โรคที่ระบาดจากสัตว์สู่คนนอกจากไข้หวัดนกแล้วยังมีอีกหลายโรคที่น่าสนใจ วันนี้ผมขอเล่าให้ฟังสัก 2 ตัวอย่างนะครับ.
ตัวอย่างแรกคือเมื่อค.ศ. 1994 เกิดโรคระบาดในม้าที่เมืองเฮนดรา (Hendra) ชนบทของบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย โดยม้าที่ป่วยจะมีอาการซึม, เดินเซและเสียชีวิต. นอกจากจะก่อโรคในม้าแล้วมันยังก่อโรคในคนอีกด้วย จากการศึกษาพบว่ามันเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดใหม่ซึ่งได้รับการตั้งชื่อว่าไวรัสเฮนดรา (Hendra virus) การระบาดในครั้งนั้นส่งผลให้ม้าเสียชีวิต 14 ตัวและมีคนเสียชีวิต 2 ราย.
ตัวอย่างที่ 2 ขอเล่ายาวหน่อยนะครับเพราะอยู่ใกล้ๆ บ้านเรานี่เอง เมื่อปลายปีค.ศ. 1997 เกิดโรคระบาดที่ฟาร์มเลี้ยงหมูในเมืองอุลู ปิอาห์ (Ulu Piah) รัฐเปรัก (Perak) ประเทศมาเลเซีย โดยหมูจะมีอาการทางระบบประสาทและระบบทางเดินหายใจ เกษตรกรได้ฆ่าหมูเหล่านั้นแต่ไม่ได้รายงานโรคต่อเจ้าหน้าที่. การระบาดของโรคในหมูเริ่มต้นที่เมืองอุลู ปิอาห์และเมืองคินตา (Kinta) ในรัฐเปรัก จาก นั้นก็แพร่ไปสู่เมืองสิคามัต (Sikamat) และเมืองบูกิต เปลันดอค (Bukit Pelanduk) ในรัฐเนเกริ เซมบิลัน (Negiri Sembilan).
ต่อมาวันที่ 29 กันยายน ค.ศ. 1998 พบผู้ป่วยไข้สมองอักเสบ (Encephalitis) ที่เมืองคินตาเป็นรายแรกและจากนั้นก็พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ที่หมู่บ้านสุไหง นิปาห์ (Sungai Nipah) เมืองบูกิต เปลันดอค เนื่องจากเป็นแหล่งเลี้ยงหมูขนาดใหญ่ (ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้) จากการที่ผู้เจ็บป่วยทยอยล้มตายลงไปเรื่อยๆ คนงานในฟาร์มจึงพากันอพยพออกจากพื้นที่จนแทบจะกลายเป็นเมืองร้าง.
รัฐบาลมาเลเซียมอบหมายเรื่องนี้ให้นายแพทย์ลาม ไซ กิต (Lam Sai Kit) นักไวรัสวิทยา อดีตหัวหน้าภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมาลายาเป็นผู้ควบคุมดูแล ตอนแรกผลการตรวจพบว่าผู้ป่วยติดเชื้อไข้สมองอักเสบชนิด JE (Japanese encephalitis) ซึ่งโรคนี้มีมานานแล้วและมีวัคซีนป้องกัน ทางการมาเลเซียจึงฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนและหมู รวมทั้งพ่นยากำจัดยุงซึ่งเป็นพาหะของโรค.
แต่มาตรการดังกล่าวไม่เป็นผลเพราะยังมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาพบว่าผู้ป่วยหลายรายผลการตรวจหาเชื้อทั้ง JE และเชื้อไวรัสอื่นๆ อีกหลายชนิดเป็นลบ แสดงว่าอาจจะเป็นเชื้อโรคชนิดใหม่. 5 มีนาคม ค.ศ. 1999 นายแพทย์ฉั่ว เก๊าะ บิง (Chua Kaw Bing) อาจารย์ประจำภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมาลายาสามารถแยกเชื้อไวรัสที่ก่อโรคได้เป็นคนแรก โดยแยกได้จากผู้ป่วยในหมู่บ้านสุไหงนิปาห์ เชื้อที่แยกได้นี้มีพันธุกรรมคล้ายคลึงกับไวรัสเฮนดรา (Hendra-like virus) แต่ไม่ตรงกับไวรัสสายพันธุ์ใดๆ เลย.
เนื่องจากห้องปฏิบัติการในมาเลเซียไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามันเป็นไวรัสชนิดใหม่หรือไม่ เขาตัดสินใจจะส่งเชื้อนี้ไปตรวจที่สหรัฐอเมริกา แต่ไม่มีสายการบินใดยอมขนส่งไปให้ เขาจึงนำมันไปเอง ในที่สุดศูนย์ควบคุมโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ก็ประกาศว่ามันเป็นไวรัสชนิดใหม่เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 1999 และไวรัสนี้ได้รับการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการในวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1999 ว่าไวรัสนิปาห์ (Nipah virus).
ก่อนหน้านั้นไม่กี่วันคือในวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 1999 มีรายงานผู้ป่วยรายแรกในประเทศสิงคโปร์ โดย เป็นคนงานในโรงฆ่าสัตว์ จากนั้นก็พบผู้ป่วยรายอื่นๆ ตามมา ทางการสิงคโปร์จึงสั่งปิดโรงงานดังกล่าวและห้ามนำเข้าหมูจากมาเลเซีย นอกจากนี้ประเทศต่างๆ ก็ห้ามนำเข้าหมูจากมาเลเซียเช่นกัน.
จากข้อมูลทางระบาดวิทยาทำให้เชื่อได้ว่าหมูเป็นแหล่งรังโรคที่สำคัญ ทางการมาเลเซียจึงตัดสินใจฆ่าหมูไปกว่า 1 ล้านตัว ทำให้การระบาดในคนลดลงจนพบผู้ป่วยรายสุดท้ายเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1999 ที่หมู่บ้านสุไหง บุโลห์ในรัฐเซลังงอร์. การตัดสินใจดังกล่าวเป็นจุดสำคัญที่ทำให้โรคนี้ไม่ระบาด ไปทั่วภูมิภาคโดยพบผู้ป่วยเพียง 2 ประเทศคือ มาเลเซีย 265 ราย (เสียชีวิต 105 ราย) และสิงคโปร์ 11 ราย (เสียชีวิต 1 ราย) นายแพทย์ลาม ไซ กิตจึงได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลสาขาสาธารณสุขประจำปี ค.ศ. 2001.
ด้วยเทคโนโลยีด้านการสื่อสารแห่งยุคโลกาภิวัตน์ ข่าวสารต่างๆ จึงกระจายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้การควบคุมโรคกระทำได้อย่างพร้อมเพรียงกันและมีประสิทธิภาพ นับเป็นข้อดีสูงสุดอย่างหนึ่งของโลกยุค โลกาภิวัตน์.
ธีรวัฒน์ บูระวัฒน์ พ.บ.
โรงพยาบาลบ้านแหลม, จังหวัดเพชรบุรี
E-mail : [email protected]<
เล่าสู่กันฟัง (ประวั ติศาสตร์ทางการแพทย์)
- อ่าน 3,800 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้