• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ไข้สมองอักเสบ

ถาม : ดวงเดือน/ขอนแก่น
ดิฉันเพิ่งย้ายภูมิลำเนามาอยู่ที่จังหวัดขอนแก่นได้ประมาณ ๖ เดือน มีอยู่วันหนึ่งผ่านสถานีอนามัย เห็นป้ายเชิญชวนให้นำลูกหลานไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบ
ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า ไข้สมองอักเสบนี่ร้ายแรงเพียงใด และทำไมจึงฉีดวัคซีนให้เฉพาะในเด็ก
ขอความกรุณาคุณหมอช่วยให้ความกระจ่างด้วยนะคะ

ตอบ : นพ.สุรเกียรติ  อาชานานุภาพ
ไข้สมองอักเสบ (encephalitis) หมายถึง การอักเสบของเนื้อสมอง ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสซึ่งมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน บางครั้งอาจพบเป็นโรคแทรกซ้อนของโรคหัด คางทูม ไข้สุกใส
เชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุสำคัญที่สุดของไข้สมองอักเสบในบ้านเราก็คือ เชื้อไวรัสเจอี (JE ซึ่งย่อมาจาก Japanese encephalitis) ซึ่งพบมีการระบาดในบางปีได้ โรคนี้พบมากทางภาคเหนือ รองลงมาคือภาคอีสาน ส่วนภาคกลางและภาคใต้พบได้น้อยกว่า ๒ ภาคแรก
ไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัสเจอี ตามธรรมชาติเป็นโรคที่ถ่ายทอดกันอยู่ในระหว่างสัตว์ ตั้งแต่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นก ไปจนถึง สัตว์เลื้อยคลาน ทั้งที่เป็นสัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยง โดยมียุงรำคาญที่อยู่ตามบ้านและท้องนาเป็นพาหะนำเชื้อ
สัตว์เลี้ยงสำคัญที่มักติดเชื้อไวรัสเจอี ได้แก่ หมู วัว ควาย ม้า แกะ เชื้อไวรัสจะขยายพันธุ์อยู่ในสัตว์เหล่านี้ ในบ้านเราพบว่าลูกหมูเป็นแหล่งแพร่เชื้อที่สำคัญที่สุด เมื่อยุงกัดสัตว์เหล่านี้ เชื้อที่อยู่ในเลือดจะเจริญแพร่พันธุ์ในยุง เมื่อยุงบินไปกัดคน (สามารถบินไปได้ไกลหลายกิโลเมตร) ก็จะแพร่เชื้อเข้าไปในคน คนที่รับเชื้อไวรัสชนิดนี้เข้าไป        บางคนอาจไม่มีอาการแสดง (ไม่ป่วยเป็นโรค) แต่บางคนก็อาจป่วยเป็นไข้สมองอักเสบได้ ระยะฟักตัวของโรค (ตั้งแต่รับเชื้อจนปรากฏอาการป่วย) ประมาณ ๕-๑๔ วัน
ไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัสเจอี จึงพบมากในแหล่งที่มีการเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่มีการเลี้ยงหมูจำนวนมาก เช่น ในชนบทและบริเวณชานเมือง          และพบมากในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนมิถุนายน-สิงหาคม แต่ก็อาจพบประปรายได้ตลอดทั้งปี
เด็กอายุต่ำกว่า ๑๐ ปี มีโอกาส เป็นโรคนี้มากกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ พบมากที่สุดในเด็กอายุ ๕-๙ ขวบ ส่วนเด็กโตและผู้ใหญ่จะป่วยเป็นโรคนี้น้อย เนื่องจากเคยได้รับเชื้อ (โดยไม่แสดงอาการ) และมีภูมิต้านทานโรคเกิดขึ้นตามธรรมชาติแล้ว
โรคนี้จัดว่ามีอันตรายร้ายแรง ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ ๑๐๐ คนมีโอกาสตายประมาณ ๑๐-๒๐ คน ในรายที่เป็นรุนแรง (เช่น ไข้สูงตลอดเวลาอยู่นานวัน ชักหรือหมดสติอยู่เป็นเวลานาน) หากไม่ตาย ก็อาจมีความพิการของสมอง สมองเสื่อม แขนขาเป็นอัมพาต หรือปัญญาเสื่อม ได้ ส่วนในรายที่เป็นไม่รุนแรงก็มักจะหายได้เป็นปกติ
เนื่องจากโรคนี้เกิดจากไวรัส ไม่มียารักษาโดยตรง ผู้ป่วยจะหาย หรือตาย หรือพิการ ขึ้นกับความรุนแรงของโรคเป็นสำคัญ ดังนั้น ทางที่ดีควรหาทางป้องกัน โดยการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสเจอี วัคซีนนี้ฉีดได้กับคนทุกอายุ แต่เด็กจะได้   รับประโยชน์มากกว่าผู้ใหญ่ เพราะผู้ใหญ่มักจะมีภูมิต้านทานโรคนี้อยู่แล้ว ควรฉีดในเด็กตั้งแต่อายุ ๑-๓ ขวบ เริ่มแรกฉีด ๒ เข็ม ห่างกัน ๑-๒ สัปดาห์ และอีก ๑ ปีต่อมาควรฉีดกระตุ้นอีก ๑ เข็ม
วัคซีนนี้ป้องกันได้เฉพาะไข้สมองอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัสเจอีเท่านั้น ไม่อาจป้องกันเชื้อไวรัสชนิดอื่น
คนที่มีอาการไข้ร่วมกับปวดศีรษะมาก อาเจียนบ่อย ซึมหรือชักควรไปพบแพทย์ทันที เพื่อตรวจหาสาเหตุให้แน่ใจ แล้วรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างจริงจัง
แพทย์จะตรวจทางระบบสมอง และประสาท และจะใช้เข็มพิเศษเจาะหลังเพื่อนำเอาน้ำเลี้ยงสมองและไขสันหลังไปตรวจพิเคราะห์โรค อาจทำการตรวจคลื่นสมอง หรือเอกซเรย์สมองในรายที่จำเป็น
ถ้าเป็นไข้สมองอักเสบจริง จะรับคนไข้ไว้รักษาในโรงพยาบาลโดยให้การรักษาตามอาการ เช่น ลดไข้ ให้น้ำเกลือ ป้อนอาหารทางท่อสายยางที่ต่อเข้ากระเพาะอาหาร      เจาะคอ (ถ้าหมดสติหรือมีเสมหะในคอมาก) ให้ยาแก้ชัก เป็นต้น
โดยสรุป ไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัสเจอี จัดเป็นโรคที่อันตรายร้ายแรง มีสัตว์เลี้ยง เช่น หมู วัว ควาย ม้า แกะ เป็นแหล่งแพร่เชื้อ โดยมียุงตามบ้านและท้องนาเป็นพาหะนำโรค เมื่อเป็นแล้วไม่มียารักษาโดยตรง จะหายหรือพิการ หรือตายขึ้นกับความรุนแรงของโรคเป็นสำคัญ ในปัจจุบันมีวัคซีนฉีดป้องกัน โดยเริ่มฉีดในเด็กอายุ ๑-๓ ขวบ