเดิม แต่ถ้าหากทานยาตัวนั้นๆแล้ว มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ก็แนะนำให้ทานอาหารเล็กน้อยก่อนทานยา

 

ภก.วินัย พากเพียรกิจศูนย์ข้อมูลยา (Drug Information Service)
ให้คำปรึกษาการใช้ยา โทร. 02-6671480 E-mail: [email protected]

 

  • อ่าน 2,407 ครั้ง
  • พิมพ์หน้านี้พิมพ์หน้านี้
Skip to Top

คำถามสุขภาพ

  • ทั้งหมด
  • การแพทย์ทางเลือก
    • แพทย์แผนไทย
      • กดจุด
      • นวดไทย
    • แพทย์แผนจีน
  • ดูแลสุขภาพ
    • การดูแลผู้สูงอายุ
    • การปฐมพยาบาล
    • การรักษาเบื้องต้น
    • การใช้ยาสมุนไพร
    • คู่มือดูแลสุขภาพ
    • ยาและวิธีใช้
    • ตรวจสุขภาพด้วยตัวเอง
      • คำนวณค่า BMI
      • วินิจฉัยโรคเบื้องต้น
      • แนะนำการตรวจสุขภาพประจำปี
    • คุยสุขภาพ
      • กรณีศึกษา
      • ถามตอบปัญหาสุขภาพ
  • สุขภาพทางเพศและครอบครัว
    • การดูแลบุตร
    • แม่และเด็ก
    • การตั้งครรภ์
    • เรียนรู้เรื่องเพศและการวางแผนครอบครัว
  • สร้างเสริมสุขภาพ 3 อ. และป้องกันโรค
    • อาหาร
      • อาหาร 5 หมู่
      • อาหารของผู้่ป่วยโรคเรื้อรัง
        • ความดันสูง
        • หัวใจ
        • เกาต์
        • เบาหวาน
      • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
      • อาหารป้องกันมะเร็ง
      • อาหารสมุนไพร
    • ออกกำลังกาย
      • วิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แอร์โรบิค แอร์โรบอคซิ่ง รำกระบอง ไทเก็ก ชี่กง โยคะ
    • อารมณ์
      • การทำสมาธิ
      • การพักผ่อน
      • การพัฒนา EQ
      • จิตอาสา/ ฉือจี้
  • พฤติกรรมอันตราย
    • พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ
    • อนามัยสิ่งแวดล้อม
    • อิริยาบถ
  • โรคและอาการ
    • โรคเรื้อรัง
      • กลุ่มอาการเมตาโบลิค
      • ความดันโลหิตสูง
      • ถุงลมปอดโป่งพอง
      • มะเร็ง
      • อัมพฤกษ์ อัมพาต
      • เบาหวาน
      • โรคข้อ/เกาต์
      • โรคทางจิตเวช เครียด หวาดระแวง
      • โรคหวัด ภูมิแพ้
      • โรคหัวใจ
      • โรคหืด
      • ไขมันในเลือดสูง/ผิดปกติ
      • ไตวาย
    • โรคตามระบบ
      • ระบบทางเดินอาหาร
      • โรคจากอุบัติเหตุ สารพิษ และสัตว์พิษ
      • โรคช่องปากและฟัน
      • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      • โรคติดเชื้อ
      • โรคผิวหนัง
      • โรคพยาธิ
      • โรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
      • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศชาย
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศหญิง
      • โรคระบบทางเดินปัสสาวะ
      • โรคระบบทางเดินหายใจ
      • โรคระบบประสาทและสมอง
      • โรคระบบไหลเวียนโลหิต
      • โรคหู ตา คอ จมูก
    • โรคจากการทำงาน
      • พิษภัยจากสารเคมี (ยาฆ่าเมลง/ สารตะกั่ว)
      • โรคจากฝุ่นและสารเคมีในโรงงาน
      • โรคจากสัตว์ เช่น ฉี่หนู
      • โรคจากอริยาบทที่ผิดสุขลักษณะ
      • โรคเส้นเอ็นอักเสบ/ นิ้วล็อค
  • อื่น ๆ

  • สนับสนุนสื่อสุขภาพออนไลน์หมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • คำแนะนำสำหรับประชาชน เรื่อง โรคจากเชื้อแบคทีเรีย อีโคไลชนิดรุนแรง
  • ผ่าตัดฟรีสำหรับเด็ก ที่เป็นโรคหัวใจ
  • สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย (สพท.)

แผนผังเว็บไซต์

  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ

รวมลิงค์เครือข่าย

  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • สถาบันโยคะวิชาการ

สื่อสุขภาพ

  • คลิปสุขภาพ
  • หมอชาวบ้านรายเดือน
  • คลินิกรายเดือน
  • จดหมายข่าวย้อนหลัง
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • twitter หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)< และสถาบัน ChangeFusion< พัฒนาระบบโดย Opendream< สัญญาอนุญาต cc by-nc-sa <