• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

รังแค

รังแค

ผู้ถาม มนูธรรม/บางซื่อ
รังแคเกิดจากสาเหตุอะไร จะสามารถรักษาให้หายขาดได้ไหม 

ขอเรียนถามปัญหาสุขภาพ ดังนี้
ผมมีปัญหาเกี่ยวกับรังแคมานานแล้ว เคยไปรักษาที่สถาบันโรคผิวหนังก็ไม่หาย มีเพื่อนแนะนำว่าให้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่ง ได้ยาสระผมมาใช้ ตอนแรกก็ทำท่าว่าจะดี พอสระได้ระยะหนึ่ง (ยายังไม่หมดขวดเลย) รังแคก็กลับมาใหม่ แต่ก็ยังใช้ยาสระผมที่หมอให้มาจนหมดขวดนะครับ ไม่ทราบว่ารังแคเกิดจากสาเหตุ อะไร จะรักษาให้หายได้อย่างไรบ้าง ตอนนี้ใช้ยาสระผมที่โฆษณาว่ารักษารังแคได้อยู่ครับ และใครแนะนำว่าอะไรดีไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรพื้นบ้าน หรือยาที่ไหนดีก็ใช้ทุกอย่าง ตอนนี้ผมรู้สึกขาดความมั่นใจมากครับ เพราะต้องคอยปัด ต้องคอยหันซ้าย หันขวาระวังรังแคตลอดเลยครับ ผมขอความกรุณาคุณหมอช่วยแนะนำวิธีการรักษาที่ถูกต้องด้วยครับ

ผู้ตอบ พญ.ณัฏฐา  รัชตะนาวิน

เป็นปัญหาผิวหนังที่พบได้บ่อย มักเริ่มเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น สาเหตุของรังแคปัจจุบันเชื่อว่าเกิดจากเชื้อยีสต์ (Pityrosporum ovale) ซึ่งเป็นเชื้อที่อาศัยอยู่ในรูขุมขนของคนทั่วไป และใช้ไขมันที่ผลิตจากต่อมไขมันเป็นอาหาร ในผู้ป่วยที่มีปัญหารังแคมักจะมีจำนวนเชื้อนี้มากกว่าคนทั่วไป ดังนั้นการรักษาจึงมุ่งไปเพื่อลดจำนวน เชื้อให้น้อยลง โดยใช้ยาสระผมซึ่งมีส่วนประกอบของคีโตโคนาโซล, ซิงค์ไพริไทโอน, ซีลีเนียม ซัลไฟด์ หรือทาร์ เป็นต้น

การใช้ยาสระผมเหล่านี้ ไม่สามารถกำจัดเชื้อให้หมดไปได้ เพียงทำให้ลดจำนวนลงและไม่ก่อให้เกิดปัญหา ผู้ป่วยต้องใช้ยาสระผมเหล่านี้ติดต่อกัน ๒-๓ ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลา ๒-๔ สัปดาห์ การสระผมแต่ละครั้งต้องทิ้งยาสระผมไว้เป็นระยะเวลา ๕-๑๕ นาที เพื่อให้ออกฤทธิ์ ไม่ควรรีบล้างออก หลังจากอาการดีขึ้น สามารถลดการใช้เป็น ๑-๒ ครั้งต่อสัปดาห์ หลังจากใช้ยาสระผมติดต่อกันเป็นระยะเวลานานอาจพบว่าไม่ได้ผลดี ควรเปลี่ยนเป็นยาสระผมชนิดอื่นในกลุ่มที่กล่าวข้างต้นแล้วหมุนเวียน สลับกันไปเรื่อยๆได้ ส่วนมากหลังเลยวัยรุ่นหรือเมื่อความมันของผิวลดลงอาการก็จะดีขึ้น

ในกรณีที่ใช้ยาสระผมเพียงอย่างเดียวแล้วไม่ได้ผล อาจต้องได้รับการตรวจเพื่อหาโรคผิวหนังอื่น ซึ่งอาจเป็นสะเก็ดผิวหนังคล้ายรังแคได้ เช่น โรคสะเก็ดเงิน หรือเชื้อราที่หนังศีรษะ เป็นต้น ซึ่งโรคทั้ง ๒ ชนิดนี้จำเป็นต้องใช้ยาทาที่ลดการอักเสบของผิวหนัง หรือยากินฆ่าเชื้อรา เป็นต้น