Skip to main content
ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
menu

Login Pop

  • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
search
  • เว็บหลักหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ
หน้าแรก » บทความสุขภาพน่ารู้ » คำประกาศของแพทยสมาคมโลกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับองค์กรธุรกิจ (THE WORLD MEDICAL ASSOCIATION STATEMENT CONCERNING THE RELATIONSHIP BETWEEN PHYSICIANS AND COMMERCIAL ENTERPRISES)*
  • ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

คำประกาศของแพทยสมาคมโลกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับองค์กรธุรกิจ (THE WORLD MEDICAL ASSOCIATION STATEMENT CONCERNING THE RELATIONSHIP BETWEEN PHYSICIANS AND COMMERCIAL ENTERPRISES)*

โพสโดย Anonymous เมื่อ 1 ธันวาคม 2551 00:00

ก. อารัมภบท
1. การรักษาพยาบาลผู้ป่วยนั้น แพทย์จะต้องใช้ยา อุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องมือวินิจฉัยโรค เครื่องมือและวัสดุต่างๆ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ที่ผลิตและพัฒนาโดยองค์กรธุรกิจต่างๆ โดยภาคอุตสาหกรรมที่เป็นเจ้าของทรัพยากรต่างๆ ได้อุดหนุนลงทุนวิจัยและพัฒนาที่ใช้เงินจำนวนมาก เพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้และประสบการณ์ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นของแพทย์ นอกจากนั้น ภาคอุตสาหกรรมยังสนับสนุนให้เกิดความก้าวหน้าในการวิจัยทางการแพทย์, การจัดประชุมวิชาการต่างๆ และการศึกษาต่อเนื่องของแพทย์ อันจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ป่วยและระบบดูแลสุขภาพทั้งมวล การร่วมมือกันระหว่างแหล่งเงินทุนและความรู้ที่เกิดขึ้นเป็นผลจากภาคอุตสาหกรรม ความรู้ทางการแพทย์ ทำให้เกิดการพัฒนากระบวนการวินิจฉัยโรค, ผลิตภัณฑ์ยา และวิธีการรักษาแบบใหม่ ซึ่งนำไปสู่ความก้าวหน้าทางการแพทย์อย่างมาก.

2. อย่างไรก็ตาม การขัดกันระหว่างผลประโยชน์ขององค์กรธุรกิจกับแพทย์ที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อการดูแลผู้ป่วยและชื่อเสียงของวิชาชีพเวชกรรม หน้าที่ของแพทย์คือ การประเมินอย่างเป็นภาวะวิสัยว่าสิ่งใดจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ป่วยมากที่สุด ในขณะที่องค์กรธุรกิจจะคาดหวังที่จะสร้างผลกำไรให้แก่เจ้าของกิจการด้วยการขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของตนและแข่งขันกันเพื่อหาลูกค้า ผลประโยชน์ทางธุรกิจจะมีผลกระทบต่อภาวะวิสัยของแพทย์ โดยเฉพาะกรณีที่แพทย์นั้นมีความผูกพันกับองค์กรธุรกิจ.

3. สิ่งที่ควรพิจารณายิ่งกว่าการห้ามความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับองค์กรธุรกิจคือ การจัดทำแนวปฏิบัติสำหรับความสัมพันธ์ดังกล่าว แนวปฏิบัติดังกล่าวจะต้องประกอบด้วยหลักการสำคัญเรื่องการเปิดเผยข้อมูล, การหลีกเลี่ยงเรื่องผลประโยชน์ขัดกัน และการวินิจฉัยทางคลินิกของแพทย์เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ป่วย.

4. แนวปฏิบัติเหล่านี้ควรใช้เป็นพื้นฐานในการพิจารณาทบทวนแนวปฏิบัติที่มีอยู่และพัฒนาปรับปรุงแนวปฏิบัติที่จะทำขึ้นในอนาคตต่อไป.

ข. การจัดประชุมวิชาการทางการแพทย์
5. แพทย์อาจเข้าร่วมประชุมวิชาการทางการแพทย์ซึ่งได้รับการสนับสนุนทางการเงินทั้งหมดหรือบางส่วนจากองค์กรทางธุรกิจได้ หากการประชุมนั้น มีหลักการ ดังต่อไปนี้
5.1 วัตถุประสงค์หลักของการจัดประชุมคือ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ทางวิทยาศาสตร์และการประกอบวิชาชีพ.

5.2 การจัดเลี้ยงรับรองในระหว่างการประชุมเป็นเรื่องรองไปจากการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ทางวิชาชีพ และต้องไม่จัดเลี้ยงรับรองที่ฟุ่มเฟือยเกินกว่าการจัดเลี้ยงตามประเพณีของท้องถิ่นและเป็นที่ยอมรับกันได้ทั่วไป.

5.3 แพทย์จะต้องไม่รับเงินค่าใช้จ่ายต่างๆโดยตรงจากองค์กรธุรกิจ เช่น ค่าเดินทาง, ค่าห้องพักและค่าอาหารในการประชุมหรือเงินค่าตอบแทนที่เข้าประชุม เว้นแต่มีกฎหมายหรือนโยบายของแพทยสมาคมของแต่ละประเทศกำหนดอนุญาตไว้.

5.4 ชื่อขององค์กรธุรกิจที่การสนับสนุนทาง การเงินในการจัดประชุมจะต้องเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อให้บรรดาแพทย์ทั้งหลายและสาธารณชนทราบข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มาของเงินที่สนับสนุนการประชุม นอกจากนี้ ผู้จัดประชุมและวิทยากรจะต้องเปิดเผย ให้ผู้เข้าร่วมประชุมทราบถึงผลประโยชน์ทางการเงินที่อาจโยงใยกับบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีกล่าวถึงในการประชุมหรือบริษัทคู่แข่งของผลิตภัณฑ์นั้นๆ.

5.5 แพทย์ที่เสนอข้อมูลในที่ประชุมจะต้องเป็นข้อมูลที่มีความถูกต้องแม่นยำในทางวิทยาศาสตร์ การเสนอทางเลือกในการรักษาที่เป็นไปได้ต่างๆ ต้องมีความเหมาะสมไม่ลำเอียง และต้องไม่ถูกครอบงำโดยองค์กรที่ให้การสนับสนุนการจัดประชุม.

5.6 การจัดประชุมต้องเป็นที่ยอมรับกันว่าสนองต่อวัตถุประสงค์เพื่อให้การศึกษาต่อเนื่องของแพทย์/พัฒนาการประกอบวิชาชีพต่อเนื่อง (CME/CPD) เท่านั้น โดยที่ต้องยึดหลักการ ดังต่อไปนี้
5.6.1 องค์กรธุรกิจที่ให้การสนับสนุน เช่น บริษัทจำหน่ายยา จะต้องไม่มีอิทธิพลต่อเนื้อหา, วิธีการและเอกสารการนำเสนอ, การคัดเลือกวิทยากร หรือการจัดพิมพ์เผยแพร่ผลงาน.
5.6.2 งบประมาณในการจัดประชุมที่สามารถยอมรับได้มีเพียงกรณีเดียวคือ ค่าใช้จ่ายทั่วไปในการจัดประชุม.

ค. การให้ของขวัญ
6. แพทย์ไม่ควรรับของขวัญขององค์กรธุรกิจ เว้นแต่มีกฎหมายหรือนโยบายของแพทยสมาคมของแต่ละประเทศกำหนดอนุญาตไว้ โดยที่ต้องยึดหลักการดังต่อไปนี้
6.1 ของขวัญที่ให้ต้องมีราคาตามประเพณี ที่ยอมรับกัน.
6.2 ของขวัญนั้นมิใช่เงินสด.
6.3 ของขวัญแม้จะมีราคาตามประเพณีที่ยอมรับกัน จะต้องไม่จูงใจในการสั่งจ่ายยาตัวใดตัวหนึ่งของแพทย์ หรือการใช้เครื่องมือหรือเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ชนิดใดชนิดหนึ่งเป็นการเฉพาะ หรือการส่งต่อผู้ป่วยไปรับบริการยังสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งโดยเฉพาะ.

ง. การวิจัย

7. แพทย์สามารถดำเนินการวิจัยที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากองค์กรธุรกิจได้ ทั้งกรณีที่ดำเนินการในนามองค์กรหรือกระทำในนามบุคคล โดยต้องยึดหลักการดังต่อไปนี้
7.1 แพทย์จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ตามหลักจริยธรรมและปฏิญญาเฮลซิงกิ ตลอดจนเกณฑ์การตัดสินใจทำการวิจัยทางคลินิก และต้องไม่ทำการวิจัยภายใต้แรงกดดันจากภายนอก ที่จะมีผลกระทบต่อผลการวิจัยหรือการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานดังกล่าว.
7.2 ถ้าเป็นไปได้ แพทย์หรือองค์กรใดๆ ที่ต้องการศึกษาวิจัย ควรขอทุนวิจัยจากบริษัทมากกว่า 1 แห่งในการสนับสนุนงานวิจัยโครงการใดโครงการหนึ่ง.
7.3 ข้อมูลที่จะบ่งถึงตัวบุคคลของผู้ป่วยหรืออาสาสมัครที่ถูกวิจัย จะต้องไม่ถูกส่งไปยังบริษัทที่ให้การสนับสนุนการวิจัยนั้น โดยปราศจากความยินยอมของเจ้าของข้อมูลที่เกี่ยวข้อง.
7.4 การจ่ายค่าตอบแทนในการทำวิจัยให้แก่แพทย์ ควรต้องพิจารณาจากเวลาและความสามารถของผู้วิจัย โดยต้องไม่มีเกี่ยวโยงกับผลการวิจัยโดยเด็ดขาด.
7.5 ผลการศึกษาวิจัยที่เผยแพร่สู่สาธารณะจะต้องปรากฏชื่อองค์กรผู้ให้การสนับสนุน รวมถึงข้อความที่ระบุชื่อผู้ขอให้ทำงานวิจัยนั้น หลักเกณฑ์ข้อนี้ให้ใช้กับการสนับสนุนโดยตรงและโดยอ้อม การสนับสนุนทั้งหมดหรือบางส่วน.
7.6 องค์กรธุรกิจจะต้องไม่ยับยั้งการตีพิมพ์ผลการศึกษาวิจัยใดๆ โดยเฉพาะกรณีที่ผลการศึกษาวิจัยใดที่มิได้เผยแพร่ต่อสาธารณชนเพราะเหตุที่ให้ผลเชิงลบ การศึกษาวิจัยที่ทำซ้ำโดยไม่มีความจำเป็นและการวิจัยที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ถูกวิจัยในอนาคตได้.

จ. การร่วมประกอบกิจการกับองค์กรธุรกิจ
8. แพทย์ไม่ควรประกอบธุรกิจร่วมกับองค์กรธุรกิจ เช่น การเป็นที่ปรึกษาหรือเป็นกรรมการในคณะกรรมการที่ปรึกษา ยกเว้นจะเป็นไปตามหลักการดังต่อไปนี้
8.1 การร่วมประกอบธุรกิจนั้นมิได้มีผลกระทบต่อคุณธรรมและจรรยาของแพทย์.
8.2 การร่วมประกอบธุรกิจนั้นไม่เป็นการขัดกันต่อหน้าที่ ความรับผิดชอบของแพทย์ที่มีต่อผู้ป่วยของตน.
8.3 การร่วมประกอบธุรกิจและ/หรือความสัมพันธ์กับองค์กรธุรกิจนั้นได้รับการเปิดเผยชัดเจนในกรณีต่างๆ เช่น การบรรยาย การเขียนบทความและรายงานผลการวิจัย.

แปลโดย
วิฑูรย์ อึ้งประพันธ์ พ.บ., น.บ., Dr.Med.,
อ.ว. (นิติเวชศาสตร์), ที่ปรึกษาศูนย์กฎหมาย
สุขภาพและจริยศาสตร์ คณะนิติศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกรรมการกฤษฎีกา,
ไพศาล ลิ้มสถิตย์ น.บ., น.ม.,
นักวิชาการศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์
คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
 

ป้ายคำ:
  • คุยสุขภาพ
  • อื่น ๆ
  • นานาสาระ
  • ศ.นพ.วิฑูรย์ อึ้งประพันธ์
  • อ่าน 3,003 ครั้ง
  • พิมพ์หน้านี้พิมพ์หน้านี้

ข้อมูลสื่อ

288-005
วารสารคลินิก 288
ธันวาคม 2551
นานาสาระ
ศ.นพ.วิฑูรย์ อึ้งประพันธ์
Skip to Top

บทความสุขภาพน่ารู้

  • ทั้งหมด
  • การแพทย์ทางเลือก
    • แพทย์แผนไทย
      • กดจุด
      • นวดไทย
    • แพทย์แผนจีน
  • ดูแลสุขภาพ
    • การดูแลผู้สูงอายุ
    • การปฐมพยาบาล
    • การรักษาเบื้องต้น
    • การใช้ยาสมุนไพร
    • คู่มือดูแลสุขภาพ
    • ยาและวิธีใช้
    • ตรวจสุขภาพด้วยตัวเอง
      • คำนวณค่า BMI
      • วินิจฉัยโรคเบื้องต้น
      • แนะนำการตรวจสุขภาพประจำปี
    • คุยสุขภาพ
      • กรณีศึกษา
      • ถามตอบปัญหาสุขภาพ
  • สุขภาพทางเพศและครอบครัว
    • การดูแลบุตร
    • แม่และเด็ก
    • การตั้งครรภ์
    • เรียนรู้เรื่องเพศและการวางแผนครอบครัว
  • สร้างเสริมสุขภาพ 3 อ. ​และป้องกันโรค
    • อาหาร
      • อาหาร 5 หมู่
      • อาหารของผู้่ป่วยโรคเรื้อรัง
        • ความดันสูง
        • หัวใจ
        • เกาต์
        • เบาหวาน
      • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
      • อาหารป้องกันมะเร็ง
      • อาหารสมุนไพร
    • ออกกำลังกาย
      • วิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แอร์โรบิค แอร์โรบอคซิ่ง รำกระบอง ไทเก็ก ชี่กง โยคะ
    • อารมณ์
      • การทำสมาธิ
      • การพักผ่อน
      • การพัฒนา EQ
      • จิตอาสา/ ฉือจี้
  • พฤติกรรมอันตราย
    • พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ
    • อนามัยสิ่งแวดล้อม
    • อิริยาบถ
  • โรคและอาการ
    • โรคเรื้อรัง
      • กลุ่มอาการเมตาโบลิค
      • ความดันโลหิตสูง
      • ถุงลมปอดโป่งพอง
      • มะเร็ง
      • อัมพฤกษ์ อัมพาต
      • เบาหวาน
      • โรคข้อ/เกาต์
      • โรคทางจิตเวช เครียด หวาดระแวง
      • โรคหวัด ภูมิแพ้
      • โรคหัวใจ
      • โรคหืด
      • ไขมันในเลือดสูง/ผิดปกติ
      • ไตวาย
    • โรคตามระบบ
      • ระบบทางเดินอาหาร
      • โรคจากอุบัติเหตุ สารพิษ และสัตว์พิษ
      • โรคช่องปากและฟัน
      • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      • โรคติดเชื้อ
      • โรคผิวหนัง
      • โรคพยาธิ
      • โรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
      • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศชาย
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศหญิง
      • โรคระบบทางเดินปัสสาวะ
      • โรคระบบทางเดินหายใจ
      • โรคระบบประสาทและสมอง
      • โรคระบบไหลเวียนโลหิต
      • โรคหู ตา คอ จมูก
    • โรคจากการทำงาน
      • พิษภัยจากสารเคมี (ยาฆ่าเมลง/ สารตะกั่ว)
      • โรคจากฝุ่นและสารเคมีในโรงงาน
      • โรคจากสัตว์ เช่น ฉี่หนู
      • โรคจากอริยาบทที่ผิดสุขลักษณะ
      • โรคเส้นเอ็นอักเสบ/ นิ้วล็อค
  • ทันกระแสสุขภาพ
  • คลังความรู้สื่อสังคมออนไลน์
  • อื่น ๆ

ได้รับความนิยม

  • นม
  • ถั่วพู
  • คนท้อง
  • ธาลัสซีเมีย
  • ผู้สูงอายุ
  • ผักพื้นบ้าน
  • สมุนไพร

แผนผังเว็บไซต์

  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ

รวมลิงค์เครือข่าย

  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • สถาบันโยคะวิชาการ

สื่อสุขภาพ

  • คลิปสุขภาพ
  • หมอชาวบ้านรายเดือน
  • คลินิกรายเดือน
  • จดหมายข่าวย้อนหลัง
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • twitter หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)< และสถาบัน ChangeFusion< พัฒนาระบบโดย Opendream< สัญญาอนุญาต cc by-nc-sa <