Skip to main content
ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
menu

Login Pop

  • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
search
  • เว็บหลักหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ
หน้าแรก » บทความสุขภาพน่ารู้ » การค้นพบวัคซีนฝีดาษ
  • ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

การค้นพบวัคซีนฝีดาษ

โพสโดย somsak เมื่อ 1 สิงหาคม 2549 00:00

ฝีดาษหรือไข้ทรพิษ (small pox) เป็นโรคติดต่อที่ร้ายแรงมากโรคหนึ่ง Abu Bakr  Mohammad Ibanal Zakariya al-Razi (865-925) แพทย์ชาวอิหร่านเป็นคนแรกที่บรรยายโรคนี้ในตำราภาษาอาหรับชื่อ kitab fi al-judari wa al-Hasbah. ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีตุ่มพุพองตามร่างกายและมีอัตราการตายสูง เชื้อโรคนี้จึงมีชื่อว่า Variola มาจากภาษาละติน " varus " ที่แปลว่า " ตุ่มตามตัว ". จากหลักฐานการตรวจมัมมี่พบว่าโรคนี้น่าจะมีมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณแล้ว ความน่ากลัวของมันทำให้มนุษย์ต้องคิดค้นหาทางป้องกัน.

มีบันทึกถึงการป้องกันโรคนี้ครั้งแรกในประเทศจีน เมื่อลูกชายของนายกรัฐมนตรี Wang Tan (957-1017) เสียชีวิตจากโรคนี้ เขาจึงประกาศหาคนที่ทราบวิธีป้องกันโรค. มีนักบวชผู้หนึ่งจากมณฑลเสฉวน เขาหรือเธอ (ข้อมูลไม่ได้ระบุเพศไว้) นำเชื้อจากคนที่เป็นโรคใส่ในโพรงจมูกคนปกติพบว่าสามารถ ป้องกันโรคได้ วิธีนี้เรียกว่า inoculation ซึ่งพัฒนาต่อๆ มาจนเปลี่ยนไปทำที่ผิวหนังแทน วิธีการนี้ไปสู่กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกีผ่านทางคาราวานสินค้า เมื่อ ค.ศ. 1670.

 

ฝีดาษ เริ่มปรากฏในประเทศอังกฤษราวค.ศ. 1240 จากนั้นก็ระบาดไปทั่วยุโรป. ค.ศ. 1715 Lady Mary Wortley Montagu (1698-1762) ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในอังกฤษขณะนั้นป่วยเป็นฝีดาษเป็นผลให้เธอเสียโฉม.

เดือนมีนาคม ค.ศ. 1718 สามีของเธอย้าย ไปประจำที่สถานทูตในกรุงอิสตันบูล เธอจึงได้รู้จัก inoculation และมอบหมายให้ Charles Maitland (1688-1744) ศัลยแพทย์ชาวสก๊อต inoculate  ลูกชายวัย 5 ขวบของเธอ. พอถึงเดือนเมษายนค.ศ. 1721 เธอกลับมาที่กรุงลอนดอนและให้ Maitland ทำเช่นเดียวกันกับลูกสาววัย 4 ขวบท่ามกลางแพทย์ทั้งหลาย.

พระราชินีแห่งเวลส์ทราบข่าวจึงพระราชทานอนุญาตให้ Maitland ทำการทดลองกับนักโทษจำนวน 6 คนในเดือนสิงหาคมปีนั้นเอง ซึ่งได้ผลดีในเดือนเมษายนปีต่อมาเขาก็ได้ inoculate ให้กับพระธิดาทั้งสองของพระองค์ วิธีการนี้จึงเป็นที่ยอมรับตั้งแต่นั้นมาจนมีการก่อตั้งโรงพยาบาลเพื่อทำงานด้านนี้โดยเฉพาะ.

ต่อมา ค.ศ. 1768 Robert Sutton เสนอวิธีใหม่ในการ inoculate โดยเขาใช้เข็มเจาะเลือดปลายนิ้ว (lancet) เจาะตุ่มในผู้ป่วยแล้วนำไปจิ้มต้นแขนคนปกติ.

ค.ศ. 1774 เกิดการระบาดของฝีดาษที่ชนบทใน Yetminster เกษตรกรชาวอังกฤษ Benjamin Jesty (1737-1816) ซึ่งเคยเป็นโรคนี้ตอนเด็ก. เขาสังเกตว่ามีคนงานรีดนม 2 คนสัมผัสโรคแต่ไม่ป่วย สอบถามจึงทราบว่าทั้ง 2 เคยเป็นฝีดาษวัว (cow pox) มาก่อน โชคดีที่มีฝีดาษวัวระบาดที่ฟาร์มใกล้เคียง  Jesty จึงใช้เข็มขีดที่แขนของภรรยาและลูกชายอีก 2 คนแล้วใส่หนองจากวัวที่ติดเชื้อลงไป ทั้งสามผ่านการระบาดไปได้โดยไม่ติดเชื้อ.

Edward Jenner (1749-1823) แพทย์ชาวอังกฤษที่ชนบทในเมือง Berkeley ขณะนั่งดูชาวบ้านทำงานในฟาร์ม เขาได้ยินหญิงรีดนมโค 2 คนพูดหยอกล้อกันว่า " พวกเราไม่เป็นฝีดาษหรอกเพราะเราเคยเป็นฝีดาษวัวแล้วไง ". พูดเสร็จก็หัวเราะกันใหญ่เพราะคนส่วนมากจะขำไปกับมุขนี้. Jenner ก็เช่นกันแต่ เมื่อเขาหัวเราะจบ เรื่องไม่ได้จบอยู่แค่นั้น เขาคิดได้ว่าคนรีดนมวัวที่เคยเป็นฝีดาษวัวแล้ว อาจจะมีภูมิคุ้มกันต่อโรคฝีดาษ?

เหตุการณ์สำคัญเริ่มต้นเมื่อเขาพบ Sarah Nelmes ซึ่งเป็นฝีดาษวัว และมีแผลที่นิ้วมือ Jenner  รู้จักกับ James Phipps เด็กชายวัย 8 ขวบซึ่งยังไม่เคยเป็นทั้งฝีดาษวัวและฝีดาษ เขาจึงไปขออนุญาตจากผู้ปกครองและได้รับความยินยอมเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1796 เขาทดลองโดยข่วนที่แขนของเด็กแล้วนำหนองจาก Nelmes หยดลงที่รอยข่วน. อีก 2 เดือนต่อมาในวันที่ 1 กรกฎาคม เขาก็ inoculate เด็กด้วยหนองจากผู้ป่วยฝีดาษ ปรากฏว่าเด็กไม่มีอาการของโรคเลย.

เขาประสบความสำเร็จในการทดลองกับอาสาสมัครอีก 23 คน Sir Walter Farguhar แนะนำให้เขาเก็บเป็นความลับเพราะมันจะทำเงินมหาศาล แต่ เขาก็ส่งรายงานไปที่ราชสมาคมแห่งลอนดอนเพื่อตีพิมพ์ในวารสาร Philosophical Transactions แต่ถูกปฏิเสธ. เขาจึงทำการทดลองเพิ่มเติมและใช้ทุนส่วนตัวพิมพ์หนังสือเองชื่อ An Inquiry Into the   causes and effects of Variolae Vaccinae ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1798.

ตอนนั้นยังไม่มีใครรู้จัก Jesty กระทั่ง ค.ศ. 1797 เขาย้ายครอบครัวมาอยู่ที่ Purbeck ผู้คนจึงทราบว่ามีการพบสิ่งนี้ก่อน Jenner ถึง 20 ปี มีแต่คนยกย่อง ว่า Jenner เป็นคนค้นพบเรื่องนี้ แต่ตัวเขาเองไม่เคยยอมรับมัน ตลอดเวลาเขาทุ่มเทให้กับการป้องกันโรคนี้ จนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1823 โดยที่ยังไม่รู้เลยว่าสาเหตุของโรคนี้เกิดจากอะไร.

ในเรื่องนี้ Jenner แสดงให้เห็นว่ แม้จะไม่ได้ทำงานอยู่ในสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงแต่ถ้าเรามีความพยายามใฝ่หาความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ และสนใจในสิ่งรอบข้างแม้มันจะดูไร้สาระก็ตามคุณก็สามารถค้นพบสิ่งสำคัญๆ ได้.

 

ธีรวัฒน์ บูระวัฒน์ พ.บ. ,โรงพยาบาลบ้านแหลม, จังหวัดเพชรบุรี
E-mail : [email protected]<

ป้ายคำ:
  • คุยสุขภาพ
  • เล่าสู่กันฟัง (ประวัติศาสตร์ทางการแพทย์)
  • ไข้ทรพิษ
  • นพ.ธีรวัฒน์ บูระวัฒน์
  • อ่าน 4,091 ครั้ง
  • พิมพ์หน้านี้พิมพ์หน้านี้

ข้อมูลสื่อ

260-004
วารสารคลินิก 260
สิงหาคม 2549
เล่าสู่กันฟัง (ประวัติศาสตร์ทางการแพทย์)
นพ.ธีรวัฒน์ บูระวัฒน์
Skip to Top

บทความสุขภาพน่ารู้

  • ทั้งหมด
  • การแพทย์ทางเลือก
    • แพทย์แผนไทย
      • กดจุด
      • นวดไทย
    • แพทย์แผนจีน
  • ดูแลสุขภาพ
    • การดูแลผู้สูงอายุ
    • การปฐมพยาบาล
    • การรักษาเบื้องต้น
    • การใช้ยาสมุนไพร
    • คู่มือดูแลสุขภาพ
    • ยาและวิธีใช้
    • ตรวจสุขภาพด้วยตัวเอง
      • คำนวณค่า BMI
      • วินิจฉัยโรคเบื้องต้น
      • แนะนำการตรวจสุขภาพประจำปี
    • คุยสุขภาพ
      • กรณีศึกษา
      • ถามตอบปัญหาสุขภาพ
  • สุขภาพทางเพศและครอบครัว
    • การดูแลบุตร
    • แม่และเด็ก
    • การตั้งครรภ์
    • เรียนรู้เรื่องเพศและการวางแผนครอบครัว
  • สร้างเสริมสุขภาพ 3 อ. ​และป้องกันโรค
    • อาหาร
      • อาหาร 5 หมู่
      • อาหารของผู้่ป่วยโรคเรื้อรัง
        • ความดันสูง
        • หัวใจ
        • เกาต์
        • เบาหวาน
      • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
      • อาหารป้องกันมะเร็ง
      • อาหารสมุนไพร
    • ออกกำลังกาย
      • วิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แอร์โรบิค แอร์โรบอคซิ่ง รำกระบอง ไทเก็ก ชี่กง โยคะ
    • อารมณ์
      • การทำสมาธิ
      • การพักผ่อน
      • การพัฒนา EQ
      • จิตอาสา/ ฉือจี้
  • พฤติกรรมอันตราย
    • พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ
    • อนามัยสิ่งแวดล้อม
    • อิริยาบถ
  • โรคและอาการ
    • โรคเรื้อรัง
      • กลุ่มอาการเมตาโบลิค
      • ความดันโลหิตสูง
      • ถุงลมปอดโป่งพอง
      • มะเร็ง
      • อัมพฤกษ์ อัมพาต
      • เบาหวาน
      • โรคข้อ/เกาต์
      • โรคทางจิตเวช เครียด หวาดระแวง
      • โรคหวัด ภูมิแพ้
      • โรคหัวใจ
      • โรคหืด
      • ไขมันในเลือดสูง/ผิดปกติ
      • ไตวาย
    • โรคตามระบบ
      • ระบบทางเดินอาหาร
      • โรคจากอุบัติเหตุ สารพิษ และสัตว์พิษ
      • โรคช่องปากและฟัน
      • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      • โรคติดเชื้อ
      • โรคผิวหนัง
      • โรคพยาธิ
      • โรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
      • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศชาย
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศหญิง
      • โรคระบบทางเดินปัสสาวะ
      • โรคระบบทางเดินหายใจ
      • โรคระบบประสาทและสมอง
      • โรคระบบไหลเวียนโลหิต
      • โรคหู ตา คอ จมูก
    • โรคจากการทำงาน
      • พิษภัยจากสารเคมี (ยาฆ่าเมลง/ สารตะกั่ว)
      • โรคจากฝุ่นและสารเคมีในโรงงาน
      • โรคจากสัตว์ เช่น ฉี่หนู
      • โรคจากอริยาบทที่ผิดสุขลักษณะ
      • โรคเส้นเอ็นอักเสบ/ นิ้วล็อค
  • ทันกระแสสุขภาพ
  • คลังความรู้สื่อสังคมออนไลน์
  • อื่น ๆ

ได้รับความนิยม

  • นม
  • ถั่วพู
  • คนท้อง
  • ธาลัสซีเมีย
  • ผู้สูงอายุ
  • ผักพื้นบ้าน
  • สมุนไพร

แผนผังเว็บไซต์

  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ

รวมลิงค์เครือข่าย

  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • สถาบันโยคะวิชาการ

สื่อสุขภาพ

  • คลิปสุขภาพ
  • หมอชาวบ้านรายเดือน
  • คลินิกรายเดือน
  • จดหมายข่าวย้อนหลัง
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • twitter หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)< และสถาบัน ChangeFusion< พัฒนาระบบโดย Opendream< สัญญาอนุญาต cc by-nc-sa <