• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ผลข้างเคียงของการยิงเลเซอร์

ผลข้างเคียงของการยิงเลเซอร์


ถาม : สุรีรัตน์/กรุงเทพฯ

ดิฉันมุมตาแคบ มีอาการปวดตา และมองภาพมืดเป็นบางครั้ง จึงยิงเลเซอร์ป้องกันต้อหินมุมปิดเฉียบพลันอยากทราบว่า

1.การยิงเลเซอร์นี้ช่วยอะไรได้บ้างก่อนยิงเลเซอร์ดิฉันจะมีอาการ ปวดตา ถ้าใช้สายตามากๆ (ทำงานแปลหนังสือ) หรือเดินอยู่ในห้างสรรพสินค้านานๆ ทำไมหลังยิงเลเซอร์ (พัก 3 วัน หลังจากนั้นพอเริ่มทำงานวันที่ 4 ช่วงตอนเย็นนั้นก็เริ่มปวดตาอีกและปวดขึ้นมาเรื่อยๆ ทุกวันจนเป็นไข้) จึงปวดตาอีก ดิฉันคิดว่าเมื่อยิงเลเซอร์แล้วจะช่วยเปิดทางระบายน้ำตาให้ไม่เกิดแรงดันในตา สามารถอ่านหนังสือได้เหมือนคนปกติเสียอีก

2.จะช่วยอธิบายการยิงเลเซอร์ ชนิดนี้ให้เห็นภาพพจน์ได้หรือไม่ ทำไมต้องยิง 2 เครื่องจำนวนครั้งที่ยิงเลเซอร์ทุกคนเท่ากันหรือไม่ ทำไมต้องยิงเลเซอร์ถึง 40-50 ครั้ง/ข้าง (ทราบว่าเจาะรูม่านตาด้วย)

3.เมื่อยิงเลเซอร์แล้วข้างในตาจะเป็นอย่างไร มีผลต่อดวงตาในอนาคตหรือไม่ ต้องดูแลทะนุถนอม ระวังอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า

4.ในอนาคตมีสิทธิ์จะเป็นต้อหินอีกไหม/ต้องยิงเลเซอร์อีกหรือไม่

5.ช่วงที่ผ่านมาดิฉันทำการรักษากับคุณหมอหลายท่าน ทำให้เกิดการหยดยาขยายม่านตา ยาชาบ่อยมาก ทราบมาว่าหยดยามากๆ จะทำให้มีสิทธิ์เป็นต้อหินได้ในอนาคต อยากทราบว่าที่ว่ามากๆ ขนาดไหน และดิฉันจะถนอมดวงตาได้อย่างไร ในเมื่อต้องโดนหยดยาอย่างนี้

6.ซื้อน้ำตาเทียมแบบใช้แล้วทิ้ง ที่ไม่ใส่สารกันบูด จะหยดวันละหลายๆครั้ง ถ้าหยดต่อเนื่องกันไปตลอดชีวิตจะมีผลเสียอะไรหรือเปล่าค่ะ จะได้ยั้งมือในการหยด(ดิฉันเป็นน้ำวุ้นนัยน์ตาเสื่อม 1 ข้าง และเป็นโรคตาแห้งด้วย)ขอขอบพระคุณในความกรุณา ที่ให้ความกระจ่างค่ะ
 

ตอบ : พญ.สกาวรัตน์ คุณาวิศรุต

ผู้ที่มีมุมตาแคบ มีโอกาสเกิดต้อหินมุมปิดเฉียบพลันสูงมาก ซึ่งถ้าเกิดขึ้นมาแล้วจะทรมานผู้ป่วยมาก
ทั้งปวดตา ตามัว บางคนคลื่นไส้อาเจียนด้วย เมื่อจักษุแพทย์พบผู้ป่วยที่มีมุมตาแคบร่วมกับมีประวัติปวดตาตามัวเป็นบางครั้ง เป็นอาการ เตือน การทำเลเซอร์จะช่วยป้องกันมิให้เกิดต้อหินเฉียบพลัน
และการทำเลเซอร์ก่อนเกิดโรคทำได้ง่ายๆ ผลแทรกซ้อนน้อย ผิดกับการมารักษาเมื่อเป็นแล้ว

ขอตอบคำถามคุณดังนี้
1.การยิงเลเซอร์ในกรณีของคุณช่วยป้องกันมิให้เกิดต้อหินเฉียบพลัน แต่อาจไม่ได้ช่วยให้คุณอ่านหนังสือได้ตามปกติ โดยทั่วไปถ้าคุณ อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป จะต้องใช้แว่นช่วยเวลาอ่านหนังสือ เรียกว่าเป็นสายตาผู้สูงอายุ อาการปวดตาอาจเกิดจากหลายสาเหตุและต้อหินเฉียบพลันเป็นหนึ่งในกลุ่มนั้น อาการปวดตาอาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น สายตาผิดปกติ สายผู้สูงอายุ เยื่อบุตาอักเสบ ม่านตาอักเสบ เป็นต้น การยิงเลเซอร์จึงไม่ได้รักษาอาการปวดตาจากเหตุต่างๆ

2.การยิงเลเซอร์เพื่อป้องกันต้อหินในกรณีคุณเป็นการเจาะรูที่ม่านตานั่นเอง ลองนึกถึงผ้าม่านแต่ ละผืนความหนาไม่เท่ากัน เนื้อผ้าอาจจะต่างกัน แถมผ้าม่านบางผืนเป็นจีบๆ ทำให้มีความหนามากขึ้น การเจาะรูที่ผ้าม่านจึงมีความยากง่าย ต่างกัน ถ้าม่านตาบางคนบางเหมือน ผ้าม่านชนิดผ้าลูกไม้ก็จะเจาะให้ทะลุได้ง่าย ตรงกันข้ามม่านตาบางคนทั้งหนาทั้งเหนียวก็จะเจาะให้เป็นรูได้ยาก (เช่น คนที่เป็นต้อหินเฉียบ พลัน ม่านตาจะหนายิงยากมาก) บางคนจึงยิงเพียง 2-3 ครั้ง ก็ทะลุแล้ว บางคนก็เป็นอย่างของคุณต้องยิงเลเซอร์ถึง 40-50 ครั้ง นอกจากนั้น ยังขึ้นอยู่กับการตั้งกำลังของเครื่องเลเซอร์ด้วย ถ้าตั้งไว้ต่ำก็อาจต้องใช้ยิงหลายๆ ครั้งถึงจะทะลุเป็นรู และเลเซอร์บางชนิดอาจจะคล้ายๆ ระเบิด พอยิงเข้าไปทำให้ม่านตาทะลุ เป็นรูด้วยการยิงเพียง 1-2 ครั้ง เลเซอร์บางชนิดก็ค่อยๆ กินเนื้อม่านตาทีละนิดกว่าจะทะลุจึงต้องต้องยิงหลายครั้ง

ในปัจจุบันเครื่องเลเซอร์ที่ใช้ยิงม่านตาให้เป็นรูที่ใช้กันมี 2 ชนิด
ชนิดที่หนึ่งเรียกกันว่า Yag laser มีอำนาจคล้ายๆ ระเบิด ยิง 1-2 ครั้ง ก็ทะลุแล้ว
แต่เลเซอร์ชนิดนี้มักจะทำให้มีเลือดออก กับเลเซอร์ชนิดที่สองเรียกว่า Argon laser จะค่อยๆ กินเนื้อม่านตาทีละน้อยใช้เวลายิงนาน แต่มีข้อดีคือเมื่อยิงไปจะมีการห้ามเลือดมิให้เลือดไหลออกจากม่านตาที่ยิงได้ด้วยแพทย์บางคนจึงนิยมยิงด้วย Argon ก่อนเพื่อห้ามเลือด ตามด้วย Yag ก็จะทะลุได้โดยง่าย แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ 2 เครื่องเสมอไป

3.เมื่อเจาะรูม่านตาทะลุแล้ว จะมีปฏิกิริยาจากแสงเลเซอร์ ตลอดจนเนื้อม่านตาที่ถูกเจาะกระจายอยู่ภายในตาก่อให้เกิดการอักเสบเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปในไม่กี่วันหลังจากนั้นก็ไม่ต้องดูแลหรือระวังหรือถนอม ตาอะไรอีก

4.ถ้ารูม่านตาที่เจาะทะลุและ มีขนาดพอสมควร ก็ไม่น่าจะเกิดต้อหินเฉียบพลันอีก

5.การหยอดยาชา ยาขยายม่านตาโดยแพทย์ ส่วนใหญ่จะไม่ให้โทษอะไร การหยอดยาขยายม่านตา
ส่วนใหญ่ทำเพื่อต้องการตรวจจอตาให้ละเอียด ผู้ที่มีหรือสงสัยจะมีโรคของจอตาจึงมักต้องได้รับยาขยายม่านตา เช่น ผู้ป่วยเบาหวานต้องมารับการตรวจโดยขยายม่านตาอยู่เสมอๆ กรณีที่หยอดยาตามากๆ จะเกิดต้อหิน ส่วนใหญ่หมายถึงยาในกลุ่มสตีรอยด์ ซึ่งผู้ป่วยมักจะซื้อยามาหยอดเอง หยอดทุกวันเป็นแรมเดือนแรมปีถึงจะเกิดต้อหิน ลำพังการหยอดเพื่อตรวจนานๆ ครั้ง ไม่มีผลอะไร

6.น้ำตาเทียมมีไว้ช่วยสำหรับ ผู้ซึ่งตาแห้ง ทำให้แสบตาเคืองตา ถ้าไม่มีอาการอะไรก็ไม่ต้องหยอดยาให้เปลืองเงิน