• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ใบหน้าที่เกลี้ยงเกลา

นักดูลักษณะบนใบหน้า หรือหมอดูโหงวเฮ้งมักจะทักทายผู้ที่มีโหงวเฮ้งดีว่า ใบหน้าอิ่มเอิบ สีหน้าแดงสดใส ดวงตามีแววตา จมูกไม่งุ้มเหมือนเหยี่ยว ปากไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป และปิดได้สนิทเป็นเส้นตรง

ทั้งหมดที่กล่าวมาแล้ว ถ้าจะบอกว่าเป็นผู้ที่สุขภาพจิตดี ไม่กลุ้มใจ รูม่านตาจะเปิดกว้าง ทำให้แสงผ่านเข้าไปในดวงตาได้มากขึ้น จึงดูมีเสน่ห์กว่ารูม่านตาที่หรี่เล็กในกรณีที่เกิดความเศร้าหมองในใจ จมูกที่อากาศผ่านเข้าออกสะดวกย่อมไม่งุ้มถ้ามีการเสริมดั้งจมูกให้โด่งขึ้น อาจทำให้หายใจติดขัดคล้ายเป็นหวัดอยู่ตลอดเวลา ริมฝีปากที่พอดีแสดงถึงกล้ามเนื้อรอบปากที่ไม่ตึงรัดตัวเกินไปหรือหย่อนไป ทำให้ปิดได้สนิทเป็นเส้นตรง มุมปากไม่ถูกดึงขึ้น ในกรณีเกิดความโกรธหรือน้อยใจ และมุมปากไม่ถูกดึงลงในกรณีที่เศร้าใจเสียใจ

ดังนั้น ใบหน้าที่มีลักษณะโหงวเฮ้งดี คือ ใบหน้าของผู้มีสุขภาพแข็งแรงนั่นเอง
แต่มนุษย์เราดูจะไม่ค่อยชื่นชมกับใบหน้าของตนเองเท่าไรนัก โดยเฉพาะผู้หญิงวัยต่างๆ เริ่มต้นด้วยการเอาดินไปพอกให้ใบหน้าขาวผ่องขึ้น หรือผสมสีสันให้แดงบ้าง ส้มบ้าง เขียวบ้าง จนผิดจากลักษณะเดิมไป หรืออาจเรียกว่า ทำให้โหงวเฮ้งที่ดีเปลี่ยนไป ที่ร้ายแรงคือเป็นการทำลายผิวหน้าอันละเอียดอ่อน โดยการเอาดินไปอุดตามรูขนรูเหงื่อ ทำให้การระเหยของผิวหน้าไม่สะดวกเท่าที่ควร การระบายความร้อนออกจากส่วนล่างของผิวหน้าทำได้ยากขึ้น ผลที่ตามมาคือ ใบหน้าที่เย็นและอิ่มเอิบจากไขมันใต้ผิวหนังถูกเคลื่อนย้ายสลายตัวไปหมด เนื่องจากอุณหภูมิบนผิวหน้าสูงกว่าปกติมาก รูของต่อมน้ำมันเมื่อไหลออกไม่ได้ก็จะเกิดเป็นหัวสิว เม็ดสิว และถ้ามีเชื้อโรคเข้าไปปะปนด้วยจะกลายเป็นหนองหรือเป็นสิวหัวช้าง

การบีบสิวไม่ว่าด้วยมือที่สะอาดหรือไม่สะอาด ล้วนมีอันตรายอาจถึงแก่ชีวิตได้ กล่าวคือ หลอดเลือดดำบนใบหน้า จะไหลเข้าใต้สมองโดยตรงไม่มีลิ้นของหลอดเลือดดำกั้นอยู่อย่างเช่นหลอดเลือดดำของแขนขา ดังนั้น การบีบสิวจะทำให้เชื้อโรคส่วนหนึ่งลอยไปตามหลอดเลือดดำไหลเข้าสู่สมองทำให้เกิดเชื้อโรคที่สมองได้ มีผู้เสียชีวิตแล้วเพียงเพื่อบีบสิวเล่นเท่านั้น

แป้งที่ใช้ทำเครื่องสำอาง เนื่องจากทำมาจากดินจึงมีน้ำหนักมากจนดึงเอาความยืดหยุ่นของผิวหน้าเสียไป ผิวหนังจะกองลงมาที่คาง ใต้คาง ทำให้เกิดคางหลายชั้น เราคงเคยสังเกตเห็นผู้ที่ทาแป้งอยู่ทุกวัน หากวันไหนไม่ได้ทาแป้ง ผิวหน้านอกจากซีดเซียวเพราะไม่เคยสัมผัสกับแสงตามธรรมชาติ และการไหลเวียนไม่ดีแล้ว ยังพบรอยตีนกาและรอยย่นเต็มไปหมด ทำให้ต้องทาแป้งกลบเกลื่อนรอยต่างๆอีก เกิดเป็นวงจรชั่วร้าย และยิ่งทำให้เกิดรอยย่นมากขึ้น การทาแป้งหรือเครื่องสำอางเกือบทุกชนิดเสมือนหนึ่งเป็นการทำลายหน้าให้เสียไป ส่วนการทาดินสอพองเป็นครั้งคราว ย่อมไม่เกิดผลเสียและยังเป็นการพอกหน้าให้เต่งตึงได้อีก เพราะดินสอพองจะรัดตัวเข้าเมื่อแห้งลง

ใบหน้าซึ่งอยู่นอกการปกคลุมของเสื้อผ้าย่อมต้องเผชิญกับความสกปรกของฝุ่นละอองมากมาย ดังนั้น การล้างหน้าจึงมีความสำคัญมากในชีวิตประจำวัน การล้างหน้าอาจล้างด้วยน้ำสะอาด หรือฟอกด้วยสบู่ที่มีฤทธิ์อ่อนควรล้างหน้าด้วยผ้าขนหนูเพื่อจะขัดถูผิวหน้าได้ง่าย และหลีกเลี่ยงความสกปรกของนิ้วมือ เล็บมือ

สำหรับผู้ที่ไม่ได้ทาแป้ง หรือเครื่องสำอาง ไม่จำเป็นต้องใช้ครีมล้างหน้าอย่างที่โฆษณาในโทรทัศน์หรือนิตยสารต่างๆ ทั้งนี้เพราะครีมล้างหน้าประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อทำให้สารเคมีของเครื่องสำอางถูกละลายได้ง่ายขึ้น การใช้ครีมล้างหน้ายังอาจทำให้ผิวหนังเกิดอาการแพ้ได้ เช่นเดียวกับเครื่องสำอางทุกชนิด เนื่องจากเป็นสารเคมีที่ระคายเคืองต่อร่างกายได้ง่าย

การที่มีฝ้าบนใบหน้ามีสาเหตุมากมาย ทั้งจากแสงแดดและระบบฮอร์โมนภายในร่างกาย การใส่หมวกกันแดด หรือหลีกเลี่ยงแสงแดดที่มาจากท้องฟ้า และที่สะท้อนขึ้นจากพื้นดิน หรือกำแพงอาจหลีกเลี่ยงความเป็นฝ้าได้ หรือควรจะมีการตรวจสอบระบบฮอร์โมนของร่างกายว่าปกติหรือไม่ การใช้ครีมกัดให้หน้าขาวไม่ว่าด้วยสารปรอทหรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ล้วนทำให้เกิดอันตรายได้ ไม่เพียงแต่ผิวหน้า แต่อาจทำให้กระทบกระเทือนถูกลูกตา เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงบนใบหน้า และสารปรอทยังทำให้เกิดโรคอัมพาตตามปลายมือปลายเท้าได้

ดังนั้น ใบหน้าที่เกลี้ยงเกลาปราศจากสิวฝ้าจึงเป็นใบหน้าที่สะอาดปราศจากเครื่องสำอาง

 

ข้อมูลสื่อ

97-019
นิตยสารหมอชาวบ้าน 97
พฤษภาคม 2530
บุคลิกภาพ
รศ.ประโยชน์ บุญสินสุข