• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ทำอย่างไรดีกับต่อมลูกหมาก

ทำอย่างไรดีกับต่อมลูกหมาก

1. ขณะนี้ดิฉันอายุได้ 18 ปีแล้ว และเมื่อต้นเดือนที่แล้วดิฉันได้เกิดมีอาการไข้ แต่ไม่สูงมากนัก และได้สังเกตเห็นว่าที่ตามข้างคอทั้ง 2 ข้างได้มีต่อมน้ำเหลืองโตขึ้น จับดูจะกลิ้งไปมาได้ หลังหู รักแร้ และขาหนีบจะมีต่อมน้ำเหลืองขึ้นโตไปหมด ทีแรกดิฉันคิดว่าคงจะเป็นหัดเยอรมัน แต่คุณแม่ดิฉันบอกว่า ดิฉันเคยเป็นแล้วคงจะไม่เป็นอีก ดิฉันได้ไปหาหมอที่คลินิค หมอบอกว่าไม่ได้เป็นหัด เพียงแต่เชื้อไวรัสอย่างหนึ่ง หมอให้ยาลดไข้ และ ยาเม็ดสีส้มมา 10 เม็ด ให้กินวันละ 1 เม็ด และบอกว่าถ้ายาหมดแล้วยังไม่หายให้ไปตรวจใหม่ และเมื่อยาหมดแล้วอาการก็ยังเหมือนเดิมเพียงแต่ว่ามีไข้บ้างเป็นบางครั้งและมักจะเป็นตอนกลางคืน แต่ไม่เป็นทุกวันเหมือนครั้งแรก

ดิฉันได้กลับไปที่คลินิคใหม่ แต่คราวนี้เป็นหมอคนละคนกับคราวแรก แต่เป็นคลินิคเดียวกัน หมอดูแล้วก็ไม่ว่าอะไรเพียงแต่สั่งยาอย่างใหม่ไปให้ โดยแทบจะไม่ได้ตรวจอะไรเลย และบอกว่าอีก 2-3 วันให้มาใหม่ แต่ดิฉันไม่ได้ไปอีก เพราะว่าไปก็ได้ยาอย่างใหม่มากินอีกเท่านั้นไม่ได้อธิบายอะไรเลย อีกทั้งตอนนี้ก็ไม่มีไข้แล้ว แต่ยังมีก้อนต่อมน้ำเหลืองตามที่ต่างๆ อยู่อีก ที่คิดว่าเป็นต่อมน้ำเหลืองนั้นไม่ทราบว่าจะเข้าใจถูกหรือเปล่า ดิฉันจึงอยากจะเรียนขอคำแนะนำด้วยค่ะ ว่าควรปฏิบัติอย่างไร และถ้าปล่อยทิ้งเอาไว้อย่างนี้เรื่อยๆ มันจะหายไปเองได้หรือเปล่าคะ และจะมีอันตรายอะไรหรือเปล่าคะ เพราะหมู่นี้เป็นหวัดบ่อยขึ้นและดูร่างกายจะอ่อนแอลงและเหนื่อยง่ายด้วย

2. ดิฉันเป็นโรคกระเพาะอาหารมาประมาณ 4 เดือนแล้วหมอได้ให้ยาเม็ดสีเขียว และยาลดกรดมาให้ 1,000 ซี.ซี. มากินก่อนอาหารทุกวัน อาการปวดท้องก็หายไป ขณะนี้ยาหมดแล้ว อยากทราบว่าจะต้องซื้อยาอย่างเก่ามากินอีกหรือเปล่าคะ

3. ดิฉันชอบว่ายน้ำสระเป็นประจำแต่ก็แพ้คลอลีนในน้ำ คือ เวลาเล่นจะไม่คัน แต่พอขึ้นมาแล้ว ตกกลางคืน จะคันมากและจะคันไปอีกทีเดียวค่ะและจะมีผื่นเหมือนยุงกัดเต็มไปหมดทั้งตามแขนตามขาและคันมาก เวลานั่งเรียนหนังสืออายเพื่อนมากเพราะต้องนั่งเกาอยู่เรื่อยๆ ดิฉันได้ไปซื้อยาแอนตี้ฮีสตามีนมากินและใช้คาลาไมน์ทาแต่ก็หายเป็นบางครั้งเท่านั้น พอหมดฤทธิ์ยาก็เป็นอีกและยากินก็กินได้แต่ตอนกลางคืนเท่านั้น ตอนกลางวันถ้ากินแล้วจะง่วงนอนมาก ทำให้เรียนหนังสือไม่รู้เรื่องดิฉันอยากเรียนถามว่าถ้ากินยานี้เรื่อยๆ จะมีอันตรายหรือเปล่าคะ

แฟนชาวลพบุรี

ตอบ

1. อาการไข้และมีต่อมน้ำเหลืองโดยบริเวณคอ หลังหู รักแร้ และขาหนีบ แล้วหายเองอย่างที่คุณเล่ามานั้นน่าจะเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส (เชื้อที่เป็นพวกเดียวกับ หัด เหือด และหวัด นั่นแหละครับ) ถ้าคุณไม่มีอาการไข้แล้ว ก็ไม่ต้องทำอะไร ต่อมน้ำเหลืองเหล่านี้อาจจะค่อยๆ เล็กลงและหายไปเอง ถ้าไม่หายก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเมื่อใดมันโตขึ้นอีก เมื่อนั้นคุณต้องไปให้หมอตรวจใหม่ ส่วนเรื่องร่างกายอ่อนแอลงนั้น อาจจะเป็นเพราะคุณเพิ่งจะฟื้นจากไข้ ให้คุณกินอาหารให้มาก ออกกำลังกายพอสมควรเป็นประจำ (ไม่ควรออกกำลังกายจนหอบ) และต้องพักผ่อนให้เพียงพอ

2. โรคกระเพาะที่คุณเป็นอยู่นั้น เกิดจากการที่คุณกินอาหารไม่เป็นเวลา กินอาหารที่เสาะท้อง (เช่น อาหารเผ็ดจัด ใช้พริกน้ำส้มมาก โคล่า กาแฟ เหล้า เป็นต้น) และเกิดจากความเครียดโดยเฉพาะทางใจปกติ ถ้ากินยาลดกรดได้ 2-3 เดือน และไม่มีอาการปวดท้อง คงจะหยุดยาได้ และถ้ามีอาการอีกค่อยกินใหม่ก็ได้

3. เมื่อคุณว่ายน้ำแล้วเกิดผื่นคัน ซึ่งหายโดยยาแก้แพ้ (แอนตี้ฮีสตามีน) เพราะฉะนั้นผื่นคันเหล่านี้อาจเกิดจากสิ่งสกปรก หรือสารเคมีที่มีผสมอยู่ในน้ำนั้น คุณควรเปลี่ยนสระที่คุณอาบน้ำนั้น คุณควรเปลี่ยนสระที่คุณอาบน้ำนั้นเสีย ถ้าเมื่อเปลี่ยนแล้วคุณยังเป็นอีก คุณก็คงจะต้องหยุดการว่ายน้ำในสระ เพราะมันไม่คุ้มกันเลยที่ต้องมานั่งเกากันข้ามวันข้ามคืนและทำเรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง

นพ.สันต์ หัตถีรัตน์