• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ลมชัก


 ⇒ถาม
มีอาการมึนชาขึ้นมาเรื่อย ๆ จนถึงศีรษะ ตัวเกร็ง น้ำลายฟูมปาก ตัวเขียว ชักอยู่ประมาณ 1-2 นาที โรคนี้มีวิธีการรักษาอย่างไร เป็นอุปสรรคต่อการเรียนหรือไม่

ปัจจุบันนี้หนูอายุ 15 ปี (อยู่ ม.3) ตอนหนูอายุ 13 ปี มักมีอาการมึนชาอย่างเดียว ส่วนมากจะเป็นข้างขวา อาการไม่ค่อยรุนแรงเท่าไหร่ พอได้ 2 เดือน อากรมึนชามักจะรุนแรงขึ้น มึนชาแค่ 1-2 นาทีก็หายเป็นปกติ (จะมึนชาแทบทุกวันค่ะ) เป็นคล้าย ๆ กับเหน็บชา เป็นอย่างนี้อยู่ 7-9 เดือน

มียู่วันหนึ่ง ขณะหนูนั่งเรียนหนังสืออยู่มีอาการมึนชาขึ้นมาเรื่อย ๆ จนถึงศีรษะ ตัวเกร็ง น้ำลายฟูมปาก ตัวเขียว ชักอยู่ 1-2 นาที อาการชัก ก็หายเป็นปกติ (หนูไม่เคยชักมาก่อนเลย) มาชักในวันเดียวกันอีกทีหนึ่ง ซึ่งห่างกันแค่ 1 ชั่วโมง ระหว่างชักนั้นหนูไม่ค่อยรู้สึกตัว ไม่ค่อยได้ยินเสียงอะไร หลังจากชักก็หมดสติไป 2-3 นาทีก็ฟื้น ขณะนั้นหนูอายุ 14 ปี ค่ะ (อยู่ม.2) อาจารย์บอกว่า หนูอาจจะเป็นลมบ้าหมู แต่อาหนูบอกว่า ที่หนูชัดเพราะเพลีย และอดนอน หลังจากชักแล้วไข้ขึ้นสูงมาก อาบอกว่าคนเป็นลมบ้าหมูจะไม่มีไข้ หนูอดนอน อยู่ 2 คืน คือหลับบ้างตื่นบ้างค่ะ เพราะหนูต้องเฝ้าย่าที่กำลังป่วยอยู่ แต่ก่อนที่หนูจะชักหนูไม่มีอาการกระตุกตามแขนและขาเลย พ่อให้หนูไปหาหมอที่คลินิก พอไปถึงหมอถามหนูว่าเป็นอะไร หนูตอบว่าเป็นลมบ้าหมู เพราะไม่รู้จะตอบว่าอะไร และหนูก็ไม่ได้เล่าอาการหมอฟัง และหมอก็ให้พนักงานคลินิกฉีดยาให้และให้ยาไปกินที่บ้าน และหนูก็ไม่ได้ถามหมอว่าหนูชักเพราะอะไร
จากนั้นอาการของหนูก็ดีขึ้น ไม่ชักอีกเลยจนทุกวันนี้ แต่หนูก็ยังกังวลใจไม่หาย กลัวจะชักอีก เพราะเวลาหนูนั่งนาน ๆ มักจะมีอาการมึนชา ซึ่งหนูกลัวมาก คนข้างบ้านหนู เขาเป็นลมบ้าหมูเพิ่งตายเมื่อเร็ว ๆ นี้เองค่ะ ขณะชักมีเลือดออกตามปาก จมูกและหู หนูอ่านหนังสือเกี่ยวกับโรคชักนั้นมีหลายสาเหตุ

หนูจึงได้เขียนมาเรียนถามคุณหมอดังนี้
1. หนูเป็นโรคชักอะไรคะ (กรุณาบอกสาเหตุด้วยค่ะ)
2. มีวิธีรักษาเกี่ยวกับโรคชักนี้ได้อย่างไรคะ
3. โรคชักนี้เป็นอุปสรรคต่อการเรียนต่อหรือเปล่าคะ
4. คุณหมอว่าหนูจะชักอีกหรือเปล่าคะ
5. การที่หนูนั่งนาน ๆ แล้วเกิดอาการมึนจะมีอาการชักหรือเปล่า
6. คนที่เป็นลมบ้าหมู อย่างคนข้างบ้านหนู ทำไมจึงมีเลือดออกมาทางปาก จมูก และหู ซึ่งเพื่อน ๆ
หนู เขาก็สงสัยเหมือนกันค่ะ


วารุณี/กรุงเทพฯ


⇒ ตอบ

1. อาการชักหลังจากอดนอน หรือร่างกายอ่อนเพลียเกินไป มักมีสาเหตุจากโรคลมบ้าหมู หรือโรคลมชัก ซึ่งเข้ากันได้กับลักษณะอาการตามที่เล่ามาอย่างมาก แต่คุณนับว่าโชคดีที่ชักเพียงครั้งเดียว แล้วไม่ชักอีกเลยมานานเป็นปี

2. ถ้าเป็น ๆ หาย ๆ บ่อย แพทย์จะให้ยากันชัก กินเป็นประจำทุกวัน นานเป็นปี ๆ จนกว่าจะแน่ใจว่าไม่ชักอีก ยานี้ควรให้แพทย์เป็นคนสั่งใช้เพราะเป็นยาควบคุมพิเศษ และต้องคอยปรับขนาดของยาที่ใช้ให้เหมาะสม จึงขออนุญาตไม่บอกชื่อยามา ณ ที่นี้
ในกรณีที่เป็นเพียงครั้งเดียวอย่างคุณ ในเวลามีอาการไม่ต้องกินยา แต่ถ้าเกิดชักครั้งใหม่ ก็ควรจะหาแพทย์ (คนเดิมที่เคยรักษา) แล้วถามเขาให้ทราบถึงรายละเอียดต่าง ๆ
1. ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียน แต่ต้องคอยปรึกษาแพทย์เป็นประจำ (ในกรณีที่คุณมีอาการชักซ้ำอีก)

4.,5. บอกไม่ได้ว่าจะชักอีกหรือไม่ ข้อสำคัญควรจะระมัดระวังตัวเอง อย่าอดนอน หรือทำอะไร เหนื่อยไป อย่าดื่มเหล้า เบียร์ อย่าเข้าไปในที่ ๆ มีเสียงดึงอึกทึก หรือแสงระยิบระยับ เพราะอาจเป็นเหตุกระ-ตุ้นให้ชักได้

6. อาจเกิดจากการกัดถูกลิ้นหรือเนื้อเยื่อในช่องปาก ทำให้มีเลือดไหลได้ หรือไม่ก็อาจเป็นจากโรคอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการชัก แต่มาพบพร้อมกันโดยบังเอิญ


น.พ. สุรเกียรติ อาชานานุภาพ