• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

วัคซีนป้องกันอีสุกอีใสมีผลเสียหรือไม่

ดิฉันทราบมาว่าไวรัสที่ก่อโรคอีสุกอีใสกับงูสวัดเป็นตัวเดียวกัน ดิฉันจึงสงสัยว่าการที่ฉีดวัคซีนป้องกันอีสุกอีใสเท่ากับเป็นการนำเชื้อเข้าสู่ร่างกายเพื่อสร้างภูมิต้านทานนี้ จะทำให้ผู้ฉีดมีโอกาสเป็นโรคงูสวัดได้ไหมคะ
ผู้ถาม นริศรา/กรุงเทพฯ
ผู้ตอบ นพ.สมศักดิ์ โล่เลขา

ถาม
ดิฉันได้ติดตามอ่านหมอชาวบ้านเรื่อง “วัคซีนใหม่จำเป็นต้องใช้หรือไม่” ของคุณหมอในฉบับที่ ๒๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๐ แล้วบังเอิญได้อ่านเรื่องงูสวัด จึงทราบว่าไวรัสที่ก่อโรคอีสุกอีใสกับงูสวัดเป็นตัวเดียวกัน โดยผู้ที่เคยเป็นอีสุกอีใสจะมีโอกาสเป็นงูสวัดด้วยเพราะมีเชื้อไวรัสตัวนี้อยู่ในร่างกาย เมื่อใดที่ร่างกายอ่อนแอ เชื้อตัวนี้ก็จะทำให้เป็นงูสวัด (ไม่ทราบว่าดิฉันเข้าใจถูกต้องหรือเปล่า)

ดิฉันจึงสงสัยว่าการที่ฉีดวัคซีนป้องกันอีสุกอีใสเท่ากับเป็นการนำเชื้อเข้าสู่ร่างกายเพื่อสร้างภูมิต้านทานนี้ จะทำให้ผู้ฉีดมีโอกาสเป็นโรคงูสวัดได้ไหมคะ เท่ากับผู้นั้นต้องเสียเงินค่าวัคซีนอีสุกอีใสซึ่งมีราคาแพงมาก แล้วยังต้องเสี่ยงต่อการเป็นงูสวัดด้วย
ดิฉันรบกวนคุณหมอช่วยชี้แจงให้เข้าใจด้วยค่ะ ว่ากรณีเช่นนี้มีโอกาสเกิดขึ้นหรือไม่
และตามปกติคนเราต้องเป็นอีสุกอีใสตามธรรมชาติทุกคนอยู่แล้ว แต่เมื่อเราฉีดวัคซีนแล้วไม่เป็นอีสุกอีใสไม่ทราบว่าจะทำให้เกิดผลเสียอะไรตามมาภายหลังหรือไม่คะ
ขอความกรุณาคุณหมอช่วยตอบให้ด้วยนะคะ

ตอบ
โรคอีสุกอีใสและโรคงูสวัดเกิดจากเชื้อตัวเดียวกันจริง ที่คุณเข้าใจว่าคนที่เป็นงูสวัดจะต้องเคยได้รับเชื้ออีสุกอีใสสมาก่อนแล้วเชื้อไปหลบอยู่ในปมประสาททท เมื่อภูมิคุ้มกันชนิดที่ใช้เซลล์เป็นสื่อ (cell mediated immunity) ลดลง ไวรัสก็จะออกมาเป็นโรคงูสวัดนั้นถูกต้อง แต่คนที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสนั้นมีโอกาสที่จะเป็นโรคงูสวัดน้อยกว่าคนที่เป็นโรคอีสุกอีใสโดยธรรมชาติ ทั้งที่เราเอาเชื้ออีสุกอีใสที่มีชีวิตฉีดเข้าไปในคนไข้

เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะคนที่เป็นโรคอีสุกอีใสจะมีตุ่มที่ผิวหนัง เชื้อที่ผิวหนังจะเข้าปลายเส้นประสาทย้อนกลับเข้าไปอยู่ที่ปมประสาทแล้วกลับมาเป็นโรคงูสวัดเวลาร่างกายอ่อนแอ ส่วนคนที่ได้รับวัคซีนอีสุกอีใสมักไม่มีตุ่มที่ผิวหนังเพราะเชื้อถูกทำให้อ่อนฤทธิ์แล้วจึงไม่มีไวรัสเข้าไปอยู่ในปมประสาท ทำให้ไม่เกิดโรคงูสวัดตามมา การที่ในอดีตทุกคนต้องเป็นโรคอีสุกอีใสเพราะโรคนี้ติดต่อได้ง่าย ถ้าเราได้รับเชื้ออีสุกอีใสโดยที่เรายังไม่มีภูมิเราก็จะป่วยเป็นโรค ถ้าเรามีภูมิแล้วไม่ว่าจากการติดเชื้อโดยธรรมชาติ หรือจากการได้รับวัคซีนก็ตามเราก็ไม่เป็นอีก

โดยทั่วไปเด็กที่เป็นโรคอีสุกอีใสอาการมักไม่รุนแรง แต่เด็กวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่มักจะมีอาการรุนแรง เพราะฉะนั้นถ้าอายุ ๑๐ ปีแล้ว ยังไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสอาจจะพิจารณาให้วัคซีนได้