Skip to main content
ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
menu

Login Pop

  • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
search
  • เว็บหลักหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ
หน้าแรก » บทความสุขภาพน่ารู้ » การบรรจุก๊าซผิดชนิด
  • ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

การบรรจุก๊าซผิดชนิด

โพสโดย Anonymous เมื่อ 1 มีนาคม 2550 00:00

การบรรจุก๊าซผิดชนิดโดยบรรจุ CO2 แทน N2O ใช้กับผู้ป่วยผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง

ถาม
ดิฉันทำงานอยู่โรงพยาบาลชุมชนขนาด 90 เตียง แพทย์ทำผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง under GA พบว่าช่วง induction และ intubation ราบรื่นดี หลังได้รับยาประมาณ 8-10 นาที sodalime เปลี่ยนเป็นสีม่วงทั้ง chamber ผู้ป่วยมีหน้าแดง pulse เร็ว จึงปิดยาดมสลบ ให้ O2 100% ตลอด ให้ดม narcotic relaxant และ off ET tube ได้ หลังเสร็จการผ่าตัดทดลองเปิดไนตรัสร่วมกับออกซิเจนอีกครั้งพบว่า sodalime เปลี่ยนสีอีกครั้ง (เปลี่ยนใหม่แล้ว) จากการตรวจสอบพบว่า เพิ่งเปลี่ยนถังไนตรัสออกไซด์ ดิฉันสงสัยว่าน่าจะมีสาเหตุจากการบรรจุก๊าซผิดชนิด และคิดว่าเป็น CO2 และอยากเรียนถามว่า มีวิธีการทดสอบก่อนใช้งานอย่างไร และมีวิธีการตรวจรับ N2O อย่างไร.

สมาชิก

ตอบ จากเหตุการณ์ที่เล่ามามีความเป็นไปได้ว่าเกิดจากการบรรจุก๊าซผิดชนิด โดยบรรจุ CO2 แทน N2O ซึ่งถ้าโรงงานบรรจุก๊าซไม่ได้มาตรฐาน อาจมีความผิดพลาดได้ การตรวจรับก๊าซทั้ง 2 ชนิด เป็นการรับน้ำหนัก และแรงกดดันกลุ่มเดียวกัน จึงไม่สามารถแยกแยะได้ แต่ถ้าการบรรจุทำตามมาตรฐาน compressed gas ถัง N2O จะเป็นสีน้ำเงิน และถัง CO2 เป็นสีเทา.

อย่างไรก็ตาม แนะนำการตรวจสอบก่อนใช้กับผู้ป่วยเมื่อผ่าน flowmeter หรือ machine ดมยาทำได้ 2 วิธี คือ

1. ผ่านก๊าซลงในน้ำปูนใส จะทำให้น้ำปูนใสขุ่นตามปฏิกิริยา

Ca(OH)2 + CO2  ⇒ CaCO3 + H2O

2. ถ้ามี capnograph (ET-CO2) อาจผ่านก๊าซให้เครื่องอ่านก็จะทราบค่า CO2 ได้เลย (ซึ่งไม่ควรอ่านค่าได้ เมื่อเปิด O2 หรือ N2O ผ่านโดยไม่มีผู้ป่วยหายใจเข้า system)

กรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นการป้องกัน และแก้ปัญหาความผิดพลาดขณะการใช้งานเฉพาะจุดปฏิบัติเป็นการป้องกันที่ปลายเหตุ ขอแนะนำให้ทำเรื่องแจ้งผู้รับผิดชอบตามลำดับชั้น เพื่อทำให้เกิดการควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐานทั่วถึงกันทั้งประเทศ จึงจะเป็นการช่วยผู้ป่วยไม่ให้มีความเสี่ยงต่อชีวิตได้ในภาพรวม.

ประสาทนีย์ จันทร พ.บ.
รองศาตราจารย์ ภาควิชาวิสัญญีวิทยา
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล


ความเหมาะสมในการใช้ Premarin®, Provera®, Primolute-N® กับผู้ป่วย
ถาม ขอเรียนถามเกี่ยวกับความแตกต่าง ของ Premarin®, Provera®, Primolute-N® ว่า แต่ละชนิดเหมาะกับผู้ป่วยในกรณีใดบ้าง เช่น ทำ TAH ร่วมกับ BSO ก่อนอายุ 45 ปี, ทำแต่ BSO ก่อนอายุ 45 ปี หรือทำตั้งแต่ยังสาวอยู่ ควรให้ฮอร์โมนทดแทนชนิดใด, ในวัยทองควรให้ฮอร์โมนทดแทนชนิดใดกรณียังมีมดลูกอยู่.

สมาชิก


ตอบ Premarin® (conjugated estrogens) เป็นเอสโตรเจนชนิดธรรมชาติ ที่มีสูตรโครงสร้างแบบสตีรอยด์.

Provera® (medroxy progesterone acetate) เป็นโปรเจสโตเจนชนิดสังเคราะห์ ที่มีสูตรโครงสร้างทางเคมี อยู่ในกลุ่มอนุพันธ์ pregnane มีคาร์บอน 21 อะตอม.

Primolute-N® (norethisterone) เป็นโปรเจสโตเจนชนิดสังเคราะห์เป็น estrane proges togens มีสูตรโครงสร้างทางเคมีอยู่ในกลุ่มอนุพันธ์ androstane หรือ 19-Nortestosterone มีคาร์บอน 19 อะตอม.

Hormone replacement therapy (HRT)
เป็นการให้ฮอร์โมนทดแทนในผู้ป่วยที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือนหรือวัยทอง ควรให้ในรายที่มีข้อบ่งชี้เท่านั้นเช่น กลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการทาง vasomotor เช่น hot flashes และ sweat, psychological symptoms, urinary symptoms, genital symptoms โดยที่ไม่มีข้อห้ามต่อการให้ HRT เช่น hepatic disease, cardiovascular disease, DVT เป็นต้น.

กรณีที่ผู้ป่วยทำผ่าตัด TAH+BSO ก่อนอายุ 45 ปี
เนื่องจากผู้ป่วยไม่มีมดลูกแล้ว สามารถให้ Premarin® เป็นฮอร์โมนทดแทนชนิดเดียว ไม่จำเป็นต้องให้โปรเจสโตเจนร่วมด้วย (ในรายที่มีมดลูกการให้โปรเจสโตเจนร่วมด้วยจะเป็นการป้องกันภาวะ endometrial hyperplasia และ CA endometrium). ปัจจุบันนิยมให้ dose ขนาดต่ำๆ ไว้ก่อน เช่น ให้ Premarin® ขนาด 0.3 มก. กินวันละครั้ง แล้วติดตามอาการของผู้ป่วยเพื่อปรับขนาดของยาให้เหมาะสม. ให้ได้นานเท่าไร โดยทั่วไปจะให้ไปจนถึงอายุประมาณ 50 ปีซึ่งเป็นวัยที่หมดประจำเดือนโดยธรรมชาติ. ถ้าจะให้ต่อไปก็ไม่ควรให้นานเกิน 10 ปีนับตั้งแต่เริ่มต้นให้ HRT เนื่องจากจากการศึกษาพบว่าการให้ HRT เป็นเวลาเกิน 10 ปีจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิด CA breast.

กรณีที่ทำผ่าตัด BSO ก่อนอายุ 45 ปี หรือตั้งแต่ยังสาว
ผู้ป่วยกลุ่มนี้ยังมีมดลูกอยู่ ดังนั้นการให้ HRT ควรให้ Premarin® ร่วมกับ Provera® ในลักษณะการเรียงเม็ดยาเลียนแบบฮอร์โมนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือที่เรียกว่าแบบ sequential โดยให้ Provera® ใน second half เป็นเวลา 12 วัน ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีประจำเดือนเป็น regular cycle ทั้งยังเป็นการป้องกันภาวะ endometrial hyperplasia และ CA endometrium.

ผู้ป่วยวัยทองที่ยังมีมดลูกอยู่
ผู้ป่วยกลุ่มนี้ก็มีความจำเป็นต้องให้ทั้ง Premarin® ร่วมกับ Provera® แต่แนะนำให้ในลักษณะ combined คือ ให้ร่วมกันทั้ง Premarin® และ Provera® ทุกวัน เช่นให้ Premarinา วันละ 0.3 มก.ร่วมกับ Provera® วันละ 2.5 มก. การให้ในลักษณะดังกล่าว ผู้ป่วยจะไม่มีประจำเดือนซึ่งมักจะเป็นสิ่งที่สตรีวัยทองต้องการอยู่แล้ว.

สำหรับยาที่มีใช้อยู่ในปัจจุบันจะจัดเรียงเม็ดเป็น package ลักษณะคล้ายกับ package ของยาเม็ดคุมกำเนิดสะดวกต่อการใช้ มีการเรียงเม็ดยาทั้งในลักษณะ sequential หรือ combined แต่อาจจะมีราคาแพงขึ้น ส่วน Primulute-N® ไม่ได้นำมาใช้รักษาผู้ป่วยในกรณี HRT เนื่องจากยาดังกล่าวมี potency สูงมากเกินความจำเป็น ประกอบกับมีฤทธิ์ และอาการข้างเคียงของ androgen สูง โดยทั่วไปจะนำมารักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่อง DUB หรือมีภาวะเลือดออกผิดปกติในสตรีวัยเจริญพันธุ์.

แสงชัย พฤทธิพันธุ์ พ.บ.
ศาสตราจารย์
ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล


บรรณาธิการ
สุรางค์ เจียมจรรยา พ.บ.
ศาสตราจารย์, ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล

ป้ายคำ:
  • ถามตอบปัญหาสุขภาพ
  • ยาและวิธีใช้
  • คุยสุขภาพ
  • ดูแลสุขภาพ
  • ปัญหาวิชาการ
  • พญ.ประสาทนีย์ จันทร
  • นพ.แสงชัย พฤทธิพันธุ์
  • ศ.พญ.สุรางค์ เจียมจรรยา
  • อ่าน 3,720 ครั้ง
  • พิมพ์หน้านี้พิมพ์หน้านี้
Skip to Top

คำถามสุขภาพ

  • ทั้งหมด
  • การแพทย์ทางเลือก
    • แพทย์แผนไทย
      • กดจุด
      • นวดไทย
    • แพทย์แผนจีน
  • ดูแลสุขภาพ
    • การดูแลผู้สูงอายุ
    • การปฐมพยาบาล
    • การรักษาเบื้องต้น
    • การใช้ยาสมุนไพร
    • คู่มือดูแลสุขภาพ
    • ยาและวิธีใช้
    • ตรวจสุขภาพด้วยตัวเอง
      • คำนวณค่า BMI
      • วินิจฉัยโรคเบื้องต้น
      • แนะนำการตรวจสุขภาพประจำปี
    • คุยสุขภาพ
      • กรณีศึกษา
      • ถามตอบปัญหาสุขภาพ
  • สุขภาพทางเพศและครอบครัว
    • การดูแลบุตร
    • แม่และเด็ก
    • การตั้งครรภ์
    • เรียนรู้เรื่องเพศและการวางแผนครอบครัว
  • สร้างเสริมสุขภาพ 3 อ. และป้องกันโรค
    • อาหาร
      • อาหาร 5 หมู่
      • อาหารของผู้่ป่วยโรคเรื้อรัง
        • ความดันสูง
        • หัวใจ
        • เกาต์
        • เบาหวาน
      • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
      • อาหารป้องกันมะเร็ง
      • อาหารสมุนไพร
    • ออกกำลังกาย
      • วิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แอร์โรบิค แอร์โรบอคซิ่ง รำกระบอง ไทเก็ก ชี่กง โยคะ
    • อารมณ์
      • การทำสมาธิ
      • การพักผ่อน
      • การพัฒนา EQ
      • จิตอาสา/ ฉือจี้
  • พฤติกรรมอันตราย
    • พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ
    • อนามัยสิ่งแวดล้อม
    • อิริยาบถ
  • โรคและอาการ
    • โรคเรื้อรัง
      • กลุ่มอาการเมตาโบลิค
      • ความดันโลหิตสูง
      • ถุงลมปอดโป่งพอง
      • มะเร็ง
      • อัมพฤกษ์ อัมพาต
      • เบาหวาน
      • โรคข้อ/เกาต์
      • โรคทางจิตเวช เครียด หวาดระแวง
      • โรคหวัด ภูมิแพ้
      • โรคหัวใจ
      • โรคหืด
      • ไขมันในเลือดสูง/ผิดปกติ
      • ไตวาย
    • โรคตามระบบ
      • ระบบทางเดินอาหาร
      • โรคจากอุบัติเหตุ สารพิษ และสัตว์พิษ
      • โรคช่องปากและฟัน
      • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      • โรคติดเชื้อ
      • โรคผิวหนัง
      • โรคพยาธิ
      • โรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
      • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศชาย
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศหญิง
      • โรคระบบทางเดินปัสสาวะ
      • โรคระบบทางเดินหายใจ
      • โรคระบบประสาทและสมอง
      • โรคระบบไหลเวียนโลหิต
      • โรคหู ตา คอ จมูก
    • โรคจากการทำงาน
      • พิษภัยจากสารเคมี (ยาฆ่าเมลง/ สารตะกั่ว)
      • โรคจากฝุ่นและสารเคมีในโรงงาน
      • โรคจากสัตว์ เช่น ฉี่หนู
      • โรคจากอริยาบทที่ผิดสุขลักษณะ
      • โรคเส้นเอ็นอักเสบ/ นิ้วล็อค
  • อื่น ๆ

  • สนับสนุนสื่อสุขภาพออนไลน์หมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • คำแนะนำสำหรับประชาชน เรื่อง โรคจากเชื้อแบคทีเรีย อีโคไลชนิดรุนแรง
  • ผ่าตัดฟรีสำหรับเด็ก ที่เป็นโรคหัวใจ
  • สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย (สพท.)

แผนผังเว็บไซต์

  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ

รวมลิงค์เครือข่าย

  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • สถาบันโยคะวิชาการ

สื่อสุขภาพ

  • คลิปสุขภาพ
  • หมอชาวบ้านรายเดือน
  • คลินิกรายเดือน
  • จดหมายข่าวย้อนหลัง
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • twitter หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)< และสถาบัน ChangeFusion< พัฒนาระบบโดย Opendream< สัญญาอนุญาต cc by-nc-sa <