• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ปวดส้นเท้า

เป็นมาราว 2 ปี ไปหาหมอ ๆ บอกว่าน้ำหนักมาก พยายามลดน้ำหนักแต่ก็ยังปวดอีก คล้ายกับปวดในกระดูก ฉีดยาเข้าส้นเท้าแล้วก็ยังไม่หาย นอกจากลดน้ำหนักแล้ว ควรรักษาด้วยวิธีใดบ้าง

ถาม
คุณแม่ดิฉันอายุ 45 ปี สูงประมาณ 160 กว่าเซนติเมตร หนัก 75 กิโลกรัม มีปัญหาปวดส้นเท้ามาราว 2 ปีแล้ว เวลที่ลุกขึ้นเดิน ไปหาหมอ หมอก็บอกว่าน้ำหนักมาก ตอนนี้คุณแม่พยายามลดน้ำหนัก แต่ก็ยังปวด คล้ายกับปวดในส่วนกระดูก ไปหาหมอ ๆ ก็ฉีดยาเข้าที่ส้นเท้า แต่ก็ยังไม่หายขาด อยากถามหมอว่านอกจากพยายามลดน้ำหนักแล้ว ควรรักษาด้วยวิธีใดบ้าง

นอกจากนั้น ที่ฝ่าเท้าและส้นเท้าก็แตก จนบางครั้งเลือดซิบๆ เวลาเดินลำบาก ถึงขนาดต้องเอาพลาสเตอร์ปิดไว้ ควรรักษาอย่างไรคะ
สุดา/สุรินทร์

ตอบ

อาการปวดส้นเท้า อาจจะเกิดจากมีการอักเสบของพังผืดใต้ฝ่าเท้า ซึ่งอาจจะทำให้เกิดมีกระดูกงอกที่ส้นเท้าได้ในภายหลัง เมื่อลงน้ำหนักโดยการยืนหรือเดินทำให้เจ็บปวดได้ ถ้าน้ำหนักตัวมากก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้น อีกประการหนึ่ง การที่ส้นเท้าและฝ่าเท้าแตกจนเลือดออกซิบๆก็เป็นสาเหตุให้เกิดความเจ็บปวดขณะยืนและเดินได้เช่นกัน

การรักษานอกจากฉีดยาที่ส้นเท้าและลดน้ำหนักเช่นที่ได้รับอยู่แล้ว การรักษาทางกายภาพบำบัดด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์ (คลื่นเหนือเสียง) และการออกกำลังกล้ามเนื้อบริเวณนี้ก็จะช่วยได้มากทีเดียว

นอกจากนี้การใส่รองเท้าที่พื้นนุ่ม หรือรองเท้าอนามัยเพื่อลดการกดทับบริเวณที่ปวดจะช่วยให้เดินสบายขึ้น ส่วนการรักษาฝ่าเท้าและส้นเท้าแตกให้ทำความสะอาดโดยแช่เท้าในน้ำอุ่นใช้สบู่อ่อนๆล้างให้สะอาด เช็ดให้แห้งแล้วใช้น้ำมันมะกอก หรือวาสลีน หรือครีมทาผิว ทานวดเบาๆทุกวันก่อนนอน หรือเมื่อรู้สึกว่าผิวแห้ง
อ.นวลอนงค์ เลิศรัตนา