ก่อนหน้านี้ประเทศไทยกำลังถกเถียงกันมากเรื่องวัคซีนไข้หวัดนก ทราบไหมครับ คำว่าวัคซีนนั้นมีที่มาอย่างไรและเกี่ยวข้องกับ smallpox อย่างไรถ้าไม่ทราบผมจะเล่าให้ฟัง.
Smallpox หรือไข้ทรพิษ (ฝีดาษ) เป็นโรคติดต่อที่ร้ายแรงโรคหนึ่ง ผู้ติดเชื้อจะมีตุ่มพุพองตามร่างกายและมีอัตราการตายสูง ดังนั้นการป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ. มีบันทึกถึงเรื่องนี้ครั้งแรกในประเทศจีน เมื่อลูกชายของนายกรัฐมนตรี Wang Tan (957-1017) เสียชีวิตจากโรคนี้ เขาจึงประกาศหาคนที่ทราบวิธีป้องกันโรค มีนักบวชผู้หนึ่งจากมณฑลเสฉวน เขาหรือเธอนำเชื้อจากคนที่เป็นโรคใส่ในโพรงจมูกคนปกติพบว่าสามารถป้องกันโรคได้ วิธีนี้เรียกว่า inocu-lation ซึ่งพัฒนาต่อๆ มาจนเปลี่ยนไปทำที่ผิวหนังสิ่งนี้ไปสู่กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกีผ่านทางคาราวานสินค้าเมื่อ ค.ศ. 1670.
ศตวรรษต่อมาในปี ค.ศ. 1715 Lady Mary Wortley Montagu (1698-1762) ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในอังกฤษขณะนั้นป่วยเป็น smallpox เป็นผลให้เธอเสียโฉม เดือนมีนาคม ค.ศ. 1718 สามีของเธอย้ายไปประจำที่สถานทูตในกรุงอิสตันบูล เธอได้รู้จัก inoculation และมอบหมายให้ Charles Maitland (1688-1744) ศัลยแพทย์ชาวสก๊อต Inoculate ลูกชายวัย 5 ขวบของเธอ พอถึงเดือนเมษายน ค.ศ. 1721 เธอกลับมาที่กรุงลอนดอนและให้ Maitland ทำเช่นเดียวกันกับลูกสาววัย 4 ขวบท่ามกลางแพทย์ ทั้งหลาย พระราชินีแห่งเวลส์ทราบข่าวจึงพระราชทานอนุญาตให้ Maitland ทำการทดลองกับนักโทษจำนวน 6 คนในเดือนสิงหาคมปีนั้นเองซึ่งได้ผลดี.ในเดือนเมษายนปีต่อมาเขาก็ได้ Inoculate ให้กับพระธิดาทั้ง 2 ของพระองค์วิธีการนี้จึงเป็นที่ยอมรับแต่นั้นมาจนมีการก่อตั้งโรงพยาบาลเพื่อทำงานด้านนี้โดยเฉพาะ.
ต่อมา ค.ศ. 1768 Robert Sutton เสนอวิธีใหม่ในการ Inoculate โดยเขาใช้ lancet เจาะตุ่มในผู้ป่วยแล้วนำไปจิ้มต้นแขนคนปกติ.
ค.ศ. 1774 เกิดการระบาดของ smallpox ที่ชนบทใน Yetminster เกษตรกรชาวอังกฤษ Benjamin Jesty (1737-1816) ซึ่งเคยเป็นโรคนี้ตอนเด็ก เขาสังเกตว่ามีคนงานรีดนม 2 คนสัมผัสโรคแต่ไม่ป่วย สอบถามจึงทราบว่าทั้ง 2 เคยเป็นฝีดาษวัว (cowpox) มาก่อน โชคดีที่มี cowpox ระบาดที่ฟาร์มใกล้เคียง Jesty จึงใช้เข็มขีดที่แขนของภรรยาและลูกชายอีก 2 คนแล้วใส่หนองจากวัวที่ติดเชื้อลงไปทั้ง 3 ผ่านการระบาดไปได้โดยไม่ติดเชื้อ.
Edward Jenner (1749-1823) แพทย์ชนบทในเมือง Berkeley ได้นำวิธีการของ Sutton ไปทดลองแต่เขาพบว่าผู้ทดลองบางคนมีภูมิคุ้มกันแล้ว สอบถามจึงทราบว่าทุกคนเคยเป็น cowpox มาก่อน เหตุการณ์สำคัญเริ่มต้นเมื่อเขาพบ Sarah Nelmes ซึ่งเป็น cowpox และมีแผลที่นิ้วมือ Jenner รู้จักกับ James Phipps เด็กชายวัย 8 ขวบซึ่งยังไม่เคยเป็นทั้ง cowpox และ smallpox เขาจึงไปขอนุญาตจากผู้ปกครองและได้รับความยินยอมเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1796 เขาทดลองโดยข่วนที่แขนของเด็กแล้วนำหนองจาก Sarah หยดลงที่รอยข่วน อีก 2 เดือนต่อมาในวันที่ 1 กรกฎาคม เขาก็ Inoculate เด็กด้วยหนองจากผู้ป่วย smallpox ปรากฏว่าเด็กไม่มีอาการของโรคเลย เขาประสบความสำเร็จในการทดลองกับ อีก 13 คน. Sir Walter Farguhar แนะนำให้เขาเก็บเป็นความลับเพราะมันจะทำเงินให้มหาศาล แต่ เขาก็ส่งรายงานไปที่ราชสมาคมแห่งกรุงลอนดอน เพื่อตีพิมพ์ในวารสาร Philosophical Transactions แต่ถูกปฏิเสธ (ตอนนั้นยังไม่มีใครรู้จัก Jesty กระทั่ง ค.ศ. 1797 เขาย้ายครอบครัวมาอยู่ที่ Purbeck ผู้คนจึงทราบว่ามีการพบสิ่งนี้ก่อน Jenner ถึง 20 ปี) เขาทำการทดลองเพิ่มเติมและใช้ทุนส่วนตัวพิมพ์หนังสือเองเมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1798 มีแต่คนยกย่องว่าเขาเป็นคนค้นพบเรื่องนี้แต่ Jenner ก็ไม่เคยยอมรับมันตลอดเวลาเขาทุ่มเทให้กับการป้องกันโรคนี้จนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1823.
ต่อมาในปี ค.ศ. 1881 Louis Pasteur (1822-1895) นักเคมีชาวฝรั่งเศสค้นพบหลักการคล้ายกัน (ซึ่งเขานำไปใช้ผลิตวัคซีนพิษสุนัขบ้าในปี ค.ศ. 1885) เขาตั้งชื่อกระบวนการนี้ว่า vaccination ซึ่งมาจากภาษาละติน vacca (วัว) และ vaccinia (cowpox) เพื่อเป็นเกียรติแก่การค้นพบของ Jenner.
องค์การอนามัยโลกทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยจนประสบความสำเร็จในการกวาดล้าง smallpox ได้ในปี ค.ศ. 1980 แม้โรคนี้จะหายไปจากโลกนี้แล้ว แต่ยังมีเชื้อโรคนี้เก็บไว้ที่สถาบันใหญ่ๆ ในบางประเทศเพื่อใช้ในการวิจัยทางไวรัสวิทยา. เมื่อลองคิดในแง่ร้ายว่าถ้าผู้ก่อการร้ายสามารถขโมยออกไปทำอาวุธชีวภาพได้ คงเกิดการระบาดครั้งใหญ่แน่นอนเพราะทุกวันนี้คนส่วนมากไม่มีภูมิคุ้มกันต่อโรคนี้เลย.
ธีรวัฒน์ บูระวัฒน์ พ.บ. โรงพยาบาลบ้านแหลม, จังหวัดเพชรบุรี
E-mail : [email protected]
- อ่าน 1 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้