"บัณฑิตทั้งหลายจงเจริญด้วยตาดู หูฟัง มือคลำแล้วเคาะ"
ศ.นพ. ประเสริฐ กังสดาลย์ (1904-1962)
เห็นประโยคนี้แล้วหลายคนคงไม่ทราบว่าบัณฑิตในที่นี้หมายถึงใคร แต่หากคนที่อ่านเป็นแพทย์คงจะรู้ดีแน่ว่าหมายถึงตน.
ในการให้ได้มาซึ่งการวินิจฉัยโรค แพทย์จะต้องอาศัยการซักประวัติ และการตรวจร่างกาย ประวัติจากผู้ป่วยหรือคนรอบข้างถือเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะเปรียบเสมือนเข็มทิศที่ช่วยนำทาง. แต่บางครั้งข้อมูลที่ได้มาก็ไม่ น่าเชื่อถือหากผู้ให้ประวัติพยายามบิดเบือนความจริง และในกรณีผู้ป่วยหมดสติหรือผู้ป่วยเด็กเล็ก แพทย์ย่อมไม่ได้ประวัติจากบุคคลเหล่านั้นเลย. ด้วยเหตุนี้การตรวจร่างกายจึงเป็นทักษะสำคัญที่แพทย์ทุกคนต้องมี. ศ.นพ.ประเสริฐ กังสดาลย์ ปรมาจารย์ด้านอายุรศาสตร์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น William Osler ของไทยจึงได้ให้โอวาทแก่บัณฑิตแพทย์ดังประโยคข้างต้น.
ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าอาจารย์ได้ชี้แนะลำดับก่อนหลังในการตรวจไว้ด้วย กล่าวคือ ดู (inspection), ฟัง (auscultation), คลำ (palpation) แล้วค่อยเคาะ (percussion) แต่แพทย์ท่านใดจะเรียงลำดับการตรวจอย่างไรคงแล้วแต่ความถนัดและขึ้นอยู่กับสถานการณ์ สำคัญว่าตรวจให้ครบถ้วนก็เพียงพอ.
ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น ทำให้แพทย์เริ่มพึ่งพิงเทคโนโลยีเหล่า นั้นจนละเลยการตรวจร่างกายไป ถึงกับมีคำกล่าวว่าแพทย์สมัยใหม่ high tech, low touch. ผู้เขียนซึ่งเป็นแพทย์จบใหม่คนหนึ่งจึงอยากเชิญชวนให้เพื่อนๆ และน้องๆ ทุกท่านมาช่วยกันเปลี่ยนคำนี้ให้เป็น high tech, high touch กันนะครับ.
ธีรวัฒน์ บูระวัฒน์ พ.บ.
โรงพยาบาลบ้านแหลม, จังหวัดเพชรบุรี
E-mail : [email protected]
- อ่าน 4,158 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้