• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

พยาธิดูดเลือด

พยาธิดูดเลือด

ในครั้งที่แล้ว เราได้เล่าสู่ให้ท่านฟังถึงเรื่องพยาธิไส้เดือนกลม มาครั้งนี้ ก็จะขอคุยเรื่องพยาธิไส้เดือนกลมอีกชนิดหนึ่งให้ท่านๆ ได้ทราบกัน เจ้าพยาธิที่จะกล่าวต่อไปนี้ก็คือ “พยาธิปากขอ” หรือ ถ้าเรียกกันให้ดุเดือดหน่อยก็ว่า “พยาธิดูดเลือด” เพราะเจ้าพยาธิชนิดนี้ถึงแม้จะมีขนาดเท่าด้ายเข็มเย็บผ้า ยาวแค่ 1 เซนติเมตร แต่ฟันของมันมีลักษณะคล้ายขอสับเกาะผนังลำไส้ไว้แล้วดูดเลือดที่บริเวณลำไส้เล็กกินเป็นอาหาร หนอนพยาธิปากขอนี้จะปนออกมากับอุจจาระ ซึ่งถ้าเพ่งดูให้ดีแล้วจึงจะสามารถมองเห็นมันได้ โรคหนอนพยาธิปากขอนี้จะพบได้ในบริเวณอากาศชุ่มชื้น อบอุ่น และเป็นบริเวณที่ชาวบ้านไม่นิยมการอุจจาระลงในส้วม

ลักษณะประจำตัวของพยาธิปากขอ

1. พยาธิปากขอจะมีรูปร่างขนาดเล็ก ลำตัวยาวเรียว

2. มันจะอยู่ในร่างกายคนเราได้นานประมาณ 6-8 ปี โดยจะอาศัยอยู่บนบริเวณลำไส้เล็ก และจะเกาะติดอยู่กับผนังลำไส้ ดูดเลือดกินเป็นอาหาร

3. พยาธิปากขอตัวเมีย เมื่อผสมพันธุ์กับพยาธิปากขอตัวผู้แล้ว จะออกไข่ปนออกมากับอุจจาระ ถึงประมาณวันละ 10,000-20,000 ฟอง

4. ไข่ของพยาธิปากขอจะต้องอาศัยการฟักตัวเป็นตัวอ่อนในดินบริเวณที่อุณหภูมิความร้อนพอเหมาะเสียก่อน โดยใช้ระยะเวลาการฟักตัวประมาณ 7 วัน จึงจะเป็นระยะติดต่อสู่คนได้

วิถีทางที่เข้าสู่ร่างกายของคนเรา

พยาธิปากขอตัวเมียจะออกไข่ปนออกมากับอุจจาระ คนที่ไม่ชอบอุจจาระลงส้วมประจำทุกครั้ง ไข่ของพยาธิก็จะตกอยู่ตามพื้นดิน ตัวอ่อนของพยาธิก็จะฟักตัวออกจากไข่และเจริญเติบโต จนถึงระยะที่ติดต่อเข้าร่างกายได้

ในระยะนี้ มันจะไชเข้าร่างกายคนเราทางผิวหนังของร่างกายที่อ่อนนุ่ม เช่น ตามง่ามนิ้วมือนิ้วเท้าเข้าไปตามกระแสเลือด ผ่านไปยังตับ หัวใจ ปอด และไชทะลุเส้นเลือดฝอยของปอดเข้าสู่ถุงลมในปอดไปยังหลอดอาหารที่บริเวณลำคอ แล้วถูกกลืนลงในกระเพาะอาหาร ไปเจริญเติบโตเป็นพยาธิในลำไส้ของคน พยาธิปากขอนี้สามารถอยู่ในร่างกายของคนเราได้ตั้งแต่ 1 ตัว จนกระทั่งถึง 1,000 ตัวขึ้นไปก็มี

อันตรายเด่นชัดของพยาธิปากขอ

1. เกิดตุ่มใสๆ มีน้ำเหลืองอยู่ภายในตรงบริเวณที่ตัวอ่อนของพยาธิปากขอเข้าสู่ร่างกายตามง่ามนิ้วมือนิ้วเท้า และทำให้เกิดอาการคันอย่างรุนแรงตรงบริเวณนั้น และตุ่มใสๆ นี้ อาจจะแตกออกทำให้มีอาการเป็นฝีหนองขึ้นมาได้

2. ร่างกายคนที่เป็นโรคพยาธิปากขอจะเสียเลือดไปทุกวัน ทั้งนี้เพราะพยาธิปากขออยู่ในลำให้ของคนเรา มันจะดูดเลือดออกจากลำไส้ทุกวัน คิดแล้วเดือนละไม่น้อยกว่า 6 ช้อนโต๊ะ ดังนั้นคนที่มีพยาธิปากขออยู่ในร่างกายแล้วมีการกินอยู่ที่ไม่ดี ร่างกายก็จะซูบซีดลง ผอมแห้งแรงน้อยและถ้าหากเป็นกับเด็กก็จะทำให้เด็กมีการเจริญเติบโตที่ไม่ดี อาจจะทำให้เกิดการพิการได้ในที่สุด

อาการภายนอกที่แสดงให้เห็นว่ามีพยาธิปากขอ

คนที่มีพยาธิปากขออยู่ในร่างกายตั้งแต่ 50 ตัวขึ้นไปและมีการกินอยู่ที่ไม่ดี ร่างกายจะซูบซีดลง ผนังตาด้านล่างจะซีดขาว ร่างกายหมดเรี่ยวแรง สมองทึบ ถ้าหากมีมากถึงพันๆ ตัว ก็จะทำให้ป่วยเป็นโรคอื่นได้ เช่น โรคโลหิตจาง ทำให้ถึงแก่ความตายได้

วิธีป้องกัน

1. ต้องถ่ายอุจจาระลงในส้วมเป็นประจำทุกครั้ง หรือขุดหลุมฝังให้ลึก

2. สวมรองเท้าทุกครั้งก่อนลงจากบ้าน

3. ตรวจอุจจาระเป็นประจำทุกปี อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อจะได้ทำการรักษา

4. กินยาถ่ายพยาธิปากขอจากเจ้าหน้าที่พยาธิหรืออาสาสมัครวางแผนครอบครัวชุมชนเป็นประจำทุกปี เพื่อที่จะได้ทำการฆ่าตัวหนอนพยาธิปากขอที่มีอยู่ในร่างกายให้หมดสิ้นไป

“ลูกมากจะยากจน มีลูก 2 คน อย่าให้เป็นพยาธิ”

ข้อมูลสื่อ

6-018
นิตยสารหมอชาวบ้าน 6
ตุลาคม 2522
อื่น ๆ
มีชัย วีระไวทยะ