• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ข้อเข่าบวม

ข้อเข่าบวมเนื่องจากการเล่นกีฬา หมอได้ดูดน้ำในเข่าออกให้ แล้วให้ยามากิน อยากทราบว่าถ้ากินยานานๆ จะมีอันตรายหรือไม่
ผู้ถาม
ยงยศ/กรุงเทพฯ
ผู้ตอบ นพ.สุรชัย ปัญญาพฤทธิ์พงศ์ 

ถาม ผมอายุ ๓๕ ปี สูง ๑๖๙ เซนติเมตร น้ำหนัก ๖๕ กิโลกรัม เคยเข้าโรงพยาบาลเนื่องจากลำไส้ส่วนต้นตีบ

หลายเดือนมานี้ผมมีปัญหาคือ ข้อเข่าขวาบวม เนื่องจากการเล่นกีฬาสกี ในระหว่างการเล่นมีการหกล้ม แต่ไม่มีอาการเจ็บในขณะเล่น หลังจากนั้นอีกประมาณ ๑ เดือน จึงมีอาการเจ็บที่หัวเข่าขวา และ ๑ เดือนถัดมาจึงไปหาหมอ หมอได้ดูดน้ำออก (มีสีเหลืองอ่อนๆ) ประมาณ ๑๕ ซีซี อาการก็ดีขึ้น คือ เดินได้ตามปกติ ไม่เจ็บ

ต่อมาอีกประมาณ ๔ เดือน เข่าก็บวมขึ้นอีก (ค่อยๆบวม) ไปหาหมออีกที หมอก็ดูดน้ำออกอีกประมาณ ๕๐ ซีซี อาการก็ดีขึ้นอย่างทันตาเห็น ผมกินยาตามปกติอีกประมาณ ๑ เดือน อาการก็ดีขึ้น

หลังจากนั้นอีกประมาณ ๔ เดือนก็เริ่มเป็นอีก (ค่อยๆบวมขึ้นๆ) คราวนี้ผมไม่ไปหาหมอคนเดิม แต่ผมเปลี่ยนมากินยาของหมออีกคนหนึ่งเป็นยาแก้ปวด และยาข้ออักเสบ กินร่วมกับยากระเพาะอาหาร อาการ ปวดและบวมค่อยๆลดลง แต่ก็ยังลดลงไม่เท่าเข่าซ้าย บางวันก็ไม่เจ็บ บางวันก็รู้สึกตึงๆ ตอนนี้กินยาของหมอคนหลังนี้มาได้ ๒ สัปดาห์แล้ว รู้สึกว่าดีขึ้นเรื่อยๆ
๑. ปัญหาก็คือ ผมต้องกินยาไปอีกนานจนกว่าจะหายเป็นปกติหรือไม่
๒. ยามีผลอะไรต่อร่างกายในส่วนอื่นหรือไม่
๓. ข้อแนะนำสำหรับอาการนี้ควรทำอย่างไรบ้าง
 
ตอบ
อาการของคุณอาจเกิดจาก เอ็นยึดข้อเข่าหรือหมอนรองกระดูกในข้อเข่าฉีกขาดบางส่วน หรือมีส่วนของกระดูกในข้อเข่าแตกชิ้นเล็กๆ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการอักเสบที่เยื่อหุ้มข้อเข่าหรือกระดูกข้อเข่าเมื่อได้รับการกระทบกระเทือน จึงทำให้เกิดอาการบวมได้

การเจาะน้ำออกจากเข่าจะทำให้อาการดีขึ้นชั่วคราว การนำน้ำในเข่าไปตรวจดูเซลล์และส่วนประกอบทางเคมี อาจจะช่วยบอกได้ว่าข้อสันนิฐานข้างต้นถูกต้องหรือไม่ หรือเกิดจากสาเหตุอื่น ขอตอบปัญหาดังนี้
๑. การกินยาโดยไม่ได้หาสาเหตุให้พบคงไม่มีประโยชน์ในระยะยาว และถ้าหากสาเหตุไม่ได้รับการแก้ไข ก็จะไม่หายขาด
๒. ยาต้านอักเสบและยาแก้ปวดส่วนมากจะมีผลต่อกระเพาะอาหาร ทำให้มีเลือดในกระเพาะอาหารออกได้ นอกจากนั้นยาส่วนมากจะมีผลต่อตับและไต การกินยาไปนานๆอาจเกิดผลเสียได้ ยาบางชนิดอาจทำให้เกิดอาการบวมน้ำ เนื่องจากทำให้ระดับเกลือโซเดียมในร่างกายสูงขึ้น ทำให้หัวใจต้องทำงานมากขึ้น อาการแทรกซ้อนของยาที่พบบ่อยๆ ได้แก่ อาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องผูก เป็นต้น
๓. ควรให้แพทย์ตรวจให้พบสาเหตุปัจจุบันแพทย์อาจใช้กล้องส่องเข้าไปดูพยาธิสภาพในข้อเข่า ได้ทำให้รู้ถึงสาเหตุ สามารถให้การรักษาที่ถูกต้อง และพยากรณ์โรคได้