ขณะนี้บ้านเมืองกำลังยุ่งทางการเมืองประชาชนแทบไม่มีอันจะกินจะนอน แต่ไปร่วมแสดงความคิดเห็น หรือดูข่าวจากโทรทัศน์ อ่านหนังสือพิมพ์ตลอดเกี่ยวกับการเมือง การเมืองจะออกหัวหรือก้อยอย่างไรก็ยากที่จะเดา ผมก็ขอแต่เพียงให้ทุกอย่างยุติอย่างสงบ ไม่มีการนองเลือดไม่มีการใช้กำลัง.
ทำให้เห็นได้ชัดว่าปรัชญาของผมเกี่ยวกับคุณสมบัติของประชาชน คือ ดี เก่งในอาชีพ/วิชาชีพ มีความรู้รอบตัว และมีสุขภาพที่ดีนั้นเป็นเรื่องจริงและจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะถ้าทุกๆ คนตั้งแต่ประชาชน แพทย์ พยาบาล นักการเมืองเป็นคนดี ก็จะไม่มีปัญหาทางการเมืองเช่นนี้ ถ้าประชาชนดี แพทย์ พยาบาลสื่อ รัฐบาล (ผู้บังคับบัญชา) ดี การฟ้องร้องแพทย์ก็แทบจะไม่มี.
ผมพูดเสมอว่าท่านนายกทักษิณมีโอกาสมากที่สุดในประวัติศาสตร์ที่จะทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ (พูดตั้งแต่ 5 ปีที่แล้วและหลังเลือกตั้งครั้งที่ 2)เป็นอย่างมาก เพราะรวยมากและฉลาด (Ph D) มีอายุน้อย 50-51 ปีเท่านั้นตอนเริ่มเป็นนายกรัฐมนตรีโดยมาจากการเลือกตั้ง และยังมีพรรคการเมืองของตนเองมีเสียงมากที่สุด (ในการเลือกตั้งครั้งที่ 2). ถ้าท่านทำดีที่สุด เพื่อส่วนรวม เพื่อประเทศชาติจริงๆ ท่านมีโอกาสที่จะเป็นนายกได้ถึง 12 ปี (หรือมากกว่านั้นถ้าต้องการ) ซึ่งถึงเมื่อนั้นท่านน่าที่จะวางมือ เพราะจะมีอายุ 63 ปีแล้ว ถึงแม้อายุ 63 ปียังน้อยมากสำหรับนักการเมือง แต่ท่านควรพอแล้ว เพราะน่าที่จะวางระบบทางการเมือง พรรคของท่านได้เป็นอย่างดีแล้ว ถ้าผมเป็นท่านผมจะทำให้พรรคอื่นๆ ไม่มีโอกาสทางการเมืองเลย ด้วยการทำความดี ทำให้ประชาชนรักท่านอย่างแท้จริง รักพรรคของท่าน ฯลฯ.
ผมดูปัญหาของสาธารณสุขแล้วน่าที่จะแก้ได้ไม่ยาก ถ้าทุกๆ คนช่วยกัน มีประเทศชาติเป็นที่ตั้งสรุปก็คือเป็นคนดี และถ้าผู้ใหญ่สุดในแผ่นดินเห็นด้วย กล่าวคือ ให้เจ้าหน้าที่กระทรวงฯ เป็นข้าราชการ ไม่ใช่ลูกจ้าง ไม่ใช่พนักงานของรัฐ พนักงานของมหาวิทยาลัย ฯลฯ มีเงินเดือนที่อยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งงานพิเศษ. มีโรงเรียนดีๆ สำหรับลูกหลาน เจ้าหน้าที่ ทุกอำเภอหรือโรงเรียนอยู่ใกล้ทุกอำเภอ มีงบประมาณของ 30 บาท ประกันสังคมเพียงพอ มีงบประมาณสำหรับการพัฒนา. ผมไปเยี่ยมโรงพยาบาลมาเกือบทั่วประเทศ บางแห่งหลังคาหอผู้ป่วยจะพังอยู่แล้วยังไม่มีงบเลย โรงพยาบาลชุมชนมีแต่แพทย์ที่กำลังใช้ทุน! ถ้าผมมีอำนาจผมจะทำให้โรงพยาบาลชุมชนมีแต่แพทย์ที่ใช้ทุนครบแล้ว และอยู่อย่างถาวรด้วย การดูแลเรื่องเงินเดือน สวัสดิการ โรงเรียนลูก ความก้าวหน้าของแพทย์.
ปัญหาอยู่ที่ว่าเราต้องมีท่านรัฐมนตรี ท่านปลัดที่แข็ง ที่ดี ที่ดูแล กระตุ้น สนับสนุนผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ใช่ไม่ดูแล แต่พอมีข่าวก็ต่อว่าแพทย์ ที่ว่าต้องแข็งเพราะบางครั้งต้องไปต่อรองกับท่านนายกฯ ก.พ.งบประมาณด้วย ผมก็ขอฝากพวกเรากันเองทุกคนทุกระดับที่เป็นผู้บริหาร ที่เป็นแพทย์ ตั้งแต่ตัวเราเองจนถึงท่านอธิบดี ท่านปลัด ขอให้ดูแลลูกน้องของท่านด้วย อย่าให้เขา "ออกรบ" โดยไม่มีอาวุธ อาหาร ฯลฯ เพราะเท่ากับว่าท่านเป็นคนฆ่าเขา! เราเป็น " ผู้เชี่ยวชาญ" ทางการแพทย์ เราต้องพยายามให้ข้อมูล ชี้แจง "ขายของ" ให้เก่ง ให้นักการเมือง เช่น ท่านรัฐมนตรี ท่านนายกฯ ท่านผู้อำนวยการงบประมาณ เลขาธิการ ก.พ. เชื่อเรา ถ้าเราพูดด้วยเหตุผล ทำความดี ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ในที่สุดเราน่าที่จะได้รับในสิ่งที่เราควรจะได้.
ผมเห็นว่าน้องๆ แพทย์ ตั้งแต่โรงพยาบาลชุมชนโรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลศูนย์ ฯลฯ ยังต้องการอะไรต่ออะไรอีกมากมาย ยังถูกทอดทิ้งอีกมาก ผมก็ขอฝากตั้งแต่ท่านปลัด ท่านอธิบดี ท่านผู้ตรวจ ท่าน สสจ. ท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาล ท่านคณบดี ท่านผู้อำนวยการ ท่านเจ้ากรมแพทย์ ท่านนายแพทย์ใหญ่ตำรวจ ดูแลลูกน้องของท่านให้เต็มที่ครับ. คงไม่มีใครรักและรู้เรื่องของพวกเรานอกจากพวกเรากันเอง เราต้องกล้าพูดกับผู้บังคับบัญชาทุกระดับ และกล้าพูดกับนักการเมืองด้วยครับ ถ้าพวกเรามีแต่ความดี ผมว่าเราพูดได้ง่ายขึ้นครับ.
สุดท้ายนี้ก็ใกล้เข้าระยะเวลาเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. แล้วครับ ผมก็ไม่ทราบว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ ก็ขอฝากพวกเราไว้ว่าสำหรับการเลือกตั้ง ส.ว. โปรดกรุณาพิจารณาลงคะแนนเสียงให้พวกเราที่เป็นแพทย์ด้วยนะครับ แพทย์ที่ลงสมัคร ส.ว. ในกรุงเทพมหานครหลายๆ ท่านก็เป็นหรือเคยเป็นกรรมการแพทยสภาขอให้พี่ๆ น้องๆ แพทย์ และครอบครัวช่วยลงคะแนนให้ด้วยนะครับ ส่วนแพทย์ในต่างจังหวัดก็มีหลายท่านเช่นกันก็ขอฝากพวกเรานะครับ ถ้ามีแพทย์ได้เข้าไปเป็น ส.ว. มากๆ เราจะได้มีโอกาสแสดงความคิดและด้รับการพิจารณามากขึ้นครับ.
พินิจ กุลละวณิชย์ พ.บ.,ศาสตราภิชาน, เลขาธิการแพทยสภา
- อ่าน 2,129 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้