ถามตอบปัญหาจากทางเว็บไซต์

ถามตอบปัญหาจากทางเว็บไซต์ เดือน/ปี: 12/2010

ถาม : ปอดมีสีขาวอาจเป็นโรคอื่นได้ไหม ให้ยาฆ่าเชื้อมา 1 อาทิตย์หมอบอกไม่มีการตอบสนองเพราะตอนนี้คุณปูจะมีอาการบวมที่ขาและมือเพิ่มด้วยเวลาฉี่จะไม่ค่อยรู้ตัวอาการเหนื่อยหอบและไม่ค่อยอยากทานอาหาร         

ผู้ตอบ : พญ.สิรินทร ฉันทศิริกาญจน

ปอดสีขาวจากการ x-ray อาจเกิดจากมีน้ำในปอดซีกนั้นหรืออาจเป็นวัณโรค หรืออาจเป็นมะเร็งปอดหรืออาจเป็นมะเร็งจากอวัยวะส่วนอื่นและแพร่กระจายมาที่ปอดแนะนำให้สอบถามจากแพทย์ที่ดูแลเพิ่มเติม ว่ามีแนวโน้มเป็นโรคอื่นๆหรือไม่
 

ถามตอบปัญหาจากทางเว็บไซต์ เดือน/ปี: 12/2010

ถาม : ตอนนี้ดิฉันมีลูกสองคนแล้วพึ่งคลอดคนเล็กได้แค่สองเดือนแต่ประจำเดือนยังไม่มาแล้วก็ไม่ได้ให้นมลูกกินแล้วหัวนมมันบอดเขาไม่ยอมดูดแต่น้ำคาวปลายังไม่หมด น้ำคาวปลาจะออกสีน้ำตาลใช่ไหมค่ะแล้วก็มีเหมือนตกขาวด้วยต้องการคุมกำเนิดให้เริ่มการคุมกำเนิดไปได้เลยไหมค่ะจะเป็นไรไหมค่ะ

ผู้ตอบ : ผศ.ดร.สุภัสร์ สุบงกช

เนื่องจากรอบเดือนยังไม่ปกติ เป็นการยากที่จะใช้การคุมประเภทใดประเภทหนึ่ง
แนะนำให้พบสูตินารีแพทย์เพื่อตรวจสภาพหลังคลอด ระหว่างนี้ใช้ถุงยางอนามัยควบคู่ไปกับวิธีการอื่น จนกว่าแพทย์จะระบุว่าไม่มีข้อห้ามใช้ของยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน

ถามตอบปัญหาจากทางเว็บไซต์ เดือน/ปี: 12/2010

ถาม : เป็นสิวที่ท้ายทอยมา3-4ปีและเป็นสิวอักเสบ เป็นๆ หายๆจะบวมเป่งและแตกเป็นหนองเคยไปหาแพทย์แล้วรักษาครึ่งปีก็ยังไม่หาย อยากปรึกษาว่าผมเป็นตับอักเสบบีด้วยควรใช้ยาตัวไหนรักษาดี

ผู้ตอบ : ผศ.ดร.สุภัสร์ สุบงกช

สิวอักเสบในลักษณะนี้ที่จริงควรใช้ยารับประทานในกลุ่ม tetracycline/doxycycline ครับ แต่ถ้ามีตับอักเสบด้วย คงต้องตรวจเลือดให้แน่ใจก่อนว่าการทำงานของตับปรกติหรือไม่ครับ

ถามตอบปัญหาจากทางเว็บไซต์ เดือน/ปี: 12/2010

ถาม : ทาน Amoxylinครบคอร์สแล้วไม่หาย หมอเลยให้ Amoxiclav หายเลยครับต่อจากนั้นทุกครั้งที่คออักเสบผมก็ขอเป็นAmoxiclav ทุกครั้งไป รบกวนสอบถามครับ ทุกครั้งที่เป็นคออักเสบ จะทาน Amoxiclav แทน Amoxylin ทุกครั้ง  จะมีข้อเสียไหมครับ แล้วเค้าเพิ่ม clavuranate acidเพื่อจุดประสงค์อะไรครับ

ผู้ตอบ : ผศ.ดร.สุภัสร์ สุบงกช

Clavulanic acid ใช้สำหรับการลดโอกาสการดื้อยา
ในกรณีที่เกิดการติดเชื้อครั้งใหม่และห่างจากครั้งที่ผ่านมาอย่างน้อย 1เดือน สามารถใช้ amoxicillin ได้ แต่ต้องรับประทานให้ครบ มิฉะนั้นจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำเดิมขึ้นอีก
 

ถามตอบปัญหาจากทางเว็บไซต์ เดือน/ปี: 12/2010

ถาม : คืออยากทราบประจำเดือนของหนูไม่มาเลยตลอดเดือนพฤศจิกายนแต่ก้อมีเหมือนคล้ายเลือดค่ะแต่เป็นสีคร้ำๆออกมาแต่ก้อไม่ใช่ประจำเดือนค่ะ ซึ่งเดือนตุลาประจำเดือนมาวันที่  22 ต.ค.  จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มาเลยค่ะ  แล้ววันที่ 5 ธ.ค หนูมีเพศสัมพันธ์กับแฟนแล้วไม่ใส่ถุงยางเลย  แฟนหนูบอกว่าไม่ได้ปล่อยข้างในแต่เหมือนมีน้ำอยู่ในช่องคลอดค่ะ  พอหลังมีเพศวัมพัธุ์เสร็จมีเลือดออกมาค่ะเลยแปลกใจค่ะว่าผิดปกติอะไรหรือป่าวค่ะ  พอตื่นเช้ามาหนูเลยไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมากิน  แล้วกรณีอยา่างหนูจะผิดปกติอะไรม้ยค่ะแล้วประจำเดือนของหนูจะมามั้ย  ตอนนี้กลุ้มใจมากกลัวท้องแล้วหนูต้องตรวจครรภ์ว่าท้องตอนไหนค่ะ  ให้คำด้วยนะค่ะ

ผู้ตอบ : ผศ.ดร.สุภัสร์ สุบงกช

ตามข้อมูลทางวิชาการ การกินยาคุมฉุกเฉินทั้งแบบฮอร์โมนผสม และแบบที่มีฮอร์โมนเดี่ยวมีวิธีการกินเหมือนกันคือ ต้องกิน 2 ครั้ง 
ครั้งแรกภายในเวลา 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์
ครั้งที่สอง กินหลังจากที่กินครั้งแรกไปแล้ว 12 ชั่วโมง 
หมายความว่า ถ้ามีเพศสัมพันธ์ตอนสองทุ่ม และกินยาเม็ดแรกตอน 5 ทุ่ม จะต้องกินยาเม็ดที่สองตอน11 โมงเช้าซึ่งก็คือ 12 ชั่วโมงถัดมานั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังมีการศึกษาวิจัยว่า จำเป็นต้องกินยาเม็ดที่สองหรือไม่เพราะถ้าประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ในกรณีที่กินเม็ดเดียว กับกรณีที่กินยาสองเม็ดนั้นไม่แตกต่างกันการกินแค่เม็ดเดียว น่าจะช่วยลดอาการข้างเคียงของยาลงได้แต่ยังไม่สามารถยืนยันผลใดๆเนื่องจากการศึกษาวิจัยนี้ยังไม่เสร็จสิ้น 

ถามตอบปัญหาจากทางเว็บไซต์ เดือน/ปี: 12/2010

ถาม : เป็นโรคITP ทานยา prednisolone วันละ 30 mg. หมอให้ทาน 1.5 เดือน หน้าเป็น  moonface ไม่ทราบว่า  ลักษณะหน้าแบบนี้เมื่อลดยาแล้ว หน้าจะกลับเป็นปกติหรือไม่ เข้ารพ. เกล็ดเลือด 10,000  นอนรพ.14วันมาที่ 90,000 หลังจาก 10  วันพบแพทย์เหลือ59,000  แล้วคุณหมอนัดอีก 1 เดือน อยากทราบขั้นตอนแนวทางการรักษา  ไม่อยากทานสเตอร์รอย

ผู้ตอบ : ผศ.ดร.สุภัสร์ สุบงกช

การรักษา ITP ซึ่งเกิดจากภูมิคุ้มกันเกิน จำเป็นต้องใช้ยากดภูมิ ซึ่งเมื่อควบคุมอาการได้แล้่วอาจมีการลดขนาด ซึ่งอาการไม่พึงประสงค์ก็จะลดลงด้วย

ในระยะยาวถ้าหาสาเหตุที่แน่ชัดได้แล้วอาจไม่จำเป็นต้องใช้ยา ในระยะ 1-3 เดือนนั้นยังจำเป็นต้องใช้ยา steriods ครับ ถ้าอาการรบกวนให้กลับไปปรึกษาแพทย์ก่อน 1.5 เดือนได้ครับ

ในกรณ๊ที่ให้เกร็ดเลือด เกร็ดเลือดจะอยู่ในร่างกายประมาณ 1-2 สัปดาห์ครับ ดังนั้นที่ค่าเกร็ดเลือดลดลงจึงไม่ต้องกังวล รอให้ยาออกฤทธิ์เต็มที่ก่อน เกร็ดเลือดจะเพิ่มระดับอย่างๆ ช้าๆ ครับ ภายใน 1-3 เดือนครับ
 

 

ถามตอบปัญหาจากทางเว็บไซต์ เดือน/ปี: 12/2010

ถาม : ตอนนี้ลูก 3 เดือนให้ลูกกินไกร๊ป วอเตอร์ผสมนมเป็นประจำ จะเป็นอะไรไหม มีอันตรายรึไม่

ผู้ตอบ : ผศ.ดร.สุภัสร์ สุบงกช

Gripe water มีส่วนประกอบของ แอลกอฮอล์, โซเดียมไบคาร์บอเนต, ดอกคาโมไมล์, ยี่หร่า, ยี่หร่า, ขิง, สะระแหน่, Aloe, blackthorn, ยาหม่องมะนาว, กลีเซอรีน, น้ำตาล, ฟรุคโต, น้ำมันวัชพืช dill อบเชย ตาน้ำมันกานพลู, น้ำมันเมล็ดกระวาน, ถ่านผักและอื่น ๆ

โดยปกติขนาด 2.5-10 มิลลิลิต เพียงพอที่จะบรรเทาอาการผลขึ้นอยู่กับขนาดของทารกและการรับประทานอาจมีหลายครั้งในหนึ่งวัน หยดจะใช้ในการดูแลรักษาเพื่อเด็กและบรรเทามักจะเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 5 ถึง 20 นาที  

ถึงแม้ว่าจะไม่มีอันตราย แต่ควรให้เด็กเรอเองหลังจากรับประทานนม จะช่วยลดอาการท้องอืดได้ดี หรือการใช้มหาหิงค์ทารอบสะดือก็จะช่วยบรรเทาอาการท้องอืดได้เช่นกัน

การเลือกนมและอาหารที่คุณแม่รับประทานสำหรับมารดาที่ให้นมบุตรก็ควรที่จะได้รับการพิจารณาร่วมด้วย

แหล่งที่มา ปรึกษาปัญหายากับเภสัชกร

ถามตอบปัญหาจากทางเว็บไซต์ เดือน/ปี: 06/2010

ไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดแตกต่างกันหรือไม่
     ไข้หวัดใหญ่ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่เรียกว่า Influenza virus เป็นการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ มีอาการเจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล และมีไข้คล้ายอาการของไข้หวัด แต่แตกต่างตรงที่ไข้หวัดใหญ่นั้น เด็กจะมีไข้สูง (39-40 °c) ซึ่งจะสูงกว่าไข้หวัดธรรมดา อาการปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและอ่อนเพลียมากกว่า แต่อาการคัดจมูกหรือมีน้ำมูกจะน้อยกว่าไข้หวัดมาก ซึ่งในบางรายอาจไม่มีอาการคัดจมูกหรือน้ำมูกเลยก็ได้


จำเป็นไหมลูกต้องได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่
     ในผู้ใหญ่ปกติทั่วไปมักไม่มีความจำเป็นในการรับวัคซีน เนื่องจากไข้หวัดใหญ่จัดเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรง การรักษาด้วยยาตามอาการ การพักผ่อนและดื่มน้ำมากๆ จะสามารถหายได้เองเป็นปกติภายในเวลา 3-5 วัน แต่ในเด็กเล็กนั้น ระบบภูมิคุ้มกันยังทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงมักจะพบอาการแทรกซ้อนตามมาได้ เช่น ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ เป็นต้น ซึ่งเป็นสาเหตุให้ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและอาจมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ จึงมีการแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ในเด็กเล็ก ซึ่งนอกจากจะสามารถป้องกันโรคได้แล้วยังช่วยลดอัตราการแพร่เชื้อให้กับบุคคลในครอบครัวได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวัคซีนไข้หวัดใหญ่ยังมีราคาค่อนข้างสูง และจำเป็นต้องฉีดซ้ำทุกปี และบางครั้งวัคซีนที่ใช้อาจไม่ตรงกับสายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศไทย แต่ยังสามารถป้องกันโรคได้พอสมควร ทั้งนี้เพราะการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์เริ่มทางแถบเอเชียก่อนที่วัคซีนสายพันธุ์นั้นๆ จะถูกผลิตออกมา ดังนั้น การเลือกฉีดวัคซีนป้องโรคไข้หวัดใหญ่ ผู้ปกครองควรพิจารณาถึงความคุ้มค่า และอาจขอคำปรึกษาและแนะนำจากแพทย์ด้วย

ถามตอบปัญหาจากทางเว็บไซต์ เดือน/ปี: 06/2010

ทำไมถึงเป็นไข้
      ไข้เป็นอาการที่บ่งบอกถึงความเจ็บป่วยหรือเกิดการติดเชื้อขึ้นภายในร่างกาย เป็นกระบวนการต่อสู้ทางธรรมชาติ เกิดการหลั่งสารก่อไข้ ส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ทำให้เชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียที่ไวต่ออุณหภูมิที่สูงขึ้นนี้ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ดี จึงพบว่าเวลามีไข้มักเกิดอาการหนาวสั่น ซึ่งการสั่นของกล้ามเนื้อทำให้มีการสร้างความร้อนออกมา มือและเท้าเย็น เนื่องจากหลอดเลือดที่ผิวหนังเกิดการหดตัวเพื่อกักเก็บความร้อนไว้นั่นเอง ต่อมาเมื่อความเจ็บป่วยทุเลาลง อาการไข้ก็จะลดลงและหายไปเองในที่สุด ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดไข้โดยทั่วไป มักมาจาก การติดเชื้อหรือการอักเสบที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น การได้รับวัคซีนก็เป็นอีกสาเหตุที่ก่อให้เกิดไข้ได้เช่นกัน ดังนั้น ผู้ปกครองจะสังเกตเห็นว่าเมื่อลูกได้รับวัคซีน แพทย์มักจะจ่ายยาลดไข้ให้ด้วยเสมอ สาเหตุอื่นๆที่อาจทำให้เป็นไข้ เช่น ภาวะการขาดน้ำ ดื่มน้ำน้อย การตากแดดเป็นเวลานาน เป็นต้น

 

เมื่อไรถึงจะเรียกว่ามีไข้
     ปกติร่างกายของคนเราจะมีอุณหภูมิประมาณ 36.5 – 37.5 °C ดังนั้น หากอุณหภูมิร่างกายสูงกว่านี้แสดงว่ามีไข้ ปัจจุบันปรอทวัดไข้มีหลายรูปแบบ และวัดที่ตำแหน่งต่างกัน ทั้งนี้การวัดไข้คนละตำแหน่งจะได้อุณหภูมิที่แตกต่างกัน เช่น การวัดทางทวารหนักอุณหภูมิจะสูงกว่าการวัดทางรักแร้ เนื่องจากการวัดทางรักแร้เป็นการวัดภายนอกร่างกายแต่การวัดทางทวารหนักเป็นการวัดภายในร่างกาย ดังนั้น การวัดอุณหภูมิที่ถือว่าอยู่ในระดับที่มีไข้นั้น เมื่อวัดในตำแหน่งต่างๆ จะได้ดังนี้

ถามตอบปัญหาจากทางเว็บไซต์ เดือน/ปี: 06/2010

    การรักษาโรคจะได้ผลก็ต่อเมื่อคนไข้สามารถปฏิบัติตัวและทานยาได้ถูกต้องตามที่แพทย์สั่ง แต่มีการศึกษาพบว่า คนไข้มากกว่า 71% มักลืมรับประทานยาหรือรับประทานยาผิดเวลา และคนไข้ไม่ถึง 41% ที่จัดยารับประทานเองตรงตามที่แพทย์สั่งสม่ำเสมอ ซึ่งการรับประทานยาที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้ได้รับผลข้างเคียงของยาและการรักษาไม่ได้ผลเท่าที่ควร ผู้สูงอายุและผู้ป่วยด้านสุขภาพจิตเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับผลข้างเคียงของยา โดยมักพบว่าเป็นกลุ่มที่รับประทานยาไม่ถูกต้อง


เหตุผลที่ทำให้คนไข้ทานยาไม่ถูกต้อง

  • รับประทานยาหลายชนิด และหรือหลายมื้อในแต่ละวัน
  • แพทย์มีการเปลี่ยนวิธีการใช้ยา
  • ต้องมารับยาบ่อยครั้ง
  • ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย

 

เภสัชกรช่วยท่านได้อย่างไรบ้าง?

  • ปรับวิธีการรับประทานยาให้เข้าใจง่ายและสะดวกมากขึ้น เช่น การรับประทานยาวันละ1-2ครั้ง
  • จัดเตรียมยาครั้งละ 3 เดือน สำหรับคนไข้ที่รับประทานยาประจำและไม่ค่อยมีการปรับเปลี่ยนยาบ่อยครั้ง
  • ให้คำแนะนำเพิ่มเติมในการรับประทานยา เช่น ยาที่ต้องรับประทานก่อนอาหาร, หลังอาหารทันที, การใช้ยาสูดพ่น
  • ทำความเข้าใจกับคนไข้ว่ายาออกฤทธิ์อย่างไร ใช้อย่างไรจึงได้ผล
  • ติดตามผลและสอบถามปัญหาในการใช้ยา


นอกจากนี้คนไข้สามารถเลือกใช้เครื่องมือเป็นตัวช่วยในการรับประทานยาให้ถูกต้องมากขึ้นได้ เช่น