Skip to main content
ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
menu

Login Pop

  • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
search
  • เว็บหลักหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ
หน้าแรก » บทความสุขภาพน่ารู้ » ภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง (spontaneous subdural hematoma)
  • ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง (spontaneous subdural hematoma)

โพสโดย somsak เมื่อ 1 มกราคม 2552 00:00

ตัวอย่างผู้ป่วย
ผู้ป่วยหญิงอายุ 63 ปี มีโรคประจำตัวคือ ความดันเลือดสูง, ไขมันในเลือดสูง และหลอดเลือดหัวใจตีบ มาพบแพทย์ที่ห้องฉุกเฉินด้วยอาการพูดไม่ได้ 12 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล. อาการเกิดขึ้นกะทันหันขณะรับประทานอาหาร โดยที่ระหว่างมีอาการผู้ป่วยสามารถเข้าใจเรื่องที่ผู้อื่นคุยได้ทั้งหมดแต่ไม่สามารถพูดโต้ตอบได้ ผู้ป่วยมีอาการเช่นนี้อยู่นาน 15 นาที หลังจากนั้นก็กลับมาพูดได้เป็นปกติ. ผู้ป่วยเคยมีอาการพูดไม่ได้แบบนี้เมื่อ 1 เดือนก่อนและ 2 สัปดาห์ก่อนมาโรงพยาบาลรวมทั้งหมด 2 ครั้ง ซึ่งอาการก็หายเป็นปกติได้เอง. ผู้ป่วยไม่เคยมีประวัติการบาดเจ็บทางสมองมาก่อน แรกรับจากการตรวจร่างกาย ทั้งระบบประสาทและระบบอวัยวะอื่นๆ พบว่า อยู่ในเกณฑ์ปกติ. แพทย์ที่ห้องฉุกเฉินคิดถึงว่า อาการพูดไม่ได้ชั่วคราวนี้อาจเกิดจากกลุ่มอาการสมองขาดเลือด ชั่วคราวที่เรียกว่า transient ischemic attack (TIA) ดังนั้น แพทย์เวรจึงพิจารณาส่งผู้ป่วยไปตรวจคอมพิวเตอร์สมอง. ผลจากการตรวจคอมพิวเตอร์สมองพบว่า มีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชนิดเฉียบพลัน (acute subdural hematoma) ซึ่งมีความกว้างของชั้นเลือดวัดจากขอบในของกะโหลกศีรษะถึงกลีบเนื้อสมอง ขนาด 1.7 ซม.ที่บริเวณเนื้อสมองกลีบ parieto-frontal ด้านซ้าย ดังภาพที่ 1 แพทย์เวรจึงได้ส่งปรึกษาศัลยแพทย์ระบบประสาทเพื่อพิจารณา รักษาด้วยการผ่าตัดต่อไป.

                        

อภิปราย
ผู้ป่วยรายนี้มาด้วยอาการพูดโต้ตอบไม่ได้ แต่ฟังผู้อื่นพูดแล้วเข้าใจและสามารถทำตามคำสั่งได้อย่างถูกต้อง อันเป็นลักษณะความผิดปกติของการทำงานของระบบประสาทที่เรียกว่า motor aphasia. อาการพูดไม่ได้นี้เป็นอยู่ไม่กี่นาทีก็สามารถหายเป็นปกติได้ ดังนั้น เมื่อแพทย์ตรวจร่างกายแรกรับจึงไม่พบความผิดปกติของระบบประสาทแต่อย่างใด. อาการผิดปกติของระบบประสาทที่เป็นอยู่ไม่นานแล้วหายเป็นปกติได้เองภายใน 24 ชั่วโมงเช่นนี้มักเข้าได้กับภาวะสมอง ขาดเลือดชั่วคราว (TIA) อีกทั้งผู้ป่วยมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดตีบตันในสมองหลายประการ เช่น เป็นผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัวคือ โรคความดันเลือด สูง โรคไขมันในเลือดสูง และโรคหัวใจขาดเลือดเหล่านี้เป็นต้น. นอกจากนี้ ผู้ป่วยรายนี้มีอาการผิดปกติของระบบประสาทแบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นถึง 2 ครั้งภายใน 1 เดือนและหายเป็นปกติได้เองทุกครั้ง.


ดังนั้น จากลักษณะป’จจัยเสี่ยงร่วมกับอาการแสดงเหล่านี้จึงยิ่งสนับสนุนให้แพทย์คิดถึงว่ามีโอกาสเป็นโรคสมองขาดเลือดชั่วคราวมากขึ้น. แพทย์เวร ได้พิจารณาทำการสืบค้นเพื่อวินิจฉัยโรคด้วยการส่งตรวจคอมพิวเตอร์สมอง ต่อมาผลคอมพิวเตอร์สมองพบว่า มีภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชนิดเฉียบพลัน (acute subdural hematoma) อันสามารถอธิบายสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยมีการทำงานของระบบประสาทผิดปกติเช่นนี้ได้. ภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองเช่นนี้มักเกิดจากการที่ผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ แต่จาก การซักประวัติในผู้ป่วยรายนี้ไม่พบว่าได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะแต่อย่างใดมาก่อน. อย่างไรก็ตาม การพบเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองจากคอมพิวเตอร์สมองถือเป็น การวินิจฉัยโรคที่ชัดเจนของภาวะนี้ ดังนั้น  แพทย์เวรจึงส่งผู้ป่วยปรึกษาศัลยแพทย์ระบบประสาทต่อไป ซึ่งทางศัลยแพทย์ระบบประสาทได้รับปรึกษาปัญหาใน ผู้ป่วยรายนี้แล้วให้ความเห็นว่า สามารถนัดมาพิจารณา ผ่าตัดเอาเลือดออกจากเยื่อหุ้มสมองได้ในภายหลัง ศัลยแพทย์ระบบประสาทจึงอนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้านและนัดมาดูอาการอีกครั้งในอีก 1 สัปดาห์.
 


ภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง (spontaneous subdural hematoma )
Subdural hematoma คือ ก้อนเลือดที่สะสมอยู่ระหว่างเยื่อหุ้มสมองชั้น dura กับเนื้อสมอง ซึ่งพบบ่อยที่สุดในผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ. การรักษาภาวะนี้ทำโดยผ่าตัดเอาก้อนเลือดที่กดทับเนื้อสมองออก อย่างไรก็ตาม มีรายงานพบอัตราตายจากการผ่าตัดได้ถึงร้อยละ 40-60. ผู้ป่วยที่มีอาการทางสมองรุนแรงจากภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง เช่น Glasgow Coma Score ประมาณ 3 มักมีโอกาส  เสียชีวิตได้มากถึงร้อยละ 90 การมีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองในผู้ป่วยที่มีอายุ > 50 ปีก็พบมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าในผู้ป่วยที่มีอายุ 10-30 ปี.

 

พยาธิสรีรวิทยา
ภาวะนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยมากมักเกิดจากการได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะจนเกิดการฉีกขาดของหลอดเลือดดำ (bridging vein) ซึ่งรับเลือดจากผิวของเนื้อสมองแล้วทอดไปยังแอ่งเลือดดำ dural sinuses ที่อยู่ใต้เยื่อหุ้มสมอง dura เมื่อ bridging vein ฉีกขาดก็จะทำให้มีเลือดออกสะสมอยู่ใต้เยื่อหุ้มสมองชั้น dura อันทำให้พบก้อนเลือดใต้เยื่อหุ้มสมองได้บ่อยในบริเวณสมองส่วน frontotemporal region. อย่างไร ก็ตาม มีโอกาสที่จะเกิดก้อนเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองจากการฉีกขาดของหลอดเลือดแดงได้ร้อยละ 20-30 โดยบริเวณที่เลือดแดงไหลออกมาสะสมเป็นก้อนเลือด มักเป็นบริเวณใต้เยื่อหุ้มสมองแถวกลีบสมองส่วน  temporoparietal.

 

ระบาดวิทยาและสาเหตุ
สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือ การได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ซึ่งมักสัมพันธ์กับอุบัติเหตุทางรถยนต์ การตกจากที่สูง และการถูกทำร้ายร่างกาย. ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของภาวะนี้ ได้แก่ สมองฝ่อ, ติดสุราและมีประวัติได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง, ผู้สูงอายุ, เพศชาย, ประวัติมีการใช้ยาละลายลิ่มเลือดจนทำให้ระดับ PTT ratio > 2 หรือ INR > 4, โรคเลือดออกผิดปกติชนิด hemophilia เป็นต้น.

อุบัติการณ์ของภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองพบได้เพียงร้อยละ 2.6 ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดภาวะนี้ได้บ้างแต่ไม่บ่อย เช่น หลอดเลือดโป่งพองในสมอง (aneurysm), arteriovenous malformation (AVM), เนื้องอกของสมองชนิด meningioma, มะเร็งแพร่กระจายมาที่เยื่อหุ้มสมอง dura (dura metasta-ses), การทำร้ายร่างกายในเด็ก (child abuse), การให้ยาละลายลิ่มเลือดในโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด, การเสพติดยาโคเคน เป็นต้น.

 

ชนิดของภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง
แบ่งได้ 3 ชนิดโดยแบ่งตามเวลาของการเกิด อาการและอาการแสดง ได้แก่
1. ระยะเฉียบพลัน (acute SDH) ผู้ป่วยมักมีอาการหลังเกิดอุบัติเหตุ 24 ชั่วโมง โดยมากผู้ป่วยจะมาพบแพทย์ด้วยอาการหมดสติ หรือมีการเปลี่ยน แปลง ของระดับความรู้สึกตัวอย่างชั่วคราว ที่เรียกว่า lucid interval ซึ่งพบได้ถึงร้อยละ 50-70 ส่วนอาการอื่นๆ ที่อาจพบได้อีกก็อาจเป็นอาการปากเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง รูม่านตาผิดปกติหรืออาการของเนื้อ สมองบวมเหล่านี้เป็นต้น.

2. ระยะรองเฉียบพลัน (subacute SDH) อาการเกิดขึ้นในช่วง 24 ชั่วโมงแรกจนถึง 2 สัปดาห์ ผู้ป่วยมักมาด้วยอาการปวดศรีษะ มีระดับความรู้สึกตัวลดลง หรืออาการแขนขาอ่อนแรง.

3. ระยะเรื้อรัง (chronic SDH) มักมีอาการภายใน 2 สัปดาห์หรือนานกว่านั้น พบว่าร้อยละ 45 ของผู้ป่วยมักมาด้วยอาการแขนขาอ่อนแรง และพบได้ถึงร้อยละ 50 ของผู้ป่วยอาจมาด้วยมีการเปลี่ยน แปลงของระดับความรู้สึกตัวหรือสับสน ผู้ป่วยบางรายอาจมาด้วยอาการหลงลืม หรือจำไม่ได้ว่าเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นก็ได้.

 

การวินิจฉัยโรค
ส่วนใหญ่แพทย์สามารถวินิจฉัยภาวะนี้ได้จากการส่งตรวจคอมพิวเตอร์สมอง ซึ่งภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองแต่ละชนิดจะแสดงลักษณะภาพที่ต่างกันในคอมพิวเตอร์สมอง กล่าวคือ ในระยะเฉียบพลัน จะเห็นเงาเลือดออกเป็นสีขาวรูปพระจันทร์เสี้ยวไปตามขอบสมอง ส่วนในระยะรองเฉียบพลันและเรื้อรัง จะเห็นเงาเลือดมีสีใกล้เคียงกับเนื้อสมองหรือสีดำกว่าเนื้อสมอง ทั้งนี้เกิดจากการที่ฮีโมโกลบินของเม็ดเลือดแดงมีการสลายตัว. อย่างไรก็ตาม รูปร่างของก้อนเลือดก็ยังคงเว้าเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวรอบๆ ผิวสมองอยู่ดี ส่วนมากคอมพิวเตอร์สมองจะตรวจพบว่ามีภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองต่อเมื่อมีชั้นของเลือดออกหนามากกว่า 5 มม. แต่ถ้าชั้นของเลือดออกหนาน้อยกว่า 3 มม. ก็ควรส่งตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็ก ไฟฟ้าแทน (MRI) จึงจะสามารถให้การวินิจฉัยภาวะนี้ได้. นอกจากนี้ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมองยังสามารถตรวจพบเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองในกรณีที่มีเลือดออก อยู่ระหว่างสมอง 2 ซีก หรือบริเวณสมองส่วน tentorial ได้ดีกว่าคอมพิวเตอร์สมองอีกด้วย. สำหรับกรณี ที่แพทย์สงสัยว่าอาจมีสาเหตุอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองได้ เช่น หลอดเลือดโป่งพองในสมองหรือ arteriovenous malformation (AVM) แพทย์ก็ควรส่งตรวจด้วยการฉีดสีดูหลอดเลือดในสมอง (angiography) เพื่อหาสาเหตุให้แน่ชัดต่อไป.
 


การรักษา
แพทย์ควรทำการซักประวัติและตรวจร่างกายของผู้ป่วยอย่างละเอียด รวมทั้งควรประเมินการรู้สึกตัวด้วย Glasgow Coma Score (GCS) เมื่อสงสัยว่ามีภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองก็ควรส่งตรวจ ด้วย คอมพิวเตอร์สมองทุกรายเพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรค. สำหรับการรักษาแบ่งเป็น 2 วิธีคือ การผ่าตัดและการรักษาแบบประคับประคอง. การผ่าตัดมีข้อบ่งชี้ว่าควรพิจารณาทำในรายที่มีชั้นเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองหนามากกว่า 10 มม. และก้อนเลือดนั้นมีการกดเบียด ร่องกลางของสมองให้เคลื่อนไปจากตรงกลาง (midline shift) มากกว่า 5 มม. นอกจากนี้ ถ้าผู้ป่วยมีระดับการรู้สึกตัวแย่ในระดับ GCS น้อยกว่าหรือเท่ากับ 2 หรือรูม่านตาขยายโตมากก็ควรรีบตัดสินใจผ่าตัดในทันที.

 
สรุป 
 ภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง เป็นภาวะที่พบ บ่อยจากการบาดเจ็บที่ศีรษะ ซึ่งมีอาการและอาการแสดงหลากหลาย ตั้งแต่หลงลืม ปวดศีรษะ มีความผิดปกติทางระบบประสาทส่วนต่างๆ ไปจนรุนแรงถึงขั้นหมดสติได้. การรักษามีทั้งให้การผ่าตัดหรือรักษาแบบประคับประคองก็ได้ ในรายที่ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด พบว่ามีอัตราตายได้ถึงร้อยละ 40-60. อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยที่รวดเร็ว และให้การรักษาที่รีบด่วนจะทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสหายกลับสู่ภาวะปกติมากขึ้น.

 

เอกสารอ้างอิง
 1. McBride W, Brock DG. Subdural hematoma : Etiology, Clinical features, and diagnosis. Up to date Last literature reviews for version 16.1, 1-12.Available from : URL:http://www.uptodate.com/online/content/topic.do<? topicKey= cva_dise/20857&selectedTitle= 2~81&source=search_result.

 2. Heegaard WG, Biros MH. Head. In: Marx JA, Hockberger RS, Walls RM, Adams J, et al. Rosen’s Emergency Medicine : Concepts and clinical practice, 6th edition, Volumn I : Mosby Elsevier Press; 2006. p. 375-7. 

 3. Kirsch TD, Lipinski CA. Head injury. In : Tintinalli JE, Kelen GD, Stapczynski JS.      Emergency Medicine : A comprehensive study guide, 6th edition : The McGraw-Hill Companies, Inc Press; 2004. p. 1378. 

 4. Denny CJ, Schull MJ. Headache and facial pain. In: Tintinalli JE, Kelen GD, Stapczynski JS. Emergency Medicine : A comprehensive study guide, 6th edition : The McGraw-Hill Companies, Inc Press; 2004. p. 1567-8. 

 5. Carley S, Wallmann P. Does a normal CT scan rule out a subdural haemorrhage ? Emerg Med J 2001; 18:271-3.
 6. Utsunomiya A, Narita N . Spontaneous occipital subdural hematoma. J Neurol Neurosurg      Psychiatry 2001; 71:127. 

 7. Murakami M, Morikawa K, Matsuno A, Kaneda K, Nagashima T. Spontaneous Intracranial  Hypotension Associated with Bilateral Chronic Subdural Hematoma (case report). Neurol Med Chir ( Tokyo ) 2000; 40:484-8. 

 8. de Brito henriques JG, Filho GP, Henriques KSW, Fonseca LF, da Melo RP, da Silva MC, Malheiros JA. Spontaneous acute subdural hematoma contralateral to an arachnoid cyst. Arq Neuropsiquaiatr 2007; 65: 1034-6. 

 9. Raj K, Namit S, Mahapatra AK. Idiopathic chronic subdural hematoma, The Indian Journal of Pediatrics 2007; 11:1046-104.

 10. Agrawal D, Mahapatra AK. Spontaneous subdural hematoma in a young adult with  hemophilia. Neurology Indian : Short reports 2003; 51:114-5.

 11. Jain V, Singh J, Sharma R. Spontaneous concomitant cranial and spinal subdural haema-tomas with spontaneous resolution. Singapore Med Case Report J 2008; 49:e53-e58.

 12. Glenn A. Tung, Monica Kumar, Randal C. Richardson, Carole Jenny and William D. Comparison of Accidental and Nonaccidental Traumatic Head Injury in Children on Noncontrast Computed Tomography. Pediatrics 2006; 118:626-33. 

 13. Koerbel A, Ernemann U, Freudenstein D. Acute subdural haematoma without subarachnoid haemorrhage caused by rupture of an internal carotid artery bifurcation aneurysm : case report and review of literature. The British Journal of Radiology 2005; 78:646-50.
 

พัชยา สรรพอาสา พ.บ.,
รพีพร โรจน์แสงเรือง พ.บ., อาจารย์
ยุวเรศ สิทธิชาญบัญชา พ.บ.,อาจารย์  ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี  มหาวิทยาลัยมหิดล

 

ป้ายคำ:
  • กรณีศึกษา
  • โรคตามระบบ
  • โรคระบบประสาทและสมอง
  • คุยสุขภาพ
  • แพทย์เวร
  • เยื่อหุ้มสมองมีเลือดออก
  • พญ.พัชยา สรรพอาสา
  • พญ.ยุวเรศ สิทธิชาญบัญชา
  • พญ.รพีพร โรจน์แสงเรือง
  • อ่าน 100,152 ครั้ง
  • พิมพ์หน้านี้พิมพ์หน้านี้

ข้อมูลสื่อ

289-009
วารสารคลินิก 289
มกราคม 2552
แพทย์เวร
พญ.ยุวเรศ สิทธิชาญบัญชา, พญ.รพีพร โรจน์แสงเรือง
พญ.พัชยา สรรพอาสา
Skip to Top

บทความสุขภาพน่ารู้

  • ทั้งหมด
  • การแพทย์ทางเลือก
    • แพทย์แผนไทย
      • กดจุด
      • นวดไทย
    • แพทย์แผนจีน
  • ดูแลสุขภาพ
    • การดูแลผู้สูงอายุ
    • การปฐมพยาบาล
    • การรักษาเบื้องต้น
    • การใช้ยาสมุนไพร
    • คู่มือดูแลสุขภาพ
    • ยาและวิธีใช้
    • ตรวจสุขภาพด้วยตัวเอง
      • คำนวณค่า BMI
      • วินิจฉัยโรคเบื้องต้น
      • แนะนำการตรวจสุขภาพประจำปี
    • คุยสุขภาพ
      • กรณีศึกษา
      • ถามตอบปัญหาสุขภาพ
  • สุขภาพทางเพศและครอบครัว
    • การดูแลบุตร
    • แม่และเด็ก
    • การตั้งครรภ์
    • เรียนรู้เรื่องเพศและการวางแผนครอบครัว
  • สร้างเสริมสุขภาพ 3 อ. ​และป้องกันโรค
    • อาหาร
      • อาหาร 5 หมู่
      • อาหารของผู้่ป่วยโรคเรื้อรัง
        • ความดันสูง
        • หัวใจ
        • เกาต์
        • เบาหวาน
      • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
      • อาหารป้องกันมะเร็ง
      • อาหารสมุนไพร
    • ออกกำลังกาย
      • วิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แอร์โรบิค แอร์โรบอคซิ่ง รำกระบอง ไทเก็ก ชี่กง โยคะ
    • อารมณ์
      • การทำสมาธิ
      • การพักผ่อน
      • การพัฒนา EQ
      • จิตอาสา/ ฉือจี้
  • พฤติกรรมอันตราย
    • พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ
    • อนามัยสิ่งแวดล้อม
    • อิริยาบถ
  • โรคและอาการ
    • โรคเรื้อรัง
      • กลุ่มอาการเมตาโบลิค
      • ความดันโลหิตสูง
      • ถุงลมปอดโป่งพอง
      • มะเร็ง
      • อัมพฤกษ์ อัมพาต
      • เบาหวาน
      • โรคข้อ/เกาต์
      • โรคทางจิตเวช เครียด หวาดระแวง
      • โรคหวัด ภูมิแพ้
      • โรคหัวใจ
      • โรคหืด
      • ไขมันในเลือดสูง/ผิดปกติ
      • ไตวาย
    • โรคตามระบบ
      • ระบบทางเดินอาหาร
      • โรคจากอุบัติเหตุ สารพิษ และสัตว์พิษ
      • โรคช่องปากและฟัน
      • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      • โรคติดเชื้อ
      • โรคผิวหนัง
      • โรคพยาธิ
      • โรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
      • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศชาย
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศหญิง
      • โรคระบบทางเดินปัสสาวะ
      • โรคระบบทางเดินหายใจ
      • โรคระบบประสาทและสมอง
      • โรคระบบไหลเวียนโลหิต
      • โรคหู ตา คอ จมูก
    • โรคจากการทำงาน
      • พิษภัยจากสารเคมี (ยาฆ่าเมลง/ สารตะกั่ว)
      • โรคจากฝุ่นและสารเคมีในโรงงาน
      • โรคจากสัตว์ เช่น ฉี่หนู
      • โรคจากอริยาบทที่ผิดสุขลักษณะ
      • โรคเส้นเอ็นอักเสบ/ นิ้วล็อค
  • ทันกระแสสุขภาพ
  • คลังความรู้สื่อสังคมออนไลน์
  • อื่น ๆ

ได้รับความนิยม

  • นม
  • ถั่วพู
  • คนท้อง
  • ธาลัสซีเมีย
  • ผู้สูงอายุ
  • ผักพื้นบ้าน
  • สมุนไพร

แผนผังเว็บไซต์

  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ

รวมลิงค์เครือข่าย

  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • สถาบันโยคะวิชาการ

สื่อสุขภาพ

  • คลิปสุขภาพ
  • หมอชาวบ้านรายเดือน
  • คลินิกรายเดือน
  • จดหมายข่าวย้อนหลัง
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • twitter หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)< และสถาบัน ChangeFusion< พัฒนาระบบโดย Opendream< สัญญาอนุญาต cc by-nc-sa <