• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ไอออนโต

พรรณี/กรุงเทพฯ : ผู้ถาม
ปัจจุบันนี้เห็นมีโฆษณาเกี่ยวกับการทำไอออนโตกันมากขึ้น สถานเสริมความงามแทบทุกแห่งมีเครื่องไอออนโต เสมือนเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้หญิงรักสวยรักงามต้องทำไอออนโต

ดิฉันจึงมีคำถามรบกวนถามคุณหมอดังนี้ค่ะ
1. การทำไอออนโตคืออะไร มีการโฆษณาว่าเป็นการทำให้ผิวขาวได้ เป็นความจริงหรือไม่
2. ไอออนโตใช้รักษาฝ้า กระ แผลเป็น รอยเหี่ยวย่น ได้จริงหรือไม่
3. ขณะที่ทำเจ็บมากไหม
4. หลังจากทำไอออนโตแล้วจะมีแผลเป็นหรือมีผลแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายหรือไม่

นพ. ปริทัศน์ ศุกรีเขตร : ผู้ตอบ

ไอออนโตเป็นคำเรียกมาจากคำว่า ไอออนโตฟอร์ซิส (Iontophoresis) เป็นการใช้กระแสไฟฟ้านำยาหรือสารเคมีลงสู่ผิวหนัง
1. ปัจจุบันมีการนำเอาเครื่องมือไอออนโตมาใช้ในวงการเสริมความงามให้ผิวสดใสหรือขาวขึ้น โดยการใช้ร่วมกับวิตามินและสารเคมีอีกบางชนิด ซึ่งการทำเช่นนี้ค่อนข้างจะแพร่หลายในประเทศทางแถบเอเชียมากกว่าทางยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา

แต่ผมยังไม่เคยเห็นเอกสารการทำวิจัยและศึกษาทั้งทางคลินิกและทางวิทยาศาสตร์ที่ดีสำหรับการทำให้ผิวขาวหรือสดใสขึ้นเลย

2. การทำไอออนโตที่ทำกันทั้งหลาย มีการตั้งราคาที่แตกต่างกันออกไป และมีการอ้างว่าได้ผลต่างๆ นานา
ไม่ว่าจะเป็นการลบรอยดำ หรือทำให้รอยดำที่เกิดขึ้นหลังจากการที่มีแผลหรือผิวหนังอักเสบมาก่อน (postinflammatory hyperpigmentation) จางลง การรักษากระรักษาฝ้า การรักษาผิวลาย (stria distensae) หรือแม้แต่การรักษาแผลเป็น การชะลอความแก่ หรือเหี่ยวย่น มีการใช้สารเคมีต่างๆ กันออกไป เช่น บางที่แจ้งว่ามีการใช้วิตามินซี

การอ้างว่าได้ผลเกือบทั้งหมดหรือทั้งหมด ไม่มีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่ดีพอในการสนับสนุนข้ออ้างดังกล่าวเลย และแทบจะไม่มีการกล่าวถึงผลเสียหรือข้อแทรกซ้อนของการรักษาเลย

3. ขณะที่ได้รับการทำไอออนโต ผู้ที่ได้รับการทำจะรู้สึกแปลบๆ เหมือนไฟฟ้าดูดอยู่น้อยๆ การที่มีการใช้อุปกรณ์สื่อนำไฟฟ้าสัมผัสกับบริเวณผิวหน้าและวนไปวนมานั่นก็เป็นการช่วยลดความรู้สึกแปลบๆ ของการถูกไฟฟ้าดูดน้อยๆ นั่นเอง

4. เมื่อเสร็จสิ้นการทำไอออนโต บริเวณที่ได้รับการทำอาจจะแดงหรือเป็นสีชมพูอยู่ชั่วคราว การทำไอออนโตนั้นมักจะมีการนัดให้มาทำบ่อยพอสมควร เช่น 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และเป็นระยะเวลาต่อเนื่องหลายสัปดาห์ ไม่ว่าสารเคมีหรือยานั้นจะออกฤทธิ์ต่อผิวหนังอย่างไร แต่รอยแผลที่โดยไฟฟ้าของผิวหนังก็จะยังผลให้ผิวหนังชั้นบนเกิดการลอกตัว อาจเป็นน้อยๆ จนมองไม่เห็นว่าเป็นขุยหรือเป็นมากจนเป็นขุยให้เห็นได้

สำหรับภาวะแทรกซ้อนของการทำไอออนโตเพื่อความสวยงามนั้นก็มีหลายประการ เช่น ยิ่งทำไปยิ่งดำขึ้น หน้าแดง หน้าลอก แสบหน้า เป็นต้น ทั้งนี้เพราะหลักการของไอออนโตก็คือการใช้กระแสไฟฟ้าช่วยพาเอาสารเคมีหรือยาลงไปใต้ผิวหนัง

ธรรมชาติของผิวหนังจะมีขี้ไคลเป็นฉนวนหรือเกราะที่คอยปกป้องผิวหนังไม่ให้ได้รับอันตรายกระแสไฟฟ้าจะต้องไปทำให้ฉนวนหรือเกราะนี้เสื่อมสภาพไปบ้างไม่มากก็น้อย ยาหรือสารเคมีจึงจะลงไปได้

ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ จึงอาจทำให้เกิดข้อแทรกซ้อนในระยะยาวได้คือ การที่ผิวหนังหรือผิวหน้าเกิดการแพ้หรือการระคายเคืองได้ง่ายโดยเฉพาะในผู้ที่ได้รับการรักษาบ่อยและนานเกินไป คล้ายกับคนที่เคยได้รับการทำเบบีเฟส (Baby Face) มา

การที่ผู้ได้รับการรักษาเห็นว่าผิวขาวขึ้น อาจเกิดขึ้นได้ด้วยเหตุผลหลายอย่าง โดยไม่เกี่ยวกับวิตามินซีหรือยาที่ให้เลยก็ได้ เช่น เมื่อมีรอยแผลที่โดนไฟฟ้าบ่อยพอ ก็อาจทำให้เกิดเป็นรอยด่างหรือขาว เช่นเดียวกับกลไกที่ทำให้เกิดรอยขาวในเกลื้อนแดด หรือผิวหนังอักเสบชนิดอื่น

หรืออาจจะขาวขึ้น เพราะว่าผิวหนังชั้นขี้ไคลลอกหลุดเร็วขึ้น เช่น ในกรณีที่ใช้ยากินหรือยาทาในกลุ่มของกรดวิตามินเอ (vitamin A acid)

ดังนั้น การที่จะตัดสินใจทำไอออนโตนั้นควรจะใช้ความพินิจพิเคราะห์เช่นเดียวกับการที่ไปให้ร้านเสริมสวยบำรุงรักษาผิวหน้า ซึ่งแม้ว่าบางแห่งจะมีแพทย์เป็นผู้รับผิดชอบ แต่ผู้ที่ให้บริการนั้นก็เป็นผู้ที่ผ่านการฝึกหรืออบรมมาเท่านั้นไม่ได้มีความรู้อย่างลึกซึ้งถึงผลดีผลเสียในการทำแต่อย่างใด และผลที่ได้ก็เป็นผลชั่วคราวเท่านั้น ถ้าไม่ได้ทำอีกผิวหน้าก็อาจจะหมองหรือไม่สดใสเช่นเดิม แต่ถ้าจะทำตลอดไปก็อาจจะทำให้ผิวเกิดการแพ้หรือระคายเคืองได้ง่าย