Skip to main content
ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
menu

Login Pop

  • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
search
  • เว็บหลักหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ
หน้าแรก » บทความสุขภาพน่ารู้ » การวัดความดันตา
  • ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

การวัดความดันตา

โพสโดย somsak เมื่อ 1 เมษายน 2549 00:00

ถาม  :   อยากทราบวิธีการใช้เครื่อง Schiotz วัดความดันตาที่ถูกต้อง.

                                                                                                                                                  สมาชิก

ตอบ  :  ความดันตามีหน่วยวัดเป็นมิลลิเมตรปรอท (mmHg) ซึ่งความดันตาปกติจะอยู่ระหว่าง 10-21 มิลลิเมตรปรอท ถ้าความดันตาสูงกว่าปกติบ่งชี้ว่าผู้ป่วยอาจเป็นโรคต้อหิน ส่วนความดันตาต่ำกว่าปกติพบได้ในโรคตาบางโรค เช่น ม่านตาอักเสบ จอประสาทตาหลุดลอก ลูกตาแตก เป็นต้น.

                                 


เครื่องมือวัดความดันตาสำหรับแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป ที่นิยมใช้คือ Schiotz tonometer (ภาพที่ 1) ซึ่งมีวิธีการวัดดังนี้ คือ

1. ก่อนจะใช้เครื่องมือ ควรจะทดสอบความเที่ยงตรงของเครื่องมือก่อน (calibration) โดยวางบน testing plate ซึ่งอยู่ในกล่องเครื่องมือเข็มวัดควรจะชี้ที่เลข 0 ซึ่งแสดงว่าเครื่องมือมีความเที่ยงตรง สามารถนำไปใช้วัดความดันตาได้ หากไม่ตรง 0 เมื่อนำไปวัดความดันตา ค่าที่วัดได้อาจคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง (ภาพที่ 2).


 

 

 

 

 

 

 

 

2. หยอดยาชาสำหรับหยอดตา (0.5% tetracaine hydrochloride หรือ 0.4% benoxinate  hydrochloride-Novesinา) ในตาผู้ป่วยก่อนวัด.

3. จัดท่าผู้ป่วยให้อยู่ในท่านอนหงาย โดยให้ผู้ป่วยจ้องตานิ่งไปที่เพดาน หรือให้ผู้ป่วยยกนิ้วหัวแม่มือด้านตรงข้ามกับตาข้างที่จะตรวจ เพื่อเป็นจุดให้ผู้ป่วยจ้อง.

4. ใส่ตุ้มน้ำหนักโดยมักเริ่มจากขนาด 5.5 กรัมบน Schiotz  tonometer  (ภาพที่ 3).

5. ใช้มือข้างที่ไม่ถนัด ค่อยๆ เปิดเปลือกตาของผู้ป่วย โดยปกติจะเริ่มวัดที่ตาข้างขวาของผู้ป่วยก่อน โดยระวังไม่ให้มือของผู้ตรวจกดตาของผู้ป่วย ซึ่งอาจจะทำให้ความดันตาเพิ่มขึ้นได้ ใช้มือข้างที่ถนัดจับ frame โดยให้เครื่องมืออยู่ระหว่างนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้โดยหันสเกลเครื่องมือเข้าด้านผู้ตรวจ เพื่อให้ง่ายต่อการอ่านค่า.

6. ค่อยๆ วาง footplate ลงบนกระจกตาของผู้ป่วย เมื่ออ่านค่าได้แล้ว ให้ยกเครื่องมือขึ้นตรงๆ ออกจากตาผู้ป่วย แล้วนำค่าที่อ่านได้ไปแปลงตามตาราง ตัวอย่างเช่น อ่าน scale ได้ 5 ขีด ใช้น้ำหนัก 5.5 กรัม แปลงค่าความดันตาได้เป็น 17.3 มม.ปรอท เขียนบันทึกความดันตา 17.3 มม.ปรอท/5.5 กรัม.

7. หากค่าที่อ่านได้น้อยกว่า 4 แสดงว่าความดันตาสูง ต้องเพิ่มตุ้มน้ำหนักทีละขั้น แล้วทำการตรวจวัดใหม่อีกครั้งจนกว่าจะได้ค่าอ่านที่มากกว่า 4 แล้วจึงนำค่าที่อ่านได้ไปแปลงตามตาราง.

8. ทำการวัดแบบเดียวกันกับตาข้างซ้าย.


ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ พ.บ., น.บ.,สาขาวิชาจักษุวิทยา, คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 

ป้ายคำ:
  • ถามตอบปัญหาสุขภาพ
  • คุยสุขภาพ
  • ถาม-ตอบผ่าน website
  • นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์
  • อ่าน 15,381 ครั้ง
  • พิมพ์หน้านี้พิมพ์หน้านี้
Skip to Top

คำถามสุขภาพ

  • ทั้งหมด
  • การแพทย์ทางเลือก
    • แพทย์แผนไทย
      • กดจุด
      • นวดไทย
    • แพทย์แผนจีน
  • ดูแลสุขภาพ
    • การดูแลผู้สูงอายุ
    • การปฐมพยาบาล
    • การรักษาเบื้องต้น
    • การใช้ยาสมุนไพร
    • คู่มือดูแลสุขภาพ
    • ยาและวิธีใช้
    • ตรวจสุขภาพด้วยตัวเอง
      • คำนวณค่า BMI
      • วินิจฉัยโรคเบื้องต้น
      • แนะนำการตรวจสุขภาพประจำปี
    • คุยสุขภาพ
      • กรณีศึกษา
      • ถามตอบปัญหาสุขภาพ
  • สุขภาพทางเพศและครอบครัว
    • การดูแลบุตร
    • แม่และเด็ก
    • การตั้งครรภ์
    • เรียนรู้เรื่องเพศและการวางแผนครอบครัว
  • สร้างเสริมสุขภาพ 3 อ. และป้องกันโรค
    • อาหาร
      • อาหาร 5 หมู่
      • อาหารของผู้่ป่วยโรคเรื้อรัง
        • ความดันสูง
        • หัวใจ
        • เกาต์
        • เบาหวาน
      • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
      • อาหารป้องกันมะเร็ง
      • อาหารสมุนไพร
    • ออกกำลังกาย
      • วิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แอร์โรบิค แอร์โรบอคซิ่ง รำกระบอง ไทเก็ก ชี่กง โยคะ
    • อารมณ์
      • การทำสมาธิ
      • การพักผ่อน
      • การพัฒนา EQ
      • จิตอาสา/ ฉือจี้
  • พฤติกรรมอันตราย
    • พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ
    • อนามัยสิ่งแวดล้อม
    • อิริยาบถ
  • โรคและอาการ
    • โรคเรื้อรัง
      • กลุ่มอาการเมตาโบลิค
      • ความดันโลหิตสูง
      • ถุงลมปอดโป่งพอง
      • มะเร็ง
      • อัมพฤกษ์ อัมพาต
      • เบาหวาน
      • โรคข้อ/เกาต์
      • โรคทางจิตเวช เครียด หวาดระแวง
      • โรคหวัด ภูมิแพ้
      • โรคหัวใจ
      • โรคหืด
      • ไขมันในเลือดสูง/ผิดปกติ
      • ไตวาย
    • โรคตามระบบ
      • ระบบทางเดินอาหาร
      • โรคจากอุบัติเหตุ สารพิษ และสัตว์พิษ
      • โรคช่องปากและฟัน
      • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      • โรคติดเชื้อ
      • โรคผิวหนัง
      • โรคพยาธิ
      • โรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
      • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศชาย
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศหญิง
      • โรคระบบทางเดินปัสสาวะ
      • โรคระบบทางเดินหายใจ
      • โรคระบบประสาทและสมอง
      • โรคระบบไหลเวียนโลหิต
      • โรคหู ตา คอ จมูก
    • โรคจากการทำงาน
      • พิษภัยจากสารเคมี (ยาฆ่าเมลง/ สารตะกั่ว)
      • โรคจากฝุ่นและสารเคมีในโรงงาน
      • โรคจากสัตว์ เช่น ฉี่หนู
      • โรคจากอริยาบทที่ผิดสุขลักษณะ
      • โรคเส้นเอ็นอักเสบ/ นิ้วล็อค
  • อื่น ๆ

  • สนับสนุนสื่อสุขภาพออนไลน์หมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • คำแนะนำสำหรับประชาชน เรื่อง โรคจากเชื้อแบคทีเรีย อีโคไลชนิดรุนแรง
  • ผ่าตัดฟรีสำหรับเด็ก ที่เป็นโรคหัวใจ
  • สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย (สพท.)

แผนผังเว็บไซต์

  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ

รวมลิงค์เครือข่าย

  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • สถาบันโยคะวิชาการ

สื่อสุขภาพ

  • คลิปสุขภาพ
  • หมอชาวบ้านรายเดือน
  • คลินิกรายเดือน
  • จดหมายข่าวย้อนหลัง
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • twitter หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)< และสถาบัน ChangeFusion< พัฒนาระบบโดย Opendream< สัญญาอนุญาต cc by-nc-sa <