ถาม : ดวงทอง/สระบุรี
ผู้ป่วยโลหิตจางทาลัสซีเมีย และควรดูแลรักษาทำอย่างไรบ้างคะ
ตอบ : พญ.กลีบสไบ สรรพกิจ
การรักษาโรคโลหิตจางทาลัสซีเมีย ส่วนใหญ่เป็นการรักษาแบบประคับประคองโดยการให้เลือด ซึ่งมี ๒ แบบ คือ
แต่ข้อเสียของการให้เลือดวิธีนี้คือ ผู้ป่วยต้องมารับเลือดอย่างสม่ำเสมอและจะมีปัญหาที่สำคัญแทรกซ้อนตามมา คือภาวะธาตุเหล็กเกิน เพราะการให้เลือดทุก ๑ มิลลิลิตรของเม็ดเลือดแดง และมีธาตุเหล็กประมาณ ๑ มิลลิกรัม ธาตุเหล็กที่ได้รับนี้จะตกค้างอยู่ในร่างกายและไปสะสมในอวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจ ตับ และตับอ่อน
ในผู้ป่วยที่ได้รับเลือดตั้งแต่ ๑๐-๑๒ ครั้งขึ้นไป จะเริ่มมีภาวะธาตุเหล็กเกิน จึงจำเป็นต้องให้ยาขับธาตุเหล็ก ซึ่งในอดีตต้องให้โดยวิธีฉีดเข้าใต้ผิวหนังช้าๆ ใช้เวลาครั้งละ ๑๐-๑๒ ชั่วโมง สัปดาห์ละ ๕-๖ วัน จึงจะขับธาตุเหล็กออกได้เต็มที่ และต้องฉีดยาดังกล่าวตลอดชีวิต
ปัจจุบันมีความก้าวหน้าในการใช้ยาขับเหล็กเป็นยาชนิดกิน ซึ่งมีหลายชนิด แต่ละชนิดมีประสิทธิภาพและผลแทรกซ้อนที่แตกต่างกันไป ดังนั้น ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนตัดสินใจเลือกใช้ยาดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีวิธีการรักษาที่ทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสหายขาดจากโรคได้ คือ การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด แต่เป็นการรักษาที่มีความเสี่ยงสูง จึงใช้รักษาเฉพาะในรายที่เป็นทาลัสซีเมียชนิดที่มีอาการรุนแรงเท่านั้น
สำหรับผู้ป่วยทาลัสซีเมีย ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ผาดโผน เนื่องจากมีกระดูกเปราะและหักได้ง่าย และควรดูแลสุขภาพฟันสม่ำเสมอ นอกจากนี้ควรกินอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม อาหารที่มีวิตามินโฟเลตสูง เช่น ผักสดต่างๆ รวมถึงหลีกเลี่ยงอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ตับ เลือดหมู และเลือกเครื่องดื่มประเภทน้ำชา น้ำเต้าหู้ ซึ่งจะช่วยลดการดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหารได้บ้าง
- อ่าน 5,043 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้