Skip to main content
ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
menu

Login Pop

  • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
search
  • เว็บหลักหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ
หน้าแรก » บทความสุขภาพน่ารู้ » วัณโรค Tuberculosis : TB
  • ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

วัณโรค Tuberculosis : TB

โพสโดย Anonymous เมื่อ 1 พฤษภาคม 2550 00:00

ทั่วโลกมีคนที่เสียชีวิตจากมาลาเรียประมาณ 1 ล้านคนต่อปีผมยังเล่าให้ฟัง แล้ววัณโรคที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 2 ล้านคนต่อปี ถ้าผมไม่พูดถึงมันคงจะน้อยใจแย่เลย.

                                                       

วัณโรคเป็นโรคที่พบมานานแล้ว มักเป็นภายในครอบครัวสมัยก่อนจึงเชื่อว่าถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกหลาน จนค.ศ. 1865 นักวิทยาศาสตร์ถึงพบว่าเป็นโรคติดต่อ ผู้ที่เป็นโรคนี้จึงถูกสังคมรังเกียจ. ต่อมา ค.ศ. 1882 Robert Koch พบว่าเชื้อแบคทีเรียรูปแท่งชื่อ Tubercle bacilli เป็นสาเหตุของโรคนี้ (ปัจจุบันคือ Mycobacterium tuberculosis) และพิสูจน์ได้ว่าโรคนี้แพร่เชื้อผ่านทางเสมหะทำให้ควบคุมการระบาดได้. นอกจากนี้ Koch ยังพยายามผลิตวัคซีนชื่อ Tuberculin ซึ่งล้มเหลวในการป้องกันโรค แต่พอจะช่วยในการวินิจฉัยโรคได้จึงยังคงมีใช้อยู่ในปัจจุบัน.

ทุกวันนี้ทราบแล้วว่าเชื้อวัณโรคอยู่ในสกุล Mycobacterium ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายชนิดเช่น M. tuberculosis, M. bovis และ Mycobacterium avium complex เป็นต้น โดยเชื้อที่ก่อโรคในคนมากที่สุดคือ M. tuberculosis.


ต่อมาค.ศ. 1918 A. Calmette และ A. Guerin สองนักวิทยาศาสตร์แห่งสถาบัน Pasteur ก็ผลิตวัคซีนขึ้นมาเรียกว่า Bacille Calmette-Guerin (BCG) และเริ่มใช้ในปี ค.ศ. 1921 สำหรับวัคซีน BCG นั้นจากการศึกษาพบว่าป้องกันโรคได้ไม่แน่นอนมีตั้งแต่ 0% (การศึกษาที่อินเดีย) จนถึง 77% (การศึกษาที่อังกฤษ) จึงสรุปได้ว่ามันไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค แต่หลายการศึกษาเห็นตรงกันว่าช่วยลดอุบัติการณ์ของวัณโรคที่รุนแรงได้เช่น วัณโรคเยื่อหุ้มสมองและวัณโรคชนิด Miliary องค์การอนามัยโลกจึงยังแนะนำให้ฉีดวัคซีนนี้ในประเทศที่เป็นแหล่งของวัณโรคซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น.

สมัยก่อนอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยวัณโรคสูง มากเพราะยังไม่มีการรักษาที่ดีพอ จนกระทั่งค.ศ. 1946 ก็พบว่า Streptomycin [ค้นพบโดย Selman Abraham Wacksman (1888-1973) ในปีค.ศ. 1944] มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคนี้ แต่ไม่นานก็มีรายงานการดื้อยา จึงต้องให้ยาเสริมเข้าไปอีกตัวคือ Para amino salicylic acid (PAS). ต่อมาค.ศ. 1952 ก็มีความหวังใหม่เมื่อ Robitzek และคณะพบว่า Isoniazid (สังเคราะห์โดย Meyer และ Mally ตั้งแต่ ค.ศ. 1912) มีประสิทธิภาพในการรักษาวัณโรคแม้ให้เพียงตัวเดียว แต่ไม่นานก็มีรายงานเชื้อดื้อยาอีก การรักษาจึงต้องใช้ยาทั้ง 3 ตัวร่วมกันและให้ยานานเป็นปี ถึงกระนั้นก็ตามอัตราการกลับเป็นซ้ำก็ยังคงสูงอยู่.

ค.ศ. 1965 มีการค้นพบยาใหม่ชื่อ ansamycin (ปัจจุบันคือ rifampicin) ไม่มีใครคิดจะทดลองใช้มันเพียงตัวเดียวเพราะเกรงว่าจะเกิดการดื้อยาอีก จึงทดลองให้ยานี้เสริมเข้าไปพบว่าทำให้ระยะเวลาในการรักษาสั้นลงเหลือเพียง 6 เดือน.

เนื่องจาก PAS มีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก จึงมีการพัฒนายาใหม่มาทดแทนคือ ethambutol ต่อ มาค.ศ. 1970 บริษัท Squib ก็ผลิต pyrazinamide เข้ามาเสริมทัพทำให้อัตราการหายสูงขึ้นกว่า 90%.

ขอเล่าด้านการตรวจวินิจฉัยบ้าง ปัจจุบันทำได้โดยการตรวจเอกซเรย์ปอดและนำเสมหะมาย้อมสีเพื่อใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องหาเชื้อ แต่หากเชื้อมีปริมาณน้อยก็อาจตรวจไม่พบ ส่วนการเพาะเลี้ยงหาชนิดของเชื้อนั้นก็ต้องรอ 2-4 เดือนกว่าจะได้ผล. ค.ศ. 1995 บริษัท Roche จึงพัฒนาวิธีตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อโดยใช้เทคนิค PCR คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดลร่วมกับ BIOTEC และ NSTDA ก็พัฒนาชุดตรวจ PCR ขึ้นมาเช่นกันซึ่งตรวจหาพันธุกรรมของเชื้อได้ภายใน 1-2 สัปดาห์.

มิถุนายน ค.ศ. 1998 Stewart T. Cole แห่งสถาบัน Pasteur ก็ถอดรหัสพันธุกรรมทั้งหมด (genome) ของเชื้อ M. tuberculosis ได้สำเร็จและตีพิมพ์ในวารสาร Nature เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะนำไปสู่การคิดค้นยาและวัคซีนตัวใหม่.

ต่อมา Marcus Horwitz ได้ปรับปรุงวัคซีน BCG เป็น rBCG30 ซึ่งปัจจุบันกำลังทดลอง phase IV ในแอฟริกาใต้. นอกจากนี้บริษัท Corixa และ Glaxo SmithKline ก็พัฒนาวัคซีนใหม่ชื่อ Mtb72f และพึ่งเริ่มทดลอง phase I ในอเมริกาเมื่อมกราคม ค.ศ. 2004 ล่าสุดเดือนมีนาคม ค.ศ. 2004 บริษัท Intercell AG และ Statens Serum Institut ก็คิดค้นวัคซีนใหม่และวางแผนจะทดลอง phase I ในปีค.ศ. 2005.

เชื้อวัณโรคมีความสามารถสูงมาก เชื่อว่าไม่ช้าก็คงจะดื้อยาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทั่วโลกกำลังเร่งพัฒนายาตัวใหม่ๆ อยู่รวมถึงมหาวิทยาลัยมหิดลด้วย แล้วเราจะช่วยอะไรได้บ้างไหม? ผู้เขียนคงต้องบอกว่าช่วยได้โดยบริโภคยาปฏิชีวนะให้เหมาะสม โดยเฉพาะผู้ป่วยวัณโรคต้องกินยาตามแพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง อย่าหยุดยาหรือหาซื้อยาเองเพราะจะทำให้เชื้อมีโอกาสดื้อยาสูง. 
 
ธีรวัฒน์ บูระวัฒน์ พ.บ.
โรงพยาบาลบ้านแหลม, จังหวัดเพชรบุรี
E-mail : [email protected]

ป้ายคำ:
  • โรคตามระบบ
  • โรคติดเชื้อ
  • เล่าสู่กันฟัง (ประวัติศาสตร์ทางการแพทย์)
  • วัณโรค
  • นพ.ธีรวัฒน์ บูระวัฒน์
  • อ่าน 4,975 ครั้ง
  • พิมพ์หน้านี้พิมพ์หน้านี้

ข้อมูลสื่อ

269-003
วารสารคลินิก 269
พฤษภาคม 2550
เล่าสู่กันฟัง (ประวัติศาสตร์ทางการแพทย์)
นพ.ธีรวัฒน์ บูระวัฒน์
Skip to Top

บทความสุขภาพน่ารู้

  • ทั้งหมด
  • การแพทย์ทางเลือก
    • แพทย์แผนไทย
      • กดจุด
      • นวดไทย
    • แพทย์แผนจีน
  • ดูแลสุขภาพ
    • การดูแลผู้สูงอายุ
    • การปฐมพยาบาล
    • การรักษาเบื้องต้น
    • การใช้ยาสมุนไพร
    • คู่มือดูแลสุขภาพ
    • ยาและวิธีใช้
    • ตรวจสุขภาพด้วยตัวเอง
      • คำนวณค่า BMI
      • วินิจฉัยโรคเบื้องต้น
      • แนะนำการตรวจสุขภาพประจำปี
    • คุยสุขภาพ
      • กรณีศึกษา
      • ถามตอบปัญหาสุขภาพ
  • สุขภาพทางเพศและครอบครัว
    • การดูแลบุตร
    • แม่และเด็ก
    • การตั้งครรภ์
    • เรียนรู้เรื่องเพศและการวางแผนครอบครัว
  • สร้างเสริมสุขภาพ 3 อ. ​และป้องกันโรค
    • อาหาร
      • อาหาร 5 หมู่
      • อาหารของผู้่ป่วยโรคเรื้อรัง
        • ความดันสูง
        • หัวใจ
        • เกาต์
        • เบาหวาน
      • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
      • อาหารป้องกันมะเร็ง
      • อาหารสมุนไพร
    • ออกกำลังกาย
      • วิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แอร์โรบิค แอร์โรบอคซิ่ง รำกระบอง ไทเก็ก ชี่กง โยคะ
    • อารมณ์
      • การทำสมาธิ
      • การพักผ่อน
      • การพัฒนา EQ
      • จิตอาสา/ ฉือจี้
  • พฤติกรรมอันตราย
    • พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ
    • อนามัยสิ่งแวดล้อม
    • อิริยาบถ
  • โรคและอาการ
    • โรคเรื้อรัง
      • กลุ่มอาการเมตาโบลิค
      • ความดันโลหิตสูง
      • ถุงลมปอดโป่งพอง
      • มะเร็ง
      • อัมพฤกษ์ อัมพาต
      • เบาหวาน
      • โรคข้อ/เกาต์
      • โรคทางจิตเวช เครียด หวาดระแวง
      • โรคหวัด ภูมิแพ้
      • โรคหัวใจ
      • โรคหืด
      • ไขมันในเลือดสูง/ผิดปกติ
      • ไตวาย
    • โรคตามระบบ
      • ระบบทางเดินอาหาร
      • โรคจากอุบัติเหตุ สารพิษ และสัตว์พิษ
      • โรคช่องปากและฟัน
      • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      • โรคติดเชื้อ
      • โรคผิวหนัง
      • โรคพยาธิ
      • โรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
      • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศชาย
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศหญิง
      • โรคระบบทางเดินปัสสาวะ
      • โรคระบบทางเดินหายใจ
      • โรคระบบประสาทและสมอง
      • โรคระบบไหลเวียนโลหิต
      • โรคหู ตา คอ จมูก
    • โรคจากการทำงาน
      • พิษภัยจากสารเคมี (ยาฆ่าเมลง/ สารตะกั่ว)
      • โรคจากฝุ่นและสารเคมีในโรงงาน
      • โรคจากสัตว์ เช่น ฉี่หนู
      • โรคจากอริยาบทที่ผิดสุขลักษณะ
      • โรคเส้นเอ็นอักเสบ/ นิ้วล็อค
  • ทันกระแสสุขภาพ
  • คลังความรู้สื่อสังคมออนไลน์
  • อื่น ๆ

ได้รับความนิยม

  • นม
  • ถั่วพู
  • คนท้อง
  • ธาลัสซีเมีย
  • ผู้สูงอายุ
  • ผักพื้นบ้าน
  • สมุนไพร

แผนผังเว็บไซต์

  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ

รวมลิงค์เครือข่าย

  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • สถาบันโยคะวิชาการ

สื่อสุขภาพ

  • คลิปสุขภาพ
  • หมอชาวบ้านรายเดือน
  • คลินิกรายเดือน
  • จดหมายข่าวย้อนหลัง
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • twitter หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสถาบัน ChangeFusion พัฒนาระบบโดย Opendream สัญญาอนุญาต cc by-nc-sa