• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

กลัวเป็นโรคหัวใจขาดเลือด

กลัวเป็นโรคหัวใจขาดเลือด

ผู้ถาม กัญญา/ชลบุรี
โรคหัวใจขาดเลือด มีอาการเจ็บหน้าอกแบบใด และสังเกตอาการอะไรได้อีก

ดิฉันอายุ ๒๗ ปี น้ำหนัก ๕๔ กิโลกรัม สูง ๑๖๖ เซนติเมตร มีอาการแน่นหน้าอกมาก เวลาที่หัวใจบีบตัวจะรู้สึกปวด บางทีซีกซ้ายของร่างกายจะรู้สึกปวดร้าวไปทางด้านหลัง แล้วเริ่มชาไปหมดไม่มีแรงทำอะไรเลย ต้องพักสักระยะจึงจะค่อยๆ เริ่มมีแรงขึ้นมาใหม่ บางทีจะรู้สึกตรงหัวใจเหมือนมีอะไร มาบีบทำให้รู้สึกปวดและเวลาวิ่งออกกำลังกายจะรู้สึกว่าเหนื่อยมากถ้าพักสักระยะจะรู้สึกดีขึ้น และจะกลับมาเป็นอีกเหมือนเดิม ดิฉันมีอาการอย่างนี้ประมาณ ๒ ปีแล้วค่ะ เวลาไปหาหมอ

- บางท่านก็บอกว่าเป็นที่กล้ามเนื้ออักเสบ

- บางท่านก็เอกซเรย์ดูกระดูก ก็ไม่เป็นอะไร ตรวจดูหัวใจด้วยคลื่นไฟฟ้าก็ปกติ

- บางท่านก็บอกว่าเป็นโรคทางจิต

แล้วยาที่หมอให้ก็เป็นยาคลายกล้ามเนื้อ ยาบำรุง ยาพวกนั้นไม่ทำให้ดิฉันรู้สึกดีขึ้นเลย จะดีก็ตอนนอนพักผ่อน วัดความดันบางทีก็ปกติ บางทีก็ต่ำ ดิฉันคิดว่าคงไม่ใช่โรคทางจิตแน่นอน เพราะบางทีคุยกับเพื่อนและหัวเราะก็รู้สึกปวด โดยปกติแล้ว ดิฉันไม่ใช่คนเครียด ดิฉันก็เลยไม่ทราบว่าเป็นโรคอะไรแน่ เป็นไปได้ไหมคะที่ดิฉันจะเป็นโรคหัวใจขาดเลือด

ขอความกรุณาคุณหมอช่วยตอบปัญหาของดิฉัน จะเป็นพระคุณอย่างสูงค่ะ
 

ผู้ตอบ นพ.สมเกียรติ แสงวัฒนาโรจน์

อาการแน่นหน้าอกที่เกิดในผู้หญิงอายุน้อยอย่างคุณที่เล่ามาให้ฟัง เกือบทั้งหมดไม่ได้เกิดจากโรคหัวใจขาดเลือด ยกเว้นแต่ว่าคุณมีปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคนี้อย่างชัดเจน เช่น สูบบุหรี่จัดมานาน หรือมีประวัติเครือญาติในครอบครัว เป็นโรคหัวใจขาดเลือดตั้งแต่อายุยังน้อย (น้อยกว่า ๔๐ ปี) ซึ่งมักเกิดจากไขมันในเลือดสูงมาก อีกประการหนึ่ง คือ อาการปวดเวลาหัวใจบีบตัวเป็นอาการที่แปลก ไม่เหมือนอาการแน่นหน้าอกจากหัวใจขาดเลือด ซึ่งจะแน่นบริเวณกลางหน้าอกตลอดเป็นนาทีๆ ไม่ใช่ปวดเป็นจังหวะตามการเต้นของหัวใจ ซึ่งปกติหัวใจจะเต้นประมาณ ๖๐-๘๐ ครั้งต่อนาทีในเวลาพัก

ผมคิดว่าอาการนี้อาจเป็นอาการที่เรารู้สึกว่าใจสั่น หัวใจ  เต้นแรงกว่าปกติ ซึ่งมักจะพบในคนที่ตื่นเต้น ตกใจง่ายครับ เช่นเดียวกับอาการเหมือนมีอะไรมา บีบหัวใจ การที่คุณออกกำลังกายแล้วจะรู้สึกเหนื่อยมาก อาจเกิดจากคุณไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่เดิม ถ้าได้ออกกำลังบ่อยๆ และค่อยๆ เพิ่มวันละ ๕-๑๐ นาที ร่างกายจะปรับตัวทำให้รู้สึกเหนื่อยน้อยลงครับ  ไม่น่าเกิดจากหัวใจขาดเลือด ซึ่งมักจะมีอาการแน่นกลางหน้าอก เวลาออกแรงยกของหรือวิ่งออกกำลังกายมากกว่าอาการเหนื่อยง่ายครับ

ส่วนอาการปวดซีกซ้ายร้าวไปหลังแล้วชา ไม่มีแรงทำอะไร ผมคิดว่าเป็นความรู้สึกชา หมดเรี่ยวหมดแรงแบบเดียวกับที่บางคนรู้สึกหน้าชาเวลาถูกว่า ไม่ใช่ชาจริงจากหลอดเลือดหรือระบบประสาทผิดปกติ

วิธีทดสอบดูง่ายๆ คือ ถ้าอาการชานั้นไม่รู้สึกร้อนเวลาถูกของร้อน ไม่รู้สึกเย็นเวลาถูกน้ำแข็ง ไม่เจ็บเวลาเข็มแทง จึงจะเป็นอาการชาจริง ไม่ใช่รู้สึกชา ซึ่งมักเกิดจากความเครียด ความกังวล หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ อาการแน่นหน้าอกของคุณบางอย่างจะคล้ายกับอาการหัวใจขาดเลือด แต่การวินิจฉัยโรคนี้ จะต้องใช้ประวัติหลายๆอย่างมาประกอบกับโอกาสที่จะเกิดโรคด้วย ผมจึงคิดว่าโอกาสที่คุณจะเป็นโรคหัวใจขาดเลือดจากอาการที่คุณเล่ามานี้มีน้อยมาก ไม่น่าจะต้องกังวลครับ เพราะคุณมีอาการมาเกือบ ๒ ปี ไปให้แพทย์ตรวจหลายท่านก็ไม่พบว่าเป็นโรคหัวใจขาดเลือด

ผมมีข้อเสนอแนะสองประการ จะให้คุณลองไปทำดู เผื่อจะช่วยแก้ปัญหาได้บ้าง คือ

๑. ลองสังเกตดูว่ามีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการเกิดอาการปวดเจ็บหน้าอกหรือไม่ อะไรทำให้เป็นมากขึ้น อะไรทำให้เป็นน้อยลง เช่น บางคนจะแน่นหน้าอกในวันที่ทำงานมากกว่าวันที่พักผ่อน(เสาร์-อาทิตย์ หรือเวลาไปเที่ยว) สาเหตุของอาการก็น่าจะเกี่ยวข้องกับการทำงาน เป็นต้น ก็ให้หลีกเลี่ยงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับอาการเจ็บหน้าอก

๒. การออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ ๒-๓ ครั้ง  ไม่ว่าจะเป็นวิ่ง กระโดดเชือก ถีบจักรยาน ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิก เล่นกีฬาต่างๆ ทีละน้อยๆ ดังกล่าว น่าจะช่วยให้อาการดีขึ้น และทำใจให้สบายว่าไม่ได้เป็นโรคหัวใจขาดเลือด