ขอคำแนะนำในการรักษาดวงตาประเภทต้อเนื้อ
สุรศักดิ์/พิจิตร : ผู้ถาม
ผมอายุ ๖๐ ปี มีอาการทางสายตามาประมาณ ๔ ปี โดยไปหาหมอตาที่คลินิก หมอบอกว่าเป็นต้อเนื้อและเยื่อตาขาวอักเสบต้องใช้ยาหยอดตามาโดยตลอด
ผมขอเรียนถามคุณหมอดังนี้
๑. การใช้ยาหยอดตานานๆ จะมีปัญหาทางด้านสายตาหรือไม่
๒. ทุกวันนี้คุณหมอยังให้ยา หยอดตา ๒ หลอด ๔ เวลา อยาก ทราบจะมีอาการดีขึ้นไหม
๓. ขอทราบรายชื่อโรงพยา-บาลรัฐบาลที่กรุงเทพฯ ที่ใดบ้างที่ รับรักษาโรคเกี่ยวกับดวงตา ประเภท ต้อเนื้อ
๔. การล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นตามด้วยน้ำเย็นในตอนเช้า และล้างหน้าด้วยน้ำเย็นตามด้วยน้ำอุ่น ก่อนนอน จะมีประโยชน์ต่อดวงตา ไหม
๕. ผมอยากทราบวิธีบริหาร ดวงตาอย่างง่ายๆ
ศ.พญ.สกาวรัตน์ คุณาวิศรุต : ผู้ตอบ
ต้อเนื้อเป็นการเสื่อมของเยื่อบุตาบริเวณที่โดนแสงแดด (รังสีอัลตราไวโอเลต) สิ่งที่ระคายเคือง อยู่เป็นประจำกลายเป็นเนื้อเยื่อรูป สามเหลี่ยมที่หัวตาขาวชิดตาดำ หากต้อเนื้อมีการอักเสบก็จะก่อให้ เกิดอาการระคายเคือง และถ้าเป็น มากอาจทำให้สายตามัวลง วิธีรักษาอาการระคายเคืองคงต้องใช้ ยาหยอดตาบำบัดรักษา แต่วิธีที่ง่ายกว่าคือการป้องกันมิให้เกิดต้อ เนื้อ หรือแม้เป็นแล้วก็มิให้เกิด อาการอักเสบ โดยวิธีหลีกเลี่ยงแสงแดด ลม ฝุ่น ควันต่างๆ ตลอด จนสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง โดยการใช้แว่นกันแดด กันลม กัน ฝุ่น ตลอดจนหลีกเลี่ยงบริเวณดังกล่าว การรักษาด้วยยาหยอดส่วน ใหญ่น่าจะใช้ยาเมื่อมีการอักเสบหรือเมื่อมีอาการระคายเคืองมากๆ เท่านั้น ไม่ควรใช้ยาตลอด
ขอตอบคำถามของคุณดังนี้
๑. การใช้ยาหยอดตาบางตัว นานๆ อาจก่อให้เกิดผลเสียในระยะ ยาวรุนแรงได้ ยาบางตัวอาจก่อให้ เกิดผลเสียเล็กน้อย บางตัวอาจไม่ มีผลเสียต่อตา แต่ก็ทำให้สิ้นเปลือง โดยไม่จำเป็น อย่าลืมว่ายาเกือบทุกตัวทั้งยากิน ยาฉีด ยาหยอด มี คุณแต่มักจะแฝงด้วยโทษหรือข้อ เสียเล็กๆ น้อยๆ เสมอ การใช้ยา จึงต้องชั่งใจถึงผลดีของยาและผล เสียของยาไปด้วย โดยทั่วไปยาที่ ให้โดยแพทย์น่าจะมีประโยชน์ต่อ ผู้ป่วยมากกว่าการไม่ใช้ยา แต่ควร จะใช้ตามที่แพทย์สั่งเท่านั้น มิใช่นำตัวอย่างไปซื้อใช้ต่อไปเรื่อยๆอย่างที่มักชอบปฏิบัติกัน เพราะยา ตัวนั้นอาจมีโทษเมื่อใช้หลายๆ ขวด แต่ไม่มีโทษเมื่อใช้เพียงขวดเดียว และแพทย์ก็ตั้งใจให้ผู้ป่วยใช้ขวดเดียวเท่านั้น ถ้าคุณสงสัยอาจถาม แพทย์ผู้สั่งยาว่ายาดังกล่าวมีข้อ เสียอะไรบ้างและใช้ได้บ่อยแค่ไหน
๒. คุณคงตอบได้ดีกว่าหมอ เมื่อคุณใช้ยาไปแล้ว อาการที่คุณเป็นทุเลาไปบ้างหรือไม่ ถ้าไม่ คุณ ก็น่าจะไปปรึกษาแพทย์อีกครั้ง หมอ คงตอบไม่ได้เพราะไม่ทราบยาที่ได้และไม่ได้ตรวจดูพยาธิสภาพที่คุณเป็นด้วย
๓. โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ เกือบทุกแห่งที่มีจักษุแพทย์จะให้คำแนะนำและรักษาที่ดีแก่คุณ อันที่ จริงสำหรับโรคต้อเนื้อและเยื่อบุตา แพทย์ทั่วไปก็ให้การรักษาได้ ที่โรงพยาบาลพิจิตรก็มีหมอตาประจำ หลายท่าน คุณน่าจะไปปรึกษาได้ ไม่จำเป็นต้องเข้ามาในกรุงเทพฯ
๔. น่าจะให้ความสดชื่น สบาย สะอาดบริเวณใบหน้ามากกว่า ไม่ น่าจะมีประโยชน์อะไรต่อดวงตา
๕. ร่างกายคนเรา รวมทั้งกล้ามเนื้อ กระดูก ข้อต่อต่างๆ ถ้า มีการออกกำลังกาย ขยับเขยื้อนอยู่เสมอ จะทำให้แข็งแรงดี สำหรับ กล้ามเนื้อกลอกตาของคนเรา มีการขยับอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วในการจับภาพต่างๆ รอบกาย อีกทั้ง มีการกะพริบตาอันเป็นการออก กำลังของกล้ามเนื้อรอบตาอยู่แล้ว ไม่น่าจะต้องมีการบริหารอะไร มีอยู่อันเดียวคือกล้ามเนื้อที่ทำให้ดวงตา ๒ ข้างเข้าหากัน เพื่อมอง ภาพระยะใกล้ๆ ในบางคนอาจจะ ไม่ดี ทำให้การใช้สายตาระยะใกล้ นานๆ ก่อให้เกิดอาการปวดเมื่อย นัยน์ตา เวลาทำงานใกล้เป็นระยะ เวลานานๆ จึงควรบริหารกล้ามเนื้อ ส่วนนี้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้
- ใช้มือข้างที่ถนัดถือไฟฉายหรือดินสอ แล้วยืดแขนออก ไปสุดแขน ให้ไฟฉาย หรือดินสออยู่ตรงกึ่งกลางของดั้งจมูก ตาทั้ง
๒ ข้างเพ่งไปที่ดวงไฟ หรือดินสอ และ เพ่งให้เห็นดวงไฟ ๑ ดวง หรือดินสอ ๑ แท่ง ในกรณีที่ท่านเห็นเป็น ๒ อาจจะหลับตาทั้ง ๒ ข้างลงก่อน แล้ว ลืมตาดูใหม่ พยายามมองให้เห็นไฟเป็น ๑ ดวง หรือดินสอ ๑ แท่ง จากนั้นค่อยๆ เลื่อนมือเข้ามาใกล้ตาเรื่อยๆ ช้าๆ เพื่อจะได้สังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างจุดตั้งต้นกับระยะที่เลื่อนไฟเข้า มา เมื่อใดที่ท่านเห็นไฟหรือดินสอแยกเป็น ๒ จุด หรือเริ่มมัวไม่ชัดเช่นจุดเริ่มต้น ให้ถอยมือกลับไปตั้งต้นเห็น ชัดที่ระยะสุดแขนเช่นเดิม แล้วเลื่อนเข้ามาใหม่ดึงแขน เข้า-ออกดังนี้ ๒๐ ครั้ง แล้ว หยุดฝึก
- ในแต่ละวันต้องทำ ๓ ครั้งครั้งละ ๒๐ รวมเป็นวันละ๖๐ ครั้ง ดังอธิบายไว้ในข้อ ๑ ทำให้สม่ำเสมอทุกวัน
- อ่าน 20,428 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้