Skip to main content
ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
menu

Login Pop

  • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
search
  • เว็บหลักหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ
หน้าแรก » ถาม-ตอบปัญหาสุขภาพ » ประจำเดือนผิดปกติ
  • ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ประจำเดือนผิดปกติ

โพสโดย thanyaporn เมื่อ 17 ธันวาคม 2553 12:02

ถาม : คืออยากทราบประจำเดือนของหนูไม่มาเลยตลอดเดือนพฤศจิกายนแต่ก้อมีเหมือนคล้ายเลือดค่ะแต่เป็นสีคร้ำๆออกมาแต่ก้อไม่ใช่ประจำเดือนค่ะ ซึ่งเดือนตุลาประจำเดือนมาวันที่  22 ต.ค.  จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มาเลยค่ะ  แล้ววันที่ 5 ธ.ค หนูมีเพศสัมพันธ์กับแฟนแล้วไม่ใส่ถุงยางเลย  แฟนหนูบอกว่าไม่ได้ปล่อยข้างในแต่เหมือนมีน้ำอยู่ในช่องคลอดค่ะ  พอหลังมีเพศวัมพัธุ์เสร็จมีเลือดออกมาค่ะเลยแปลกใจค่ะว่าผิดปกติอะไรหรือป่าวค่ะ  พอตื่นเช้ามาหนูเลยไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมากิน  แล้วกรณีอยา่างหนูจะผิดปกติอะไรม้ยค่ะแล้วประจำเดือนของหนูจะมามั้ย  ตอนนี้กลุ้มใจมากกลัวท้องแล้วหนูต้องตรวจครรภ์ว่าท้องตอนไหนค่ะ  ให้คำด้วยนะค่ะ

ผู้ตอบ : ผศ.ดร.สุภัสร์ สุบงกช

ตามข้อมูลทางวิชาการ การกินยาคุมฉุกเฉินทั้งแบบฮอร์โมนผสม และแบบที่มีฮอร์โมนเดี่ยวมีวิธีการกินเหมือนกันคือ ต้องกิน 2 ครั้ง 
ครั้งแรกภายในเวลา 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์
ครั้งที่สอง กินหลังจากที่กินครั้งแรกไปแล้ว 12 ชั่วโมง 
หมายความว่า ถ้ามีเพศสัมพันธ์ตอนสองทุ่ม และกินยาเม็ดแรกตอน 5 ทุ่ม จะต้องกินยาเม็ดที่สองตอน11 โมงเช้าซึ่งก็คือ 12 ชั่วโมงถัดมานั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังมีการศึกษาวิจัยว่า จำเป็นต้องกินยาเม็ดที่สองหรือไม่เพราะถ้าประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ในกรณีที่กินเม็ดเดียว กับกรณีที่กินยาสองเม็ดนั้นไม่แตกต่างกันการกินแค่เม็ดเดียว น่าจะช่วยลดอาการข้างเคียงของยาลงได้แต่ยังไม่สามารถยืนยันผลใดๆเนื่องจากการศึกษาวิจัยนี้ยังไม่เสร็จสิ้น 

ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาคุมธรรมดาซึ่งที่ต้องกินเป็นประจำทุกวัน หากแต่ยาคุมฉุกเฉินมีปริมาณฮอร์โมนสุงกว่าเพราะผลิตขึ้นมาเพื่อ แก้ปัญหาให้แก่ผูหญิงที่ไม่ต้องการตั้งครรภ์ในกรณีต่อไปนี้เท่านั้น

1. มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใช้วิธีคุมกำเนิดใดๆ

2. ใช้ถุงยางแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่ารั่ว/แตก/หลุดหรือไม่

3. กินยาคุมชนิดธรรมดาอยู่ แต่ลืมเกินไป วันสองวันหรือนานกว่านั้น

4. ใส่ห่วงคุมกำเนิดแล้ว แต่มันหลุด

5. นับระยะปลอดภัย (หน้าเจ็ดหลังเจ็ด) ผิดพลาด

6. ถูกข่มขืน, มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ตั้งใจ ไม่เต็มใจ

ในภาวะฉุกเฉินที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ การกินยาคุมฉุกเฉินอย่างถูกวิธี หลังจากมีเพศสัมพันธ์จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงของการตั้งครรภ์ได้ประมาณ75% แต่ถ้าคุณมีเพศสัมพันธ์อยู่เป็นประจำ หรือมีเป็นระยะๆ คุณควรจะใช้วิธีคุมกำเนิดแบบธรรมดาซึ่งจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีกว่าการกินยาคุมฉุกเฉิน

ในกรณีที่ประจำเดือนมาช้าอาจจากเกิดจากความกังวลก็ได้ ในกรณีที่มีข้อสงสัยเรื่องตั้งครรภ์ ให้ปรึกษาแพทย์แผนกสูตินรีเวชจะดีที่สุด

 

  • อ่าน 1 ครั้ง
  • พิมพ์หน้านี้พิมพ์หน้านี้
Skip to Top

คำถามสุขภาพ

  • ทั้งหมด
  • การแพทย์ทางเลือก
    • แพทย์แผนไทย
      • กดจุด
      • นวดไทย
    • แพทย์แผนจีน
  • ดูแลสุขภาพ
    • การดูแลผู้สูงอายุ
    • การปฐมพยาบาล
    • การรักษาเบื้องต้น
    • การใช้ยาสมุนไพร
    • คู่มือดูแลสุขภาพ
    • ยาและวิธีใช้
    • ตรวจสุขภาพด้วยตัวเอง
      • คำนวณค่า BMI
      • วินิจฉัยโรคเบื้องต้น
      • แนะนำการตรวจสุขภาพประจำปี
    • คุยสุขภาพ
      • กรณีศึกษา
      • ถามตอบปัญหาสุขภาพ
  • สุขภาพทางเพศและครอบครัว
    • การดูแลบุตร
    • แม่และเด็ก
    • การตั้งครรภ์
    • เรียนรู้เรื่องเพศและการวางแผนครอบครัว
  • สร้างเสริมสุขภาพ 3 อ. และป้องกันโรค
    • อาหาร
      • อาหาร 5 หมู่
      • อาหารของผู้่ป่วยโรคเรื้อรัง
        • ความดันสูง
        • หัวใจ
        • เกาต์
        • เบาหวาน
      • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
      • อาหารป้องกันมะเร็ง
      • อาหารสมุนไพร
    • ออกกำลังกาย
      • วิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แอร์โรบิค แอร์โรบอคซิ่ง รำกระบอง ไทเก็ก ชี่กง โยคะ
    • อารมณ์
      • การทำสมาธิ
      • การพักผ่อน
      • การพัฒนา EQ
      • จิตอาสา/ ฉือจี้
  • พฤติกรรมอันตราย
    • พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ
    • อนามัยสิ่งแวดล้อม
    • อิริยาบถ
  • โรคและอาการ
    • โรคเรื้อรัง
      • กลุ่มอาการเมตาโบลิค
      • ความดันโลหิตสูง
      • ถุงลมปอดโป่งพอง
      • มะเร็ง
      • อัมพฤกษ์ อัมพาต
      • เบาหวาน
      • โรคข้อ/เกาต์
      • โรคทางจิตเวช เครียด หวาดระแวง
      • โรคหวัด ภูมิแพ้
      • โรคหัวใจ
      • โรคหืด
      • ไขมันในเลือดสูง/ผิดปกติ
      • ไตวาย
    • โรคตามระบบ
      • ระบบทางเดินอาหาร
      • โรคจากอุบัติเหตุ สารพิษ และสัตว์พิษ
      • โรคช่องปากและฟัน
      • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      • โรคติดเชื้อ
      • โรคผิวหนัง
      • โรคพยาธิ
      • โรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
      • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศชาย
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศหญิง
      • โรคระบบทางเดินปัสสาวะ
      • โรคระบบทางเดินหายใจ
      • โรคระบบประสาทและสมอง
      • โรคระบบไหลเวียนโลหิต
      • โรคหู ตา คอ จมูก
    • โรคจากการทำงาน
      • พิษภัยจากสารเคมี (ยาฆ่าเมลง/ สารตะกั่ว)
      • โรคจากฝุ่นและสารเคมีในโรงงาน
      • โรคจากสัตว์ เช่น ฉี่หนู
      • โรคจากอริยาบทที่ผิดสุขลักษณะ
      • โรคเส้นเอ็นอักเสบ/ นิ้วล็อค
  • อื่น ๆ

  • สนับสนุนสื่อสุขภาพออนไลน์หมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • คำแนะนำสำหรับประชาชน เรื่อง โรคจากเชื้อแบคทีเรีย อีโคไลชนิดรุนแรง
  • ผ่าตัดฟรีสำหรับเด็ก ที่เป็นโรคหัวใจ
  • สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย (สพท.)

แผนผังเว็บไซต์

  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ

รวมลิงค์เครือข่าย

  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • สถาบันโยคะวิชาการ

สื่อสุขภาพ

  • คลิปสุขภาพ
  • หมอชาวบ้านรายเดือน
  • คลินิกรายเดือน
  • จดหมายข่าวย้อนหลัง
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • twitter หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)< และสถาบัน ChangeFusion< พัฒนาระบบโดย Opendream< สัญญาอนุญาต cc by-nc-sa <