เลือด
เลือดเป็นส่วนหนึ่งของระบบไหลเวียนโลหิต ทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ นำของเสียที่เกิดจากขบวนการเผาผลาญอาหารไปทิ้ง ขจัดสิ่งแปลกปลอมรวมทั้งเชื้อโรคที่เข้ารุกรานลำเลียงฮอร์โมนจากต่อมผลิตไปยังอวัยวะเป้าหมาย นอกจากนี้ยังช่วยรักษาอุณหภูมิร่างกายให้คงที่อีกด้วย ร่างกายคน (ผู้ใหญ่) มีเลือดประมาณ 5 ลิตร
เลือดประกอบด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วน คือ น้ำเลือด (plasma) และเม็ดเลือด
⇒ น้ำเลือด
น้ำเลือดเป็นน้ำใสๆ สีเหลืองอ่อน ประกอบด้วยน้ำเป็นส่วนใหญ่ (90-95%) นอกนั้นเป็นสารอินทรีย์ที่สำคัญต่อร่างกาย ได้แก่ วิตามิน เกลือแร่ น้ำตาล ไขมัน และโปรตีนชนิดต่างๆ โดยบางชนิดทำหน้าที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดเวลาเกิดบาดแผล (ได้แก่ไฟบริโนเจน และโปรธอมบิน)
⇒ เม็ดเลือด
เม็ดเลือดเป็นเซลล์ที่อยู่ในน้ำเลือด มีอยู่ประมาณร้อยละ 45 ของปริมาณเลือดทั้งหมด มีอยู่ 3 ชนิด คือ เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด
⇒เม็ดเลือดแดง (erythrocyte) เมื่อตอนอยู่ในครรภ์ เม็ดเลือดแดงสร้างที่ตับ ม้าม ต่อมน้ำเหลือง และไขกระดูก ต่อมาหลังคลอดไม่กี่สัปดาห์ไขกระดูกเพียงอย่างเดียวที่ทำหน้าที่สร้าง มีอายุประมาณ 120 วัน แล้วตาย โดยถูกทำลายที่ตับ ม้าม ไขกระดูก การที่เม็ดเลือดมีสีแดงเป็นเพราะมีเฮโมโกลบินเป็นองค์ประกอบสำคัญ จึงทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปให้เซลล์ทั่วร่างกาย
⇒เม็ดเลือดขาว มีอยู่หลายชนิด ทั้งเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือดพัฒนามาจากเซลล์ต้นตอชนิดเดียวกัน เรียกสเท็มเซลล์ (stem cell)
เม็ดเลือดขาวแบ่งออกเป็น 5 ชนิด ทุกชนิดมีนิวเคลียส แต่ไม่มีเฮโมโกลบิน ได้แก่
นิวโทรฟิล สร้างจากไขกระดูกมีหน้าที่ทำลายแบคทีเรีย
อีโอซิโนฟิล สร้างจากไขกระดูก มีบทบาทในการทำให้เกิดการแพ้
เบโซฟิล สร้างจากไขกระดูก ทำหน้าที่ผลิตสารป้องกันการแข็งตัวของเลือดขณะไหลเวียนในร่างกาย
โมโนไซท์ เป็นเม็ดเลือดขาวขนาดใหญ่ที่สุด สร้างจากไขกระดูก ทำหน้าที่ทำลายแบคทีเรีย
ลิมโฟไซท์ สร้างมาจากต่อมน้ำเหลือง ม้าม ต่อมทอนซิล มีบทบาทสำคัญในระบบภูมิคุ้มกัน ทำหน้าที่สร้างสารต่อต้านสิ่งแปลกปลอม (antibody)
⇒เกล็ดเลือด (platelete) มีลักษณะไม่แน่นอน ขนาดเล็กมาก มีหน้าที่ช่วยให้เลือดแข็งตัวจับเป็นก้อนในขณะมีบาดแผล
- อ่าน 2,913 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้