ปวดๆ ปวดสะโพก ปวดข้อมือ
ถาม : สุกาญจน์/อุบลราชธานี
ดิฉันอายุ ๕๔ ปี หมดประจำเดือนเมื่ออายุ ๕๒ ปี รู้สึกว่าร่างกายไม่แข็งแรง ขอปรึกษาคุณหมอ ดังนี้ค่ะ
๑. หิ้วของหนักทำให้รู้สึกปวดเอวมาก ดิฉันจึงให้เขานวดวันแรกก็รู้สึกดี พอวันที่ ๒ ปวดหน้าแข้ง แล้วก็ปวดร้าวขึ้นมาถึงสะโพกปวดมาก ไปหาหมอหมอก็ให้ยามากิน กินวันเดียวก็หาย แต่ผ่านมาหลายเดือนแล้ว หน้าแข้งดิฉันกลับมีอาการชา ขาไม่ค่อยมีกำลัง (อาการปวดเอวไม่เป็น) ดิฉันอยากจะเรียนถามคุณหมอว่าขาดิฉันทำไมไม่เป็นปกติสักที ดิฉันต้องกินยาหรือไม่ หรือต้องบริหารขาแบบไหนจึงจะหายเป็นปกติ
๒. ข้อมือก็เจ็บค่ะ เพราะออกแรงดึงประตูเหล็กแรง ตอนวันแรกปวด วันต่อมาจะเป็นอาการแบบเจ็บ จับอะไรหรือมือชนอะไรก็จะเจ็บมาก และถ้าจับข้อมือตรงที่เป็นก็จะเจ็บ ขณะนี้ดิฉันใช้ผ้ายืดพันไว้ และนวดด้วยน้ำมัน ดิฉันควรจะทำอย่างไรถึงจะหายและอาการดังกล่าวเกิดจากสาเหตุอะไร
๓. ท้องอืดทั้งที่กินอาหารก็ไม่มาก ท้องจะบวมอืดกว่าจะยุบก็หลายชั่วโมง และผายลมบ่อยมาก บางครั้งจะแสบท้อง แต่ไม่บ่อยเหมือนผายลมกับท้องอืด สังเกตว่าอาหารรสเผ็ดจะทำให้มีอาการ บางคนบอกว่าดิฉันเป็นโรคกระเพาะ แต่ทำไมคนที่เป็นโรคกระเพาะ เขาไม่ท้องอืดและผายลม ดิฉันเป็นอะไร และควรจะกินยาอะไรจะได้หายเป็นปกติ การดื่มน้ำมากวันละ ๓ ลิตร จะทำให้ท้องอืดหรือไม่คะ
ขอความกรุณาคุณหมอช่วยตอบด้วยนะคะ
ตอบ : นพ.สุรชัย ปัญญาพฤทธิ์พงศ์
๑. การหิ้วของหนักอาจทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังบริเวณส่วนเอวเคลื่อนไปกดทับเส้นประสาท ซึ่งเส้นประสาทนี้จะทอดยาวจากเอวผ่านสะโพกลงไปจนถึงเท้า หากเส้นประสาทถูกกดทับ มีผลทำให้ขาชาและอ่อนแรง ถ้าปวดมากก็อาจกินยาแก้ปวด แต่ถ้าไม่ปวดก็ไม่จำเป็นต้องกินยา ส่วนอาการชาอาจกิน วิตามินบี ๑, วิตามินบี ๖, วิตามิน บี ๑๒ วันละ ๓ เม็ด อาการของคุณเป็นมาหลายเดือน ผมคิดว่าน่าจะให้แพทย์ตรวจสักครั้งเพื่อการวินิจฉัยที่แน่นอน และให้การรักษาที่ถูกต้อง การออกกำลังกายที่ดีและไม่มีผลต่อหมอนรองกระดูกสันหลัง ได้แก่ การว่ายน้ำ ส่วนกายบริหารผู้ป่วยปวดขาเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและเสริมสร้างความแข็งแรง ดังรูปต่อไปนี้
๒. ข้อมือของคุณอาจเกิดการยืดของเอ็นหรือเยื่อหุ้มข้อ ควรพักการใช้มือ ๒-๓ วัน ใช้ผ้ายืดก็พอช่วยได้ ไม่ควรนวดแรงๆ เพราะจะทำให้ระบมมากยิ่งขึ้น หากจะใช้น้ำมันทาเพื่อการนวด ก็ควรจะนวดเบาๆ หากอาการปวดไม่ทุเลาลงเกิน ๑-๒ สัปดาห์ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย
๓. อาการท้องอืดอาจเกี่ยวกับอาหาร ถ้ากินอาหารรสเผ็ดจัดแล้วมีอาการมากขึ้น ควรลดการกินอาหารรสเผ็ดลง บางครั้งท้องอืดเกิดจากการกินอาหารมันๆ อาหารหรือเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดแก๊ส หรือกินอาหารมากเกินไป การผายลมก็จะเป็นการช่วยแก้ท้องอืดโดยธรรมชาติอีกวิธีหนึ่ง หลังกินอาหารควรลุกขึ้นเดิน เพราะจะช่วยให้ลำไส้ทำงานดีขึ้น หรือลดอาการท้องอืดลง การดื่มน้ำมากวันละ ๓ ลิตร ไม่น่าจะมีผลต่ออาการท้องอืด
- อ่าน 6,201 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้