ตลอดปี 2549 อันเป็นปีที่ 6 ของการดำเนินงานโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า มีความก้าวหน้าที่ น่าจับตาในหลายด้าน
คนไทยเกือบ 98 % มี "หลักประกันสุขภาพ"
ณ เดือนกันยายน 2549 คนไทยร้อยละ 97.82 หรือ 61.04 ล้านคน (จากประชากรทั่วประเทศ 62.39 ล้านคน) มีหลักประกันสุขภาพ มีอัตราความครอบคลุมเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.96 โดย 47.54 ล้านคนลงทะเบียนสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ร้อยละ 0.42 ในจำนวนนี้เป็นสิทธิประกันสุขภาพแบบเสียค่าธรรมเนียม 22.57 ล้านคน และสิทธิประกันสุขภาพแบบไม่เสียค่าธรรมเนียมจำนวน 24.97 ล้านคน ที่น่าสนใจคือจำนวนประชากรที่มีสิทธิว่างลดลงถึงร้อยละ 42.41 จาก 2,356,963 คนในปี 2548 เหลือ 1,357,460 คนในปี 2549
การที่ประชากรสิทธิว่างลดลงถึงร้อยละ 42.41 ในปี 2549 เนื่องมาจาก
♦ การพัฒนาระบบตรวจสอบสิทธิข้าราชการ ลูกจ้างประจำและบุคคลในครอบครัว ในการดำเนินโครงการ จ่ายตรงสวัสดิการการรักษาพยาบาลข้าราชการและลูกจ้างประจำ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทำให้ตรวจสอบพบไปอยู่ในสิทธิสวัสดิการข้าราชการ
♦ ทุกหน่วยบริการสามารถลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์โดยไม่ผ่านส่วนกลาง กรณีตรวจสอบแล้วไม่พบว่าผู้ป่วยลงทะเบียนไว้กับหน่วยบริการอื่น
♦ สามารถลงทะเบียนทารกแรกเกิด ณ หน่วยบริการที่ให้บริการนั้นๆ
♦ การ Province Survey อันเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ โดยกลุ่มงานประกันสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่งเป็นผู้ดำเนินการสำรวจในพื้นที่ ทำให้ผู้ไม่มีสิทธิประกันสุขภาพใดๆ ไปอยู่ในกลุ่มรอพิสูจน์สถานะ
ในด้านของความพึงพอใจ มุมมองจากทั้งประชาชนและผู้ให้บริการต่อระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในปี 2549 พบว่า ต่างก็พอใจมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยจากคะแนนเต็ม 10 ได้รับคะแนนความพึงพอใจจากประชาชน 8.08 ขณะที่ได้คะแนนจากผู้ให้บริการ 6.28
เพิ่มหน่วยบริการ เพิ่มการเข้าถึง
หน่วยบริการคู่สัญญาในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในปี 2549 เพิ่มขึ้นจาก 1,110 แห่งในปี 2548 เป็น 1,155 แห่ง โดยเป็นกลุ่มโรงพยาบาลมากที่สุดร้อยละ 83.03 (959 แห่ง) อีกร้อยละ 16.97 เป็นกลุ่มคลินิกชุมชนอบอุ่น (196 แห่ง)
แก้ไขทันใจเรื่องร้องทุกข์ร้องเรียน
ในปี 2549 สำนักบริการประชาชน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้รับเรื่องร้องเรียนตามมาตรา 57, 59 ตาม พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ทั้งสิ้น 2,945 เรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับหน่วยบริการ ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐาน ผู้รับบริการไม่ได้รับความสะดวกตามสมควร ไม่ได้รับบริการตามสิทธิที่กำหนด ถูกเรียกเก็บค่าบริการโดยไม่มีสิทธิจะเรียกเก็บ ถูกเรียกค่าบริการเกินกว่าอัตราที่คณะกรรมการกำหนด หรือไม่ได้รับค่าเสียหายจากการรักษาภายในระยะเวลาอันสมควร ทั้งนี้ผู้ร้องหรือผู้แจ้งเรื่องได้รับการตอบกลับภายใน 7 วันทำการ และสามารถดำเนินการแก้ไขเรื่องร้องเรียนแล้วเสร็จ 2,649 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 89.95
ส่งต่อผู้ป่วยทันท่วงที มีประสิทธิภาพ
ที่ผ่านมา สปสช. ได้พัฒนาระบบการบริหารจัดการในรูปของ ศูนย์ประสานงานเพื่อส่งต่อผู้ป่วย เพื่อเป็นกลไกเสริมให้เกิดการประสานงานระหว่างสถานพยาบาลให้แก่ผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า กรณีผู้ป่วยโรคหัวใจ และผู้ป่วยอุบัติเหตุ-เจ็บป่วยฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ
ปีงบประมาณ 2549 ศูนย์ฯ ได้รับเรื่องให้ช่วยประสานการเตียงให้ผู้ป่วย จำนวน 2,423 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ซึ่งมีจำนวน 1,169 ราย คิดเป็นร้อยละ 107.27 โดยศูนย์ฯ สามารถประสานหาเตียงได้จำนวน 1,784 ราย คิดเป็นร้อยละ 73.63 โดยร้อยละ 90.41 ประสานส่งต่อไปยังโรงพยาบาลในโครงการ ในจำนวนนี้เป็นการประสานไปยังโรงพยาบาลอื่นที่เข้าร่วมโครงการร้อยละ 68.88 ที่เหลือประสานส่งกลับหน่วยบริการต้นสังกัดร้อยละ 31.12 ทั้งนี้ได้ประสานส่งไปรักษายังโรงพยาบาลร่วมสำรองเตียง จำนวน 171 ราย คิดเป็นร้อยละ 9.59 ของการประสานหาเตียงได้ทั้งหมด โดยมีระยะเวลาที่ใช้ในการประสาน หาเตียงโดยเฉลี่ย 3 วัน
หน่วยบริการคุณภาพเต็มแก้ว
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้จัดทำโครงการส่งเสริมคุณภาพและมาตรฐานโรงพยาบาล ใน ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าต่อเนื่องจากปี 2548 โดยร่วมมือกับสถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล โดยในปี 2549 ได้ปรับปรุงฐานข้อมูล เพื่อให้เป็นปัจจุบันและสอดคล้องกับจำนวนและสถานการณ์ การขึ้นทะเบียนเข้าในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
การพัฒนาและการรับรองคุณภาพโรงพยาบาล ณ กันยายน 2549 พบว่า จำนวนหน่วยบริการที่มีการพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐาน HA และมาตรฐาน ISO เพิ่มขึ้นเป็น 878 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 91.36 เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ร้อยละ 10.16 โรงพยาบาลที่ผ่านการพัฒนาและประเมินคุณภาพขั้น 1 ขั้น 2 และผ่านการรับรองคุณภาพ จำนวน 871 แห่ง (ร้อยละ 90.64) และโรงพยาบาลที่ผ่านการรับรองคุณภาพตามมาตรฐาน ISO 9001 จำนวน 64 แห่ง (ร้อยละ 6.66) ของหน่วยบริการทั้งหมด คงเหลือหน่วยบริการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 83 แห่ง (ร้อยละ 8.64)
นี่คือส่วนหนึ่งของความก้าวหน้าจากการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในปี 2549 ที่ผ่านมา
- อ่าน 3,529 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้