Skip to main content
ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
menu

Login Pop

  • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
search
  • เว็บหลักหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ
หน้าแรก » บทความสุขภาพน่ารู้ » เหงือกอักเสบ
  • ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

เหงือกอักเสบ

โพสโดย Anonymous เมื่อ 1 กันยายน 2550 00:00

Q มีอาการเหงือกบวมเป็นหนองบริเวณฟันกรามบนซ้าย มีฟันโยก เคยเป็นๆ หายๆ กินยาแก้อักเสบแล้วอาการก็ดีขึ้น แต่ไม่เคยไปหาหมอ อาการนี้เคยเป็นที่บริเวณอื่นด้วย เช่น ฟันกรามล่างข้างขวา กินยาแก้อักเสบแล้วอาการก็หายไป อยากทราบว่าจะทำการรักษาได้อย่างไร ต้องทำการตรวจฟันหรือไม่ ถ้าไม่ถอนจะได้ไหม

วรวิทย์ อึ้งภูริเสถียร

A ก่อนอื่นต้องตรวจที่บริเวณฟันที่มีอาการก่อนว่ามีฟันผุหรือไม่ ถ้าเป็นฟันที่ปกติไม่มีรูผุ สาเหตุที่พบบ่อยน่าจะเกิดจากหินน้ำลาย ที่ทำให้เกิดสภาวะโรคปริทันต์อักเสบอย่างรุนแรง มีการทำลายกระดูกรอบรากฟันและอวัยวะปริทันต์ ทำให้เกิดการอักเสบและเป็นหนองของช่องลึกปริทันต์ บางครั้งมีอาการบวมออกมาทางด้านชิดแก้มและชิดเพดานของตัวฟัน บางครั้งจะพบลักษณะของโรคปริทันต์อักเสบที่ค่อนข้างรุนแรงได้ ในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานและไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีพอ.

การรักษาโดยทั่วไปคือการขูดหินน้ำลายร่วมกับทันตกรรมรากฟันหรือศัลยปริทันต์ร่วมด้วย แต่ถ้าฟันโยกมากและมีการสูญเสียกระดูกรองรับรากฟันมากๆ อาจต้องพิจารณาถอนฟันซี่นั้นๆ.

ถ้าเป็นกรณีและอาการที่กล่าวมาข้างต้นและตรวจพบว่า ตัวฟันมีรูผุขนาดใหญ่และทะลุประสาทฟัน น่าจะเกิดจากมีการติดเชื้อเข้าสู่คลองรากฟัน และทำให้เกิดการอักเสบที่ปลายรากฟัน อาจก่อให้เกิดอาการบวมและเป็นหนองได้เช่นกัน. สำหรับการรักษา สามารถทำการรักษาคลองรากฟันและบูรณะตัวฟันขึ้นมาให้สมบูรณ์โดยการอุดฟัน หรือทำครอบฟันหลังจากรักษารากฟันแล้ว แต่ถ้าฟันซี่นั้นเสียหายมาก ไม่สามารถบูรณะขึ้นมาได้ ทันตแพทย์ก็จะพิจารณาถอนฟันซี่นั้น.

สุภานันท์ สุวรรณธรรมา ทพ.บ.
ทันตแพทย์


โรคต้อหิน
Q อยากทราบว่าโรคต้อหินเป็นอย่างไร ต้อหินกับต้อกระจก โรคไหนร้ายแรงกว่ากัน

รัชดาภรณ์ ตันติมาลา

A ต้อหินคือภาวะที่ตามีความดันลูกตาสูงเกินไป บางครั้งสูงมากจนตาแข็งเหมือนหิน จึงเป็นที่มาของชื่อต้อหิน โรคต้อหินพบไม่บ่อยเท่าต้อกระจก แต่น่าจะร้ายแรงกว่าเนื่องจากถ้าไม่รักษาหรือรักษาช้า จะทำให้ตาบอดหรือมัวมาก และรักษาให้กลับมาเห็นดี ขึ้นไม่ได้ด้วย ขณะที่ต้อกระจกในผู้ใหญ่แม้เป็นมากแล้ว แต่พอผ่าตัดเมื่อใดตาก็มักจะกลับมามองเห็นได้ดี.

ต้อหินคือโรคของตาชนิดหนึ่ง ที่มีการเสื่อมของประสาทตา ทำให้มีลานสายตาแคบลง มีตามัวจนถึงตาบอดได้ เชื่อว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เกิดต้อหิน ปัจจัยหนึ่งคือความดันตาที่สูงเกินไป ทำให้เกิดการกดที่เซลล์ประสาทตา เป็นผลให้มีประสาทตาเสื่อมตามมา ปกติตาคนเราจะมีการสร้างน้ำหล่อเลี้ยงขึ้นภายในลูกตาตลอดเวลา และน้ำหล่อเลี้ยงตานี้ก็จะระบายออกจากตาตลอดเวลาเช่นกันในปริมาณเท่ากับที่สร้างขึ้น เมื่อใดก็ตามที่สมดุลนี้เสียไปคือมีการระบายออกน้อยกว่าสร้าง จะทำให้มีการคั่งของน้ำในลูกตา จึงมีความลูกตาสูงมากเกินไปตามมา เกิดภาวะต้อหินขึ้นได้.

                                  

                           การมองเห็นของคนปกติ                               การมองเห็นของคนปกติ

ต้อหินเป็นได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงผู้สูงอายุ โดยส่วนใหญ่พบในผู้มีอายุ 40 ปีขึ้นไป. ต้อหินแบ่งง่ายๆได้เป็น 2 ชนิด คือชนิดเฉียบพลันและชนิดเรื้อรัง ดังนี้

1. ต้อหินชนิดเฉียบพลัน จะมีความดันลูกตาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ในเวลาเป็นวัน ทำให้มีอาการปวดตามาก ตาแดง ตามัวลง อาจมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย ถ้าไม่ได้รับการรักษาโดยเร็วจะทำให้สายตามัวลงอย่างรวดเร็วจนถึงตาบอดได้.

                                                        

2. ต้อหินชนิดเรื้อรัง ความดันลูกตาจะสูงขึ้นช้าๆ ในเวลาเป็นเดือนเป็นปี ดังนั้นตาจะมีเวลาปรับตัวได้ จึงอาจไม่มีอาการปวดตา ผู้ป่วยจึงมักไม่รู้ตัวว่าเป็นต้อหินอยู่ จึงยังไม่ได้รับการรักษา ประสาทตาจะเสื่อมลงเรื่อยๆ ลานสายตาจะแคบลงมากขึ้นๆ จนผู้ป่วยสังเกตว่าตามัวลง จึงมาพบแพทย์เมื่อโรคเป็นมากแล้ว ซึ่งการรักษาก็เพียงแต่ช่วยป้องกันไม่ให้ประสาทตาเสียไปมากกว่านี้ แต่ไม่สามารถช่วยให้ประสาทตาส่วนที่เสียไปแล้วคืนกลับมาได้ ความสำคัญของต้อหินชนิดนี้จึงอยู่ที่การค้นพบโรคตั้งแต่ระยะแรก. ดังนั้น ในผู้ที่มีอายุมากว่า 40 ปีทุกคนซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ หรือผู้ที่มีคนในครอบครัวเป็นโรคต้อหิน ควรไปรับการตรวจสุขภาพตาและวัดความดันตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง.

สาเหตุของต้อหิน
- ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเอง.
- หยอดยาประเภทสตีรอยด์เป็นประจำ.
- มีการอักเสบเรื้อรังของลูกตา.
- สาเหตุอื่นๆเช่นอุบัติเหตุที่ตา, ภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวาน.

ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ พ.บ.
จักษุแพทย์ คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งตับ
Q เห็นมีโฆษณา การตรวจหามะเร็งลำไส้ ใหญ่และมะเร็งตับด้วยการเจาะเลือดตรวจ ไม่ทราบว่าตรวจได้ที่ไหนบ้างคะ

ปิยะดา พูลสวัสดิ์

A การตรวจเลือดเพื่อหามะเร็ง ปัจจุบันมีทำกันมากขึ้น อย่างไรก็ดี ต้องแยกประเภทหรือชนิดของมะเร็งที่จะตรวจหาด้วย ถ้าเป็นการตรวจโดยที่ผู้รับการตรวจไม่มีอาการ จะจัดอยู่ในกลุ่มที่เราเรียกว่า การตรวจคัดกรอง (screening) ซึ่งมีข้อบ่งชี้ในบางรายเท่านั้น. สำหรับมะเร็งตับ แนะนำให้ตรวจคัดกรองโดยหาค่าของ alpha fetoprotein ร่วมกับการทำ ultrasonography ของตับทุก 6 เดือน ในกลุ่มเสี่ยง เช่น รายที่เป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบบี หรือซี หรือมีภาวะตับแข็ง แต่ไม่แนะนำให้ทำการตรวจหาในกลุ่มประชากรทั่วไป.

สำหรับมะเร็งลำไส้ใหญ่ จนถึงปัจจุบันยังไม่มีคำแนะนำให้ทำการตรวจคัดกรองโรคด้วยการเจาะเลือดหาค่า carcinoembryonic antigen (CEA) ในกลุ่มประชากรทั่วไป การตรวจค่านี้จะได้ประโยชน์ในการติดตามผลการรักษาหลังจากผ่าตัดแล้วเท่านั้น นอกจากนี้การเจาะตรวจยังอาจพบผลบวกลวงได้ ในหลายภาวะ เช่น ตับแข็ง คนที่สูบบุหรี่ เป็นต้น.

วีรพัฒน์ สุวรรณธรรมา พ.บ.
ศัลยแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล

 

ป้ายคำ:
  • โรคเรื้อรัง
  • ถามตอบปัญหาสุขภาพ
  • โรคตามระบบ
  • โรคช่องปากและฟัน
  • มะเร็ง
  • โรคหู ตา คอ จมูก
  • คุยสุขภาพ
  • ถาม-ตอบผ่าน website
  • โรคต้อกระจก
  • โรคต้อหิน
  • โรคมะเร็งตับ
  • โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
  • นพ.วีรพัฒน์ สุวรรณธรรมา
  • นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์
  • พญ.สุภานันท์ สุวรรณธรรมา
  • อ่าน 15,180 ครั้ง
  • พิมพ์หน้านี้พิมพ์หน้านี้
Skip to Top

คำถามสุขภาพ

  • ทั้งหมด
  • การแพทย์ทางเลือก
    • แพทย์แผนไทย
      • กดจุด
      • นวดไทย
    • แพทย์แผนจีน
  • ดูแลสุขภาพ
    • การดูแลผู้สูงอายุ
    • การปฐมพยาบาล
    • การรักษาเบื้องต้น
    • การใช้ยาสมุนไพร
    • คู่มือดูแลสุขภาพ
    • ยาและวิธีใช้
    • ตรวจสุขภาพด้วยตัวเอง
      • คำนวณค่า BMI
      • วินิจฉัยโรคเบื้องต้น
      • แนะนำการตรวจสุขภาพประจำปี
    • คุยสุขภาพ
      • กรณีศึกษา
      • ถามตอบปัญหาสุขภาพ
  • สุขภาพทางเพศและครอบครัว
    • การดูแลบุตร
    • แม่และเด็ก
    • การตั้งครรภ์
    • เรียนรู้เรื่องเพศและการวางแผนครอบครัว
  • สร้างเสริมสุขภาพ 3 อ. และป้องกันโรค
    • อาหาร
      • อาหาร 5 หมู่
      • อาหารของผู้่ป่วยโรคเรื้อรัง
        • ความดันสูง
        • หัวใจ
        • เกาต์
        • เบาหวาน
      • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
      • อาหารป้องกันมะเร็ง
      • อาหารสมุนไพร
    • ออกกำลังกาย
      • วิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แอร์โรบิค แอร์โรบอคซิ่ง รำกระบอง ไทเก็ก ชี่กง โยคะ
    • อารมณ์
      • การทำสมาธิ
      • การพักผ่อน
      • การพัฒนา EQ
      • จิตอาสา/ ฉือจี้
  • พฤติกรรมอันตราย
    • พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ
    • อนามัยสิ่งแวดล้อม
    • อิริยาบถ
  • โรคและอาการ
    • โรคเรื้อรัง
      • กลุ่มอาการเมตาโบลิค
      • ความดันโลหิตสูง
      • ถุงลมปอดโป่งพอง
      • มะเร็ง
      • อัมพฤกษ์ อัมพาต
      • เบาหวาน
      • โรคข้อ/เกาต์
      • โรคทางจิตเวช เครียด หวาดระแวง
      • โรคหวัด ภูมิแพ้
      • โรคหัวใจ
      • โรคหืด
      • ไขมันในเลือดสูง/ผิดปกติ
      • ไตวาย
    • โรคตามระบบ
      • ระบบทางเดินอาหาร
      • โรคจากอุบัติเหตุ สารพิษ และสัตว์พิษ
      • โรคช่องปากและฟัน
      • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      • โรคติดเชื้อ
      • โรคผิวหนัง
      • โรคพยาธิ
      • โรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
      • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศชาย
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศหญิง
      • โรคระบบทางเดินปัสสาวะ
      • โรคระบบทางเดินหายใจ
      • โรคระบบประสาทและสมอง
      • โรคระบบไหลเวียนโลหิต
      • โรคหู ตา คอ จมูก
    • โรคจากการทำงาน
      • พิษภัยจากสารเคมี (ยาฆ่าเมลง/ สารตะกั่ว)
      • โรคจากฝุ่นและสารเคมีในโรงงาน
      • โรคจากสัตว์ เช่น ฉี่หนู
      • โรคจากอริยาบทที่ผิดสุขลักษณะ
      • โรคเส้นเอ็นอักเสบ/ นิ้วล็อค
  • อื่น ๆ

  • สนับสนุนสื่อสุขภาพออนไลน์หมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • คำแนะนำสำหรับประชาชน เรื่อง โรคจากเชื้อแบคทีเรีย อีโคไลชนิดรุนแรง
  • ผ่าตัดฟรีสำหรับเด็ก ที่เป็นโรคหัวใจ
  • สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย (สพท.)

แผนผังเว็บไซต์

  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ

รวมลิงค์เครือข่าย

  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • สถาบันโยคะวิชาการ

สื่อสุขภาพ

  • คลิปสุขภาพ
  • หมอชาวบ้านรายเดือน
  • คลินิกรายเดือน
  • จดหมายข่าวย้อนหลัง
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • twitter หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)< และสถาบัน ChangeFusion< พัฒนาระบบโดย Opendream< สัญญาอนุญาต cc by-nc-sa <