อยากสูง

⇒ถาม
ในคอลัมน์ถาม-ตอบ ฉบับที่ 107 ข่าวที่ว่า แพทย์ชาวรัสเซียสามารถทำให้คนที่อายุยังไม่ครบ 25 ปีสูงขึ้นปีล่ะ 2-3 ซม. ฮอร์โมนในประเทศไทยมีที่โรงพยาบาลไหนบ้างครับ

ผลสูงแค่ 157 ซม.เท่านั้น และน้ำหนัก 43 กก. ตัวเล็กมาก เวลาเพื่อนเขาชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง หรือเพียงแต่พูดว่า คนนั้นคนนี้สูงเท่าไหร่ ผมชักจะเกิดอาการไม่สบายขึ้นมาทันที โดยเฉพาะจิตใจจะรู้สึกอ่อนแอไม่มีแรงทันที

ผมได้อ่านคอลัมน์ถาม-ตอบ ฉบับที่ 107 ที่มีคนถามมาเกี่ยวกับทำอย่างไรจึงจะสูงขึ้น ผมติดใจคำถาม และข่าวที่ว่า นายแพทย์ชาวรัสเซียสามารถทำให้คนที่อายุยัง ยังไม่ครบ 25 ปี สูงขึ้นได้เดือนละประมาณ 2-3 ซม. เห็นอาจารย์ตอบว่าฮอร์โมนที่ทำให้สูงขึ้นนั้นมี ที่ดีที่สุดคือ Growth hormone การฉีดมีข้อจำกัดหลายอย่าง แพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยเองว่าควรจะฉีดให้หรือไม่ ไม่ทราบว่า ประเทศไทยมีที่โรงพยาบาลไหนบ้างครับ อาจารย์ช่วยบอกรายละเอียดด้วยนะครับ
ผมเป็นคนปักษ์ใต้ ไม่รู้จักสถานที่ในกรุงเทพฯเท่าไร ผมว่าถ้าฉีดได้จริงผมจะฉีดเพียงเล็กน้อย พอมีความสูงสามารถอยู่ในสังคมได้ไม่อายคนอื่นเขา ขณะนี้ผมก็พยายามช่วยตัวเอง ด้วยการออกกำลังกาย กินอาหาร ผลไม้ นมทุกวันอยู่แล้ว แต่อยากหาทางอื่นช่วยอีก เพราะกลัวจะสายเกินไป เมื่ออายุครบ 25 ปี คงจะเตี้ย ไม่สูงขึ้นอีกเลย

 

ประจักร/สตูล


⇒ ตอบ

ฮอร์โมนที่ทำให้สูงขึ้นนี้ จะใช้กับคนไข้ที่ขาดฮอร์โมนเท่านั้น มีฮอร์โมนอยู่ 2 ชนิด ที่ขาดแล้วจะทำให้ตัวเตี้ยลง ได้แก่
1. ฮอร์โมนธัยรอยด์ ฮอร์โมนชนิดนี้ใช้กินแต่ต้องใช้กับคนที่ขาดฮอร์โมนนี้เท่านั้น ถ้าไม่ขาดแล้วกินไปจะมีผลเสีย

2. ฮอร์โมนการเจริญเติบโต ใช้ฉีดรักษาผู้ป่วยที่ขาดฮอร์โมนชนิดนี้ ราคาแพงมาก หลอดละหลายพันบาท และต้องฉีดกันเป็นปีถึงจะได้ผล (ค่ายาเป็นแสนบาท) ถ้าตัวเตี้ยโดยไม่ได้เกิดจากการขาดฮอร์โมนชนิดนี้ ถึงจะฉีดไปก็ไม่ทำให้สูงขึ้นเลย growth hormone ชนิดเก่าที่เคยใช้กันมาอาจมีอันตราย ทำให้เกิดโรคทางสมองได้ ขณะนี้ เขาห้ามใช้กันแล้ว ส่วน growth hormone ชนิดใหม่ที่สังเคราะห์ด้วยวิธีทางพันธุวิศวกรรม (genetic engineering) ขณะนี้ยังไม่มีขายทั่วไปในประเทศไทยและราคาก็แพงอย่างมากด้วย

ในกรณีของคุณ คงต้องให้แพทย์ตรวจว่าขาดฮอร์โมนธัยรอยด์หรือไม่ เพราะมีทางรักษาได้ง่าย ซึ่งตรวจได้ง่ายที่ต่างจังหวัดก็ได้
ส่วนเรื่อง growth hormone ถ้าจะตรวจว่าขาดหรือไม่ อาจต้องตรวจที่โรงพยาบาลใหญ่ที่มีแพทย์เฉพาะทางด้านต่อมไร้ท่อ เช่น โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยหรือโรงพยาบาลศูนย์ แต่ถ้าขาดฮอร์โมนนี้จริงก็ยังเป็นปัญหาอีกว่าจะรักษาได้หรือไม่ เพราะยาแพงและยังไม่มีขายอาจต้องใช้วิธีให้กินอาหารที่มีผักและโปรตีนมาก ๆ และให้ยาบำรุงช่วย ซึ่งผลที่ได้ก็ยังไม่แน่นอน


น.พ. สาธิต วรรณแสง