Skip to main content
ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
menu

Login Pop

  • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
search
  • เว็บหลักหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ
หน้าแรก » บทความสุขภาพน่ารู้ » ลิขิตชีวิต (1)
  • ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ลิขิตชีวิต (1)

โพสโดย Anonymous เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2550 00:00

สถานการณ์ที่ 1 :
พลอยจันทร์ เป็นบรรณารักษ์ประจำห้องสมุดมหาวิทยาลัยเก่าแก่แห่งหนึ่ง เธอป่วยเป็นเบาหวานมานานหลายปี รักษาด้วยยาฉีดอินซูลิน น้ำตาลของเธอควบคุมได้ยากมาก ทุกครั้งที่เจาะเลือดจะต้องมีระดับน้ำตาลไม่ต่ำกว่า 250 มก.%

และเหมือนกับคนไข้เบาหวานอื่นๆ ที่อยู่กับโรคเบาหวานของตัวเองมานานปี พลอยจันทร์มีความรู้เรื่องโรคเบาหวานดีทุกอย่าง รู้ว่าควรคุมอาหารอย่างไร แต่ในความเป็นจริงเธอคุมอาหารไม่เคยได้เลย

พลอยจันทร์เป็นคนโสด พ่อแม่เสียชีวิตไปหมดแล้ว พี่น้องล้วนแต่งงานแยกบ้านไป มีหลานๆหลายคน แต่ทุกคนอยู่ต่างจังหวัด พลอยจันทร์จึงใช้ชีวิตในกรุงเทพฯเพียงลำพังคนเดียว

พลอยจันทร์รู้ดีว่าเธอคงไม่มีอายุยืนยาวนัก เธอหวังว่าเมื่อป่วยหนักและวาระสุดท้ายในชีวิตมาถึง เธอคงจะไม่ทรมานและไม่เป็นภาระของใคร พลอยจันทร์ได้แต่คิดอยู่ในใจ หากไม่เคยบอกใครให้รู้

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่พลอยจันทร์เป็นไข้หวัด กินอะไรไม่ได้มาหลายวันแล้ว แต่ด้วยความที่กลัวว่าน้ำตาลจะสูง เธอก็เลยฉีดอินสุลินตามปกติ ในเช้าวันหนึ่งเพื่อนที่ทำงานเห็นพลอยจันทร์ไม่มาทำงาน ก็เลยโทรศัพท์ไปหายามที่หมู่บ้านให้ช่วยไปดูว่าเธอไม่สบายหรือเปล่า ก็พบว่าพลอยจันทร์นอนหมดสติอยู่ในห้องนอน เมื่อตามรถฉุกเฉินมารับตัวไปโรงพยาบาล หมอตรวจพบน้ำตาลในเลือดของพลอยจันทร์ต่ำ เป็นเหตุให้หมดสติไป

ไม่มีใครรู้ว่าพลอยจันทร์หมดสติไปนานเท่าใดแล้ว หลังจากที่หมอแก้ไขภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเรียบ ร้อย ปรากฏว่าพลอยจันทร์ก็ยังไม่ฟื้นคืนสติ สมองของเธอขาดออกซิเจนนานเกินไป...

หมอใส่เครื่องช่วยหายใจให้กับพลอยจันทร์ ให้การรักษาอย่างเต็มที่ ให้ยา ให้อาหารเหลว ทั้งที่ไม่รู้ว่าพลอยจันทร์จะมีโอกาสฟื้นขึ้นมาอีกหรือเปล่า

หลังจากที่เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ประจำโรงพยาบาล ประสานกับเพื่อนที่ทำงานเดียวกันกับคนไข้ ก็สามารถตามตัวพี่สาวและหลานของพลอยจันทร์มาได้

หมอแนะนำว่าอาการของพลอยจันทร์หนักมาก คนไข้คงไม่ฟื้นขึ้นมาเป็นปกติอีกแล้ว ขณะนี้พลอยจันทร์เริ่มมีอาการไข้สูง เนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือด ระบบไหลเวียนโลหิตไม่ดี ความดันต่ำตลอด

ก่อนหน้าที่จะตามตัวญาติได้ พลอยจันทร์หัวใจหยุดเต้นไปแล้วหนหนึ่ง หมอและพยาบาลห้องไอซียูช่วยกัน CPR จนสัญญาณชีพของพลอยจันทร์กลับคืนมาอีกครั้ง

หมอคิดว่า ไม่น่า CPR อีกแล้ว เพราะคนไข้อาจไม่ฟื้นขึ้นมาอีก แต่คนไข้พูดไม่ได้ ไม่มีโอกาสได้ถามไถ่กันว่าคนไข้มีความต้องการอย่างไร ครั้นหมอจะตัดสินใจเองก็เหมือนกับจะไม่ให้โอกาสคนไข้...ใครจะรู้ ปาฏิหาริย์อาจจะมีก็ได้

แต่สุดท้าย หมอตัดสินใจคุยกับญาติ ถึงความเป็นไปได้ในการดูแลพลอยจันทร์ หากหัวใจของพลอยจันทร์หยุดเต้นอีกครั้งนั้นญาติจะให้หมอปั๊มหัวใจอีกหรือไม่...

พี่สาวของพลอยจันทร์ไม่สามารถตัดสินใจได้ เพราะกังวลว่าการตัดสินใจของตัวเองอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด

ใครจะรู้...หากหมอปั๊มหัวใจแล้ว พลอยจันทร์ อาจจะฟื้นขึ้นมาอีกก็ได้
ใครจะรู้...ว่าที่จริงแล้วความต้องการของพลอยจันทร์เป็นอย่างไร
ใครจะรู้...ว่าตัดสินใจไปแล้วจะไม่ถูกพี่น้องคนอื่นด่าว่า
ยากจริงๆ...ช่างเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุด...จะทำอย่างไรดีหนอ...


ในชีวิตของความเป็นแพทย์ เมื่อเราดูแลคนไข้มาถึงจุดสุดท้ายของชีวิต เราคงอยากให้คนไข้เสียชีวิตไปอย่างสมศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ (dying with dignity)

หรือถ้าคุณหมอไม่ได้คิดแบบนั้นกับคนไข้ เอาใหม่ครับ ลองคิดกลับกันว่า เมื่อถึงเวลาที่คุณหมอป่วยหนักและต้องจากโลกนี้ไป คุณหมอคงอยากจะเลือกได้ว่า ต้องการอะไรอย่างไรบ้าง ต้องการให้มีการ CPR หรือต้องการให้มีการใส่เครื่องช่วยหายใจ เจาะปอด และหัตถการอื่นๆอีกมากมายหรือไม่

การศึกษาทางสังคมวิทยาการแพทย์พบว่า คนไข้จำนวนไม่น้อยปรารถนาจะเลือกการตายของตัวเอง หรืออย่างน้อยก็มีการมอบหมายภาระนี้ให้กับใคร สักคนช่วยทำแทน แต่มีคนไข้เพียงร้อยละ 20 เท่านั้นเอง ที่สามารถทำได้อย่างใจปรารถนา

ในมุมมองของคนที่เป็นแพทย์ เมื่อคนไข้ระยะสุดท้ายของเราเข้าสู่สภาวะหมดสติ ที่ไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ด้วยตนเอง แพทย์ส่วนใหญ่มักจะอยากรู้ว่าคนไข้ต้องการอะไรมากที่สุด

คนไข้มีสิทธิอย่างเต็มที่ที่จะลิขิตชีวิตของตัวเองครับ
เมื่อพิจารณาดูแล้ว จะเห็นว่าคนไข้จะมีความคิด มีความปรารถนาบางอย่าง เมื่อเวลาสุดท้ายของชีวิตมาถึง แพทย์เองก็อยากรู้ว่าเมื่อเวลานั้นมาถึง คนไข้ต้องการให้แพทย์ทำอะไรให้ ถ้าจะขอยืมศัพท์ทางเศรษฐศาสตร์มาใช้ ก็ต้องพูดว่าอุปสงค์กับอุปทานมาพบกันพอดี ดังนั้น การสนทนาเรื่อง "ความปราถนาของคนไข้ในวาระสุดท้าย" จึงเป็นสิ่งที่หมอควรจะ หาโอกาสคุยกับคนไข้ของตัวเองทุกๆคน

ถ้าหากคุณหมอรู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจที่จะต้องคุยเรื่องความตายของคนไข้ และสิ่งที่คนไข้ต้องการให้หมอช่วยเมื่อเวลานั้นมาถึง ไม่อยากคุยเรื่องนี้กับคนไข้ทุกราย คุณหมออาจจำเป็นต้องเลือกคุยใน คนไข้ที่ป่วยเป็นโรคซึ่งพยากรณ์โรคไม่ดี มีโอกาสจะเสียชีวิตในในอนาคตอันใกล้ครับ

หัวข้อที่หมอและคนไข้จะสนทนากัน ควรจะเน้นในหัวข้อดังต่อไปนี้
- คุยว่าเมื่ออาการเพียบหนัก คนไข้มีความต้องการอย่างไร คนไข้อาจจะขอให้หมอรักษาอย่างเต็มที่หรือขอให้หยุดการรักษา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความเชื่อ ความคิด จิตวิญญาณ และประสบการณ์ในชีวิตที่ผ่านมาของตัวคนไข้
- คุยว่าเมื่อคนไข้อยู่ในสภาวะโคม่า หรือภาวะที่ไม่สามารถตัดสินใจเรื่องราวต่างๆได้ด้วยตัวเอง ญาติพี่น้องคนใด สามีภรรยา บิดามารดา หรือใครจะเป็นตัวแทนที่คนไข้มอบหมายให้ทำการตัดสินใจแทน
หัวข้อทั้งหมดที่สนทนากัน ความปราถนาของคนไข้เมื่อเวลาช่วงสุดท้ายมาถึง อาจไม่จำเป็นต้องเรียก ทนายความมาทำหนังสือแบบการทำพินัยกรรมก็ได้ครับ เพราะหากคนไข้มีสติสัมปชัญญะดี ก็สามารถ เขียนบันทึกขึ้นมาได้เองเลย

ปัจจุบันในสังคมไทยเริ่มมีผู้ที่เขียนบันทึกเช่นนี้เอาไว้บ้างแล้ว ตัวอย่างที่เด่นชัดมากในกรณีนี้ เช่น ท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ ที่ได้เขียนบันทึกสั่งความ เอาไว้ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต เป็นต้น

บันทึกส่วนมากที่คนไข้เขียนมักจะเป็นบันทึก สั่งเสียเรื่องการจัดการศพ หรืองานศพ มีเพียงไม่กี่รายที่ครอบคลุมเลยไปถึงเรื่องการรักษาทางการแพทย์ ดังนั้นหากคุณหมอมีโอกาสได้คุยกับคนไข้ ก็จะช่วยเติมเต็มในส่วนการแพทย์นี้ได้ครับ

อย่างไรก็ตาม หากมีการสนทนาในหัวข้อดังกล่าวกับคนไข้ แพทย์ควรจะบันทึกเอาไว้เป็นลายลักษณ์อักษรในเวชระเบียน หรือในกระดาษบันทึกข้อความ อย่าลืมให้คนไข้เซ็นกำกับด้วยนะครับ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อจะได้เป็นหลักฐานและเพื่อเตือนความจำ เพราะเมื่อเวลานั้นมาถึงจริงๆคุณหมออาจลืมไปแล้วว่าคุยอะไรกับคนไข้เอาไว้บ้าง...คนไข้ของคุณหมอไม่ได้มีแค่คนเดียวนี่ครับ

มีหลักการสำคัญ ที่คุณหมอควรระลึกเอาไว้เสมอ ก่อนจะเริ่มสนทนาเรื่องความตาย และการเตรียมตัวตายของคนไข้4 ดังนี้ครับ
1. การสนทนาเรื่อง ความปราถนาของคนไข้ในวาระสุดท้าย เป็นส่วนสำคัญมากหนึ่งของการดูแลคนไข้ระยะสุดท้าย ไม่ว่าคุณหมอจะดูแลคนไข้คนนี้มานานจนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน หรือเพิ่งจะได้เข้ามาดูแลคนไข้ได้ไม่กี่เดือนก็ตาม

แพทย์ควรจะคุย เพื่อให้รู้ถึงความต้องการของคนไข้ สามารถกำหนดจุดหมายปลายทางร่วมกัน.
การคุยเรื่องนี้ สามารถเริ่มคุยได้ตั้งแต่ตอนที่คนไข้ยังมีสุขภาพแข็งแรงอยู่ มีศักยภาพที่จะคิดและตัดสินใจว่าถ้าเกิดป่วยหนักขึ้นมาในวันใดวันหนึ่ง เขาอยากให้หมอทำอะไรและห้ามไม่ให้ทำอะไร เป็นต้น

2. คุณหมอบางคนเมื่อคุยถึงเรื่องความตายจะเครียดมาก ไม่กล้าคุย บางคนรู้สึกไปว่า...เอ๊ะ...คนไข้จะคิดว่าเราแช่งหรือเปล่านะ

ก่อนจะเริ่มคุยหัวข้อนี้กับคนไข้ จงระวังอารมณ์และความรู้สึกของคุณหมอให้ดีครับ

ผมแนะนำว่าควรจะพูดคุยถึงเรื่องนี้ในลักษณะเหมือนการซักประวัติ คุยเหมือนกับไต่ถามถึงสารทุกข์สุกดิบของคนไข้ คุยด้วยอาการธรรมดาเป็นปกติให้มากที่สุด บอกคนไข้ไปตามตรงว่าการคุยเรื่องนี้ไม่ได้หมายความว่าคนไข้ป่วยหนักใกล้จะตาย แต่เป็นส่วนหนึ่งของเวชปฏิบัติที่ทำให้คุณหมอสามารถเข้าใจคนไข้ และสามารถดูแลคนไข้ได้ดีมากยิ่งขึ้น

คนไข้บางคนอาจจะรู้สึกไม่ดี ไม่อยากคุย ไม่อยากพูดถึง แต่เชื่อเถอะครับว่า สุดท้ายแล้วหลังจากที่ได้สนทนากันในเรื่องเหล่านี้ คนไข้มากกว่าร้อยละ 90 มีความรู้สึกยินดีที่คุณหมอคุยเรื่องนี้กับเขา

3. สิ่งที่คนไข้คุยกับเรา ข้อมูลที่เราได้รับจากคนไข้ จะบอกให้คุณหมอรู้ถึงความเชื่อ ความรู้สึกนึกคิด ประสบการณ์เรื่องความตาย และเลยไปถึงเรื่องจิตวิญญาณของคนไข้ได้เป็นอย่างดี

ถ้าไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสนทนาอย่างไรดี คุณหมออาจจะเริ่มถามคำถามง่ายๆ เช่น
"คุณเคยมีประสบการณ์เห้นคนไข้ป่วยหนัก ที่ไม่สามารถพูดอะไร บอกอะไรให้คนอื่นรับรู้ไหมครับ"
ถ้าคนไข้ตอบว่า "เคยครับหมอ/เคยค่ะหมอ"
ก็เป็นเรื่องง่ายที่เราจะเริ่มคุยไปในเชิงลึกแล้วละครับ

แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมระลึกเอาไว้เสมอนะครับว่า มีคนไข้บางราย บางเชื้อชาติ หรือบางเผ่าพันธุ์ศาสนา ที่มีความเชื่อถือเรื่องโชคลาง หรือเคล็ดความเชื่ออะไรบางอย่าง เขาอาจจะไม่อยากคุยกับคุณหมอเรื่องนี้เลยก็ได้ ถ้าคุณหมอพบคนไข้ในกลุ่มดังกล่าว อาจจะต้องหยุดการสนทนาหัวข้อเรื่องความตายเอาไว้ก่อนนะครับ เพราะดีไม่ดีคนไข้อาจจะหนี หาย ไม่มารักษากับคุณหมออีกเลยก็เป็นได้

4. การแสดงเจตจำนงค์ในระยะสุดท้ายของชีวิตมี 2 ลักษณะด้วยกัน ที่คุณหมอคงเคยได้ยินผ่านหูมาบ้างแล้วก็คือ
4.1 Living Will คือการเขียนบันทึกแสดงความจำนงค์ว่าในระยะสุดท้ายของชีวิต คนไข้ต้องการอะไร ต้องการให้ปั๊มหัวใจไหม ต้องการให้หมอใส่เครื่องช่วยหายใจหรือเปล่า เป็นต้นและ
4.2 บางคนมีการแต่งตั้งตัวแทนที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อตัดสินใจแทนในกรณีคนไข้ไม่สามารถจะตัดสินใจเลือกการรักษาเองได้

ทั้งสองกรณีนี้ หากมีสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์ดี คนไข้สามารถทำเองได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องมีการตั้งทนายความครับ

สำหรับรายละเอียดเรื่อง Living Will ในบทความกฎหมายทางการแพทย์ของวารสารคลินิกได้เคยกล่าว ถึงไปบ้างแล้ว ดังนั้นผมจะขอผ่านเรื่องรายละเอียดต่างๆไปเลยนะครับ เพราะในส่วนของผมจะเน้นหนักเรื่องการสื่อสารกับคนไข้ในเรื่องนี้มากกว่า

การสนทนาในหัวข้อนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก และยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกหลายประการ ผมขอยกยอดไปคุยกันต่อในฉบับเดือนหน้านะครับ
 
เอกสารอ้างอิง
1. Doukas DH, McCullough LB. The Values History: The Evaluation of the Patientís value and advance directives. J Fam Pract 2001;32:145-53.
2. Hofmann JC, Wenger NS, Davis RB, et al. Patient Preferences decisions. Ann Intern Med 1997;127:1-12.
3. Danis M, Southerland LI, Garrett JM, et al. A Prospective study of advance directives for life-sustaining care. N Engl J Med 2001;324:882-8.
4. Lynn J, Nolan K, Kabcenell A, et al. Reforming care for persons near the end of life: The Promise of Quality Improvement. Ann Intern Med 2002;137:117-22.
5. Detmar SB, Muller MJ, Wever LDV, et al. Patient Physicians Communication during outpatient Palliative Treatment Visit. JAMA 2001;285:1351-7.
 
พงศกร จินดาวัฒนะ พ.บ.
ว.ว. (เวชปฏิบัติทั่วไป)
อ.ว. (เวชศาสตร์ครอบครัว)
ศูนย์สุขภาพชุมชน 1
กลุ่มงานเวชกรรมสังคม
โรงพยาบาลราชบุรี

ป้ายคำ:
  • กรณีศึกษา
  • คุยสุขภาพ
  • ปิยวาจาทางคลินิก
  • เบาหวาน
  • นพ.พงศกร จินดาวัฒนะ
  • อ่าน 2,297 ครั้ง
  • พิมพ์หน้านี้พิมพ์หน้านี้

ข้อมูลสื่อ

275-009
วารสารคลินิก 275
พฤศจิกายน 2550
ปิยวาจาทางคลินิก
นพ.พงศกร จินดาวัฒนะ
Skip to Top

บทความสุขภาพน่ารู้

  • ทั้งหมด
  • การแพทย์ทางเลือก
    • แพทย์แผนไทย
      • กดจุด
      • นวดไทย
    • แพทย์แผนจีน
  • ดูแลสุขภาพ
    • การดูแลผู้สูงอายุ
    • การปฐมพยาบาล
    • การรักษาเบื้องต้น
    • การใช้ยาสมุนไพร
    • คู่มือดูแลสุขภาพ
    • ยาและวิธีใช้
    • ตรวจสุขภาพด้วยตัวเอง
      • คำนวณค่า BMI
      • วินิจฉัยโรคเบื้องต้น
      • แนะนำการตรวจสุขภาพประจำปี
    • คุยสุขภาพ
      • กรณีศึกษา
      • ถามตอบปัญหาสุขภาพ
  • สุขภาพทางเพศและครอบครัว
    • การดูแลบุตร
    • แม่และเด็ก
    • การตั้งครรภ์
    • เรียนรู้เรื่องเพศและการวางแผนครอบครัว
  • สร้างเสริมสุขภาพ 3 อ. ​และป้องกันโรค
    • อาหาร
      • อาหาร 5 หมู่
      • อาหารของผู้่ป่วยโรคเรื้อรัง
        • ความดันสูง
        • หัวใจ
        • เกาต์
        • เบาหวาน
      • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
      • อาหารป้องกันมะเร็ง
      • อาหารสมุนไพร
    • ออกกำลังกาย
      • วิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แอร์โรบิค แอร์โรบอคซิ่ง รำกระบอง ไทเก็ก ชี่กง โยคะ
    • อารมณ์
      • การทำสมาธิ
      • การพักผ่อน
      • การพัฒนา EQ
      • จิตอาสา/ ฉือจี้
  • พฤติกรรมอันตราย
    • พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ
    • อนามัยสิ่งแวดล้อม
    • อิริยาบถ
  • โรคและอาการ
    • โรคเรื้อรัง
      • กลุ่มอาการเมตาโบลิค
      • ความดันโลหิตสูง
      • ถุงลมปอดโป่งพอง
      • มะเร็ง
      • อัมพฤกษ์ อัมพาต
      • เบาหวาน
      • โรคข้อ/เกาต์
      • โรคทางจิตเวช เครียด หวาดระแวง
      • โรคหวัด ภูมิแพ้
      • โรคหัวใจ
      • โรคหืด
      • ไขมันในเลือดสูง/ผิดปกติ
      • ไตวาย
    • โรคตามระบบ
      • ระบบทางเดินอาหาร
      • โรคจากอุบัติเหตุ สารพิษ และสัตว์พิษ
      • โรคช่องปากและฟัน
      • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      • โรคติดเชื้อ
      • โรคผิวหนัง
      • โรคพยาธิ
      • โรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
      • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศชาย
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศหญิง
      • โรคระบบทางเดินปัสสาวะ
      • โรคระบบทางเดินหายใจ
      • โรคระบบประสาทและสมอง
      • โรคระบบไหลเวียนโลหิต
      • โรคหู ตา คอ จมูก
    • โรคจากการทำงาน
      • พิษภัยจากสารเคมี (ยาฆ่าเมลง/ สารตะกั่ว)
      • โรคจากฝุ่นและสารเคมีในโรงงาน
      • โรคจากสัตว์ เช่น ฉี่หนู
      • โรคจากอริยาบทที่ผิดสุขลักษณะ
      • โรคเส้นเอ็นอักเสบ/ นิ้วล็อค
  • ทันกระแสสุขภาพ
  • คลังความรู้สื่อสังคมออนไลน์
  • อื่น ๆ

ได้รับความนิยม

  • นม
  • ถั่วพู
  • คนท้อง
  • ธาลัสซีเมีย
  • ผู้สูงอายุ
  • ผักพื้นบ้าน
  • สมุนไพร

แผนผังเว็บไซต์

  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ

รวมลิงค์เครือข่าย

  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • สถาบันโยคะวิชาการ

สื่อสุขภาพ

  • คลิปสุขภาพ
  • หมอชาวบ้านรายเดือน
  • คลินิกรายเดือน
  • จดหมายข่าวย้อนหลัง
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • twitter หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)< และสถาบัน ChangeFusion< พัฒนาระบบโดย Opendream< สัญญาอนุญาต cc by-nc-sa <