Skip to main content
ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
menu

Login Pop

  • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
search
  • เว็บหลักหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ
หน้าแรก » ถาม-ตอบปัญหาสุขภาพ » Sparfloxacin vs Ciprofloxacin
  • ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

Sparfloxacin vs Ciprofloxacin

โพสโดย l3aipat เมื่อ 18 พฤษภาคม 2553 13:37

คำถาม              Sparfloxacin มีข้อดีกว่า Ciprofloxacin อย่างไร มีขายในประเทศไทยหรือยัง อยากทราบ brand name ด้วย
ผู้ถาม : เภสัชกรร้านยา
วัตถุประสงค์การถาม : เพิ่มเติมความรู้
คำตอบ             Sparfloxacin มีขายในประเทศไทย โดยบริษัท Rhone-Poulenc Rorer มีรูปแบบเป็น film-coated tab 200 mg x 6’s ชื่อการค้าคือ Zagamâ         
Sparfloxacin มีข้อดีกว่า Ciprofloxacin โดยเปรียบเทียบในด้านต่างๆ ดังนี้
การเปรียบเทียบในด้าน Pharmacokinetic มีข้อมูลดังนี้
-          Sparfloxacin มีค่า oral bioavailability (92%) มากกว่า Ciprofloxacin (60-80%)
-    Sparfloxacin มีการเปลี่ยนแปลงยา (metabolism)ในตับ phase II glucuronidation เป็น inactive metabolited และไม่ถูก metabolized ผ่าน cytochrome P450 system ส่วน Ciprofloxacin จะถูกกำจัดโดยผ่านกลไก renal และnonrenal มีบางส่วนถูกเปลี่ยนแปลงในตับ ได้เป็น active metabolites ซึ่งจะถูกขับออกทาง urine ในรูป unchanged 15-50%ของขนาดยาที่ได้รับในรูปแบบรับประทาน และมี 10-15% เป็น metabolites รวมทั้งยังขับออกทาง feces ในรูป unchanged และmetabolites 20-40%ของขนาดยาที่ได้รับ
- Sparfloxacin มีค่า elimination half-life เท่ากับ 16-30 hrs ยาวนานกว่า Ciprofloxacin ซึ่งมีเท่ากับ 3-6 hrs
การเปรียบเทียบในด้าน Efficacy มีข้อมูลดังนี้คือ
Urinary tract infection :       
พบว่าอาการทางคลินิกที่ตอบสนองต่อการใช้ Ciprofloxacin และSparfloxacin ในการรักษาภาวะติดเชื้อแทรกซ้อนทางเดินปัสสาวะจะคล้ายกัน แต่ Ciprofloxacin จะแสดงถึง Bacteriologic efficacy ได้ดีกว่า Sparfloxacin โดยมีการศึกษาทางคลินิกในผู้ป่วย 686 คน ที่มี urinary tract traction ทำการ randomized ให้ยาดังนี้
1.      Sparfloxacin 200 mg loading dose ตามด้วย 100 mg/day เป็นเวลา 10-14 วัน
2.      Ciprofloxacin 500 mg bid เป็นเวลา 10-14 วัน
เมื่อสิ้นสุดการรักษา พบว่ามี cure rate(วิเคราะห์จากอาการทั้งหมดในผู้ป่วย) 87.3%ในผู้ป่วยที่ใช้ Sparfloxacin และ85.7%ในผู้ป่วยที่ใช้ยา Ciprofloxacin และมี Bacteriologic cure rate ของผู้ป่วยที่ใช้ Sparfloxacin เท่ากับ 72.1% ส่วน Ciprofloxacin เท่ากับ 80.8%
      ซึ่งความแตกต่างของ Bacteriologic cure rate ระหว่างยา 2 ตัวนี้อาจจะเกิดจากความรุนแรงของเชื้อแต่ละตัวที่แตกต่างกัน เช่น Pseudomonas aeruginosa, Enterococci และEnterobacteriaceae   และมีรายงานการเกิดอาการข้างเคียงในผู้ป่วยที่ใช้ยา Sparfloxacin 26.7% ใน Ciprofloxacin 23.8% โดยมีอาการ gastrointestinal complaints เช่น abdominal pain, nausea และdiarrhea ที่พบมาก ส่วนอาการ fatigue(~1.2%) และphotosensitivity(0.9%) มีการรายงานว่าพบ จากการใช้ยา Sparfloxacin แต่ไม่พบในการใช้ยา Ciprofloxacin
      อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบถึง efficacy ของยาทั้ง 2 ตัว ในการรักษาภาวะติดเชื้อแทรกซ้อนทางเดินปัสสาวะพบว่า ยาทั้ง 2 ตัวจะมี efficacy เท่ากัน โดยที่ยา Ciprofloxacin จะมี eradication rates ดีกว่า
Gonorrhea  :           
พบว่าทั้ง Sparfloxacin 200 mg และCiprofloxacin 250 mg ที่ให้แบบ single dose จะมีประสิทธิภาพในการรักษา acute gonococcal urethritis เท่ากัน โดยมีรายงานว่า อัตราการกำจัดเชื้อ Neisseria gonorrhea ของยา Sparfloxacin เท่ากับ 99% และยา Ciprofloxacin 97.9%
Skin & Skin-structure infections :    
พบว่า Sparfloxacin จะมีประสิทธิภาพในการรักษา skin and skin-structure infections เท่ากับ Ciprofloxacin ซึ่งมีการศึกษาแบบ double-blind, double-dummy, randomized ในผู้ป่วย 603 คนที่มี community-acquired skin และskin-structure infections โดยจะได้รับ Sparfloxacin (400 mg loading dose ตามด้วย 200 mg/day) หรือ Ciprofloxacin (750 mg bid) เป็นเวลา 10 วัน   จากการประเมินอาการทางคลินิกของผู้ป่วย 475 คน พบว่าผู้ป่วยมีอาการทางคลินิกที่ดีขึ้น 90.1%ของผู้ป่วยที่ใช้ยา Sparfloxacin และ87.2%ของผู้ป่วยที่ใช้ยา Ciprofloxacin และอัตราความสำเร็จในการรักษาจากการใช้ยา Sparfloxacin เท่ากับ 84.6% ส่วน Ciprofloxacin จะเท่ากับ 78.6%   ซึ่งพบว่าผู้ป่วยที่ใช้ยา Sparfloxacin จะเกิด photosensitivity ได้มากกว่าในผู้ป่วยที่ใช้ยา Ciprofloxacin อย่างมีนัยสำคัญ
เอกสารอ้างอิง :
1.      Gelman CR, Rumack BH, Hutchison TA(eds):DRUGDEX(R) System. MICROMEDEX. Inc, Engewood, Colorado[Edition Expired(15/12/99)].
2.      Pascual RD, et al. MIMS annual Thailand TIMS 1999. Bangkok: Infopharma media services LTD; 1999: 1043-1047.
 

  • อ่าน 4,703 ครั้ง
  • พิมพ์หน้านี้พิมพ์หน้านี้
Skip to Top

คำถามสุขภาพ

  • ทั้งหมด
  • การแพทย์ทางเลือก
    • แพทย์แผนไทย
      • กดจุด
      • นวดไทย
    • แพทย์แผนจีน
  • ดูแลสุขภาพ
    • การดูแลผู้สูงอายุ
    • การปฐมพยาบาล
    • การรักษาเบื้องต้น
    • การใช้ยาสมุนไพร
    • คู่มือดูแลสุขภาพ
    • ยาและวิธีใช้
    • ตรวจสุขภาพด้วยตัวเอง
      • คำนวณค่า BMI
      • วินิจฉัยโรคเบื้องต้น
      • แนะนำการตรวจสุขภาพประจำปี
    • คุยสุขภาพ
      • กรณีศึกษา
      • ถามตอบปัญหาสุขภาพ
  • สุขภาพทางเพศและครอบครัว
    • การดูแลบุตร
    • แม่และเด็ก
    • การตั้งครรภ์
    • เรียนรู้เรื่องเพศและการวางแผนครอบครัว
  • สร้างเสริมสุขภาพ 3 อ. และป้องกันโรค
    • อาหาร
      • อาหาร 5 หมู่
      • อาหารของผู้่ป่วยโรคเรื้อรัง
        • ความดันสูง
        • หัวใจ
        • เกาต์
        • เบาหวาน
      • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
      • อาหารป้องกันมะเร็ง
      • อาหารสมุนไพร
    • ออกกำลังกาย
      • วิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แอร์โรบิค แอร์โรบอคซิ่ง รำกระบอง ไทเก็ก ชี่กง โยคะ
    • อารมณ์
      • การทำสมาธิ
      • การพักผ่อน
      • การพัฒนา EQ
      • จิตอาสา/ ฉือจี้
  • พฤติกรรมอันตราย
    • พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ
    • อนามัยสิ่งแวดล้อม
    • อิริยาบถ
  • โรคและอาการ
    • โรคเรื้อรัง
      • กลุ่มอาการเมตาโบลิค
      • ความดันโลหิตสูง
      • ถุงลมปอดโป่งพอง
      • มะเร็ง
      • อัมพฤกษ์ อัมพาต
      • เบาหวาน
      • โรคข้อ/เกาต์
      • โรคทางจิตเวช เครียด หวาดระแวง
      • โรคหวัด ภูมิแพ้
      • โรคหัวใจ
      • โรคหืด
      • ไขมันในเลือดสูง/ผิดปกติ
      • ไตวาย
    • โรคตามระบบ
      • ระบบทางเดินอาหาร
      • โรคจากอุบัติเหตุ สารพิษ และสัตว์พิษ
      • โรคช่องปากและฟัน
      • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      • โรคติดเชื้อ
      • โรคผิวหนัง
      • โรคพยาธิ
      • โรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
      • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศชาย
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศหญิง
      • โรคระบบทางเดินปัสสาวะ
      • โรคระบบทางเดินหายใจ
      • โรคระบบประสาทและสมอง
      • โรคระบบไหลเวียนโลหิต
      • โรคหู ตา คอ จมูก
    • โรคจากการทำงาน
      • พิษภัยจากสารเคมี (ยาฆ่าเมลง/ สารตะกั่ว)
      • โรคจากฝุ่นและสารเคมีในโรงงาน
      • โรคจากสัตว์ เช่น ฉี่หนู
      • โรคจากอริยาบทที่ผิดสุขลักษณะ
      • โรคเส้นเอ็นอักเสบ/ นิ้วล็อค
  • อื่น ๆ

  • สนับสนุนสื่อสุขภาพออนไลน์หมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • คำแนะนำสำหรับประชาชน เรื่อง โรคจากเชื้อแบคทีเรีย อีโคไลชนิดรุนแรง
  • ผ่าตัดฟรีสำหรับเด็ก ที่เป็นโรคหัวใจ
  • สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย (สพท.)

แผนผังเว็บไซต์

  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ

รวมลิงค์เครือข่าย

  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • สถาบันโยคะวิชาการ

สื่อสุขภาพ

  • คลิปสุขภาพ
  • หมอชาวบ้านรายเดือน
  • คลินิกรายเดือน
  • จดหมายข่าวย้อนหลัง
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • twitter หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)< และสถาบัน ChangeFusion< พัฒนาระบบโดย Opendream< สัญญาอนุญาต cc by-nc-sa <