ถาม : อยากเรียนถามว่ายาที่ใช้รักษาสิว มีกลุ่มใดบ้างที่ใช้ได้ผลดี.
หมอใหม่
ตอบ : สิวเกิดจากหลายสาเหตุ สาเหตุสำคัญได้แก่ ฮอร์โมนเพศชาย (พบในผู้หญิงด้วย) กระตุ้นต่อมไขมันให้สร้างไขมันเพิ่มขึ้น เมื่อไขมันถูกแบคทีเรียย่อยเป็นกรดไขมันอิสระและรวมตัวกับเซลล์ต่างๆ บนผิวหนังที่ตายแล้วไปอุดตันรูขุมขนเกิดเป็นคอมมิโดน (comedones). นอกจากนี้สิวอาจเกิดจากความสกปรกของใบหน้า การแพ้เครื่องสำอาง ยาบางชนิด เช่น ยาสตีรอยด์ ยาคุมกำเนิด ภาวะ ตั้งครรภ์ ความเครียด เป็นต้น. สิวอาจเกิดที่บริเวณอื่นได้ เช่น กลางหลัง ศีรษะ เพราะบริเวณเหล่านี้มีต่อมไขมันอยู่เช่นกัน.
การรักษาสิวอาจต้องใช้เวลานานเป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือน การรักษาด้วยยาควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา. สิวบางชนิดอาจไม่จำเป็นต้องรักษา เช่นสิวที่เกิดจากการใช้ยาคุมกำเนิด ยาสตีรอยด์ หรือเกิดจากการแพ้เครื่องสำอาง เมื่อหยุดใช้ยาหรือเครื่องสำอางนั้นแล้วสิวจะหายไปได้เอง.
นอกจากนี้ควรมีการดูแลผิวหน้าอย่างถูกต้อง หลีกเลี่ยงสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย ไม่วิตกกังวลหรือเครียดเกินไป หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด เช่น อาหารมัน ชา กาแฟ เป็นต้น.ยาเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide) เป็นยารักษาสิวชนิดยาทาเฉพาะที่ ใช้ในกรณีที่เป็นไม่รุนแรง ออกฤทธิ์ลดปริมาณกรดไขมันอิสระ ต้านเชื้อแบคทีเรียอย่างอ่อนๆ ซึ่งจะช่วยลดขนาดและจำนวนของหัวสิวได้. ยามีหลายความแรงควรเริ่มใช้ยาที่มีความแรงต่ำก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงอาการระคายเคือง.
ยาเรติโนอิก แอซิด (กรดวิตามินเอ) ชนิดยาทาเฉพาะที่ ออกฤทธิ์โดยทำให้เคราตินที่ปากรูขุมขนเกาะหลวมขึ้นทำให้สิวหลุดง่ายขึ้นใช้ได้ดีกับสิวที่มีหัวสิวมากแต่ไม่ค่อยอักเสบ. ควรใช้ยานี้ก่อนนอน เนื่องจากยาจะทำให้ผิวไวต่อแสงมากขึ้น เกิดการระคายเคืองได้.
ยาไอโซเทรติโนอิน (isotretinoin) เป็นยารักษาสิวชนิดกิน ออกฤทธิ์โดยทำให้ต่อมไขมันมีขนาดเล็กลง ลดการหลั่งไขมันและลดการอักเสบของสิว. ผลข้างเคียงได้แก่ คอแห้ง ปากแห้ง และที่สำคัญคือทำให้ทารกในครรภ์พิการ ดังนั้นยาขนานนี้จึงถูกกำหนดให้เฉพาะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคผิวหนังเป็นผู้สั่งจ่ายเท่านั้น.
ยารักษาสิวชนิดยาปฏิชีวนะ ออกฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดอาการอักเสบใช้ได้ผลดีกับสิวชนิดที่มีตุ่มอักเสบหรือมีหัวหนอง ตัวอย่างยาเช่น ยาเตตราไซคลีน อีริโทรไมซิน มิโนไซคลีน คลินดาไมซิน เป็นต้น. ยามีรูปแบบทั้งยาทาเฉพาะที่และยากิน โดยยากินนั้นใช้ในกรณีที่ใช้ยาทาแล้วไม่ได้ผล ทนต่อผลข้างเคียงของยาเฉพาะที่ไม่ได้ หรือเป็นสิวอักเสบรุนแรง อาจเลือกใช้ร่วมกับยาทาเฉพาะที่ ได้. ยาเตตราไซคลีนไม่ควรใช้ในหญิงตั้งครรภ์และเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เพราะอาจทำให้ฟันเปลี่ยนสีได้.
วาทินี เพชรอุดมสินสุข ภ.บ. เภสัชกรหญิง , สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ พ.บ., น.บ.,สาขาวิชาจักษุวิทยา, คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- อ่าน 2,562 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้