ไข้หวัดกับอาการหูอื้อ
Q อยากทราบทำไมบางครั้ง เมื่อเป็นหวัดจะมีอาการหูอื้อร่วมด้วยครับ
วรวิทย์ อึ้งภูริเสถียร
A ในบางคนขณะที่กำลังเป็นหวัด คือ มีน้ำมูก คัดจมูก อาจจะมีอาการหูอื้อร่วมด้วย เนื่องจากท่อยูเตเชียนที่อยู่ระหว่างหูชั้นกลางกับบริเวณลำคอด้านหลังโพรงจมูกซึ่งมีหน้าที่ช่วยปรับความดันภายในหูชั้นกลางกับบรรยากาศภายนอก อาจเกิดทำงานผิดปกติทำให้เกิดอาการหูอื้อได้. อย่างไรก็ตามอาการ หูอื้อก็เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การเป็นหูน้ำหนวก หรือมีน้ำขังในหูชั้นกลางร่วมด้วย ดังนั้นถ้ามีอาการหูอื้อร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์เพื่อให้การวินิจฉัยและรักษาต่อไป.
ผู้ปกครองบางคนจะสังเกตเห็นว่า บุตรหลานบางครั้งเวลาเป็นไข้หวัด จะมีหูน้ำหนวก เป็นน้ำหนอง ไหลจากหู หรือมีปวดหู หูอื้อร่วมด้วย สาเหตุก็เนื่องจากคนเราจะมีท่อปรับความดัน ซึ่งจะมีปลายเปิดด้านหนึ่งอยู่ช่องหูชั้นกลาง กับอีกด้านหนึ่งอยู่ที่บริเวณลำคอด้านบนหลังโพรงจมูก เมื่อเป็นไข้หวัดมีการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ก็จะทำให้เกิดหูชั้นกลางอักเสบเป็นหนอง เกิดเป็นหูน้ำหนวกได้.
ดังนั้นการรักษาก็จะต้องรักษาโรคหวัดร่วมกับโรคหูน้ำหนวกร่วมกันด้วย.
พิบูล วชิรลาภไพฑูรย์ พ.บ.
โสต ศอ นาสิกแพทย์
สถาบันสุขภาพเด้กแห่งชาติมหาราชินี
มองเห็นหยากไย่ลอยไปมา
Q มีปัญหามองเห็นเหมือนหยากไย่ลอยไปมา เป็นๆ หายๆ ไม่ทราบว่าต้องไปพบแพทย์หรือไม่
รัชดาภรณ์ ตันติมาลา
A การมองเห็นหยากไย่ เกิดจากการเปลี่ยนสภาพจากน้ำวุ้นภายในลูกตา ในส่วนตรงกลางของน้ำวุ้นลูกตาเกิดการแยกตัวกันของน้ำวุ้นลูกตาและจอประสาทตา ประกอบกับน้ำวุ้นลูกตามีการหดตัวเล็กลงทำให้ความหนาแน่นเพิ่มขึ้นเกิดมีเส้นใยของคอลลาเจนที่หนาขึ้นมาได้ เส้นใยเหล่านี้ก็จะลอยไปมาในน้ำวุ้นลูกตา ถ้าลอยมาตำแหน่งที่แสงผ่านเข้าตาก็จะทำให้เราเห็นเป็นเงาคล้ายหยากไย่หรือยุงลอยไปมาในตาของเรา ซึ่งมักจะเห็นได้ชัดเจนตอนอยู่ในที่สว่าง มองผนังสีขาวหรือก้มลงดื่มน้ำ บางทีเราเข้าใจ ว่าหยากไย่บังอยู่หน้าตาเรา ลองใช้มือจับก็ไม่พบ.
เนื่องจากเราไม่สามารถรู้ได้ว่า ใครที่มีอาการเห็นหยากไย่ในตาหรือแสงฟ้าแลบในตาจะมีปัญหาจอประสาทตาฉีกขาดตามมา จักษุแพทย์จึงใช้วิธีนัดมาตรวจจอประสาทตาหลายครั้งเป็นระยะๆ.
ในผู้ที่มีการเสื่อมและแยกตัวของน้ำวุ้นลูกตาร่วมกับมีอาการเห็นคล้ายหยากไย่หรือฟ้าแลบในตา จะมีจอประสาทตาฉีกขาดร่วมด้วยประมาณร้อยละ 15 ซึ่งต้องได้รับการรักษาโดยการยิงเลเซอร์ เหมือนการใช้กาวทาซ่อมรูรั่วของวอลล์เปเปอร์ ไม่ให้วอล์ลเปเปอร์หลุดออกมาทั้งแผ่น ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการตามัวเหมือนมีม่านบังตาบางบริเวณหรือบังภาพทั้งหมดของตา.
โดยทั่วไปจักษุแพทย์จะตรวจจอประสาทตา ผู้ที่มีอาการในครั้งแรกที่มาหา โดยหยอดยาขยายม่านตาซึ่งจะทำให้ตาข้างที่ขยายม่านตามองไม่ชัดชั่วคราวประมาณ 4-6 ชั่วโมง. ดังนั้นถ้าไปหาแพทย์ควรพาใครไปด้วยเพื่อช่วยเหลือตอนกลับบ้าน ถ้าตรวจแล้วปกติ ไม่พบจอประสาทตาฉีกขาด จักษุแพทย์ก็จะนัดตรวจอีกครั้งใน 4-6 สัปดาห์ต่อไป ถ้าตรวจแล้วปกติอีกก็จะนัดอีกเป็นระยะ. แต่ถ้าพบจอประสาทตาฉีกขาดก็จะรักษาโดยการยิงเลเซอร์หรือจี้ความเย็น ทั้งนี้การนัดอาจไม่เหมือนกันทีเดียวแล้วแต่จักษุแพทย์แต่ละท่าน. โดยทั่วไปจักษุแพทย์จะอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจโรค เพื่อให้สบายใจว่าส่วนใหญ่แล้วไม่เป็นปัญหาอะไร ไม่ต้องรักษาอะไร เพราะตะกอนนี้ไม่สามารถล้างออกได้ อาการนี้จะอยู่ไปตลอดได้แต่ไม่อันตราย และมักจะลดลงได้ อาจเพราะความเคยชิน. แต่จะมีคนส่วนน้อยที่อาจมีปัญหาจอประสาทตาลอกตามมา โดยทั่วไปสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ให้มาตรวจและขยายม่านตาตามแพทย์นัด หรือถ้ามีอาการเห็นหยากไย่หรือแสงฟ้าแลบในตามากขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นหรือตามัวลง ให้รีบมาตรวจก่อนนัดเพราะอาจจะมีปัญหาแทรกซ้อนเกิดขึ้นแล้ว.
ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ พ.บ.
จักษุแพทย์ คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
วัคซีนกับหญิงตั้งครรภ์
Q อยากทราบว่าในช่วงตั้งครรภ์ สามารถ ฉีดวัคซีนได้หรือไม่คะ
ปิยะดา พูลสวัสดิ์
A การให้วัคซีนแก่หญิงตั้งครรภ์นั้น ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยทั่วไปแล้วจะหลีกเลี่ยงการให้ ยกเว้นจำเป็นจริงๆ เช่น ต้องเดินทางไปในเขตที่มีการระบาดของโรค ต้องคำนึงถึงอัตราเสี่ยงของแม่และทารกในครรภ์ วัคซีนที่ฉีดในคนท้องค่อนข้างปลอดภัย ได้แก่ วัคซีนไข้เหลือง ไข้หวัดใหญ่ โปลิโอชนิดกิน (ห้ามใช้ชนิดฉีด) โรคพิษสุนัขบ้า ไวรัสตับอักเสบเอ ไวรัสตับอักเสบบี Herpes simplex บีซีจี (วัณโรค) ไอกรน คอตีบ (ชนิดผู้ใหญ่) บาดทะยัก (แนะนำให้ฉีดในหญิงมีครรภ์ไม่เกิน 3 เดือนก่อนคลอด) เป็นต้น. วัคซีนที่ห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์ ได้แก่ หัด คางทูม หัดเยอรมัน ไทฟอยด์ เป็นต้น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดวัคซีนทุกครั้ง.
วิภาจรี นวสิริ ภ.บ.
เภสัชกร สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
- อ่าน 110,791 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้