• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ตอนที่ 2 ( จริยธรรม และ คุณธรรม )

ตอนที่ 2 ( จริยธรรม และ คุณธรรม )

 

       


เมื่อตอนเริ่มเกริ่นรายการครั้งแรกก็ได้แนะวิธีการเกี่ยวกับการฝึกนิ้วให้มีความแข็งแรงและมีพลังในการกดหรือจับเส้น ซึ่งก็ได้บอกวิธีการแล้วพอสังเขป
ผู้ที่จะฝึกพลังนิ้วจะต้องมีความอดทน พยายาม ไม่ย่อท้อ ซึ่งกรรมวิธีการต่างๆนั้น มีด้วยกันหลายอย่างเช่น การบีบขี้ผึ้ง การบีบคีบสปริง หรือการวิดฟื้น ซึ่งการบีบเทียนขี้ผึ้งกับการวิดพื้นเป็นวิธีการที่ดีมาก เพราะจะได้ทั้งกำลังนิ้วและกำลังข้อมือพร้อมๆกัน
                       
อีกวิธีหนึ่งก็คือ การยกน้ำหนักตัวเองโดยนั่งขัดสมาธิ แล้ววางมือลงข้างตัว ใช้ฝ่ามือยันพื้น แล้วหัดยกตัวเองให้พ้นพื้น ซึ่งการยกตัวเองในขั้นแรกจะยกตัวเองได้เพียงเวลาอันสั้นๆ ขอให้พยายามทำบ่อยๆ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น พยายามใช้ความอดทนทำทุกเช้า

เมื่อท่านฝึกนิ้วของท่านจนมีกำลังแข็งแรงพอแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นหมอนวดได้ การที่จะนวดคนให้ได้ผลดีจะต้องมีสมาธิหรือพลังจิต เพราะสมาธิหรือพลังจิตนั้นมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากำลังนิ้วหรือข้อมือ แต่นำมาประกอบในการรักษาเท่านั้น โดยการกดจุดที่จะนวดแล้วตั้งจิตให้มั่นไม่ลอกแลกหรือคิดสิ่งอื่นใด ทำจิตให้มั่นคงเพ่งตรงส่วนที่เรากดผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆ การเปลี่ยนหรือเลื่อนจุดกดต้องกระทำการด้วยความนิ่มนวล ไม่ฮวบฮาบหรือเร็วจนเกินไป และต้องไม่พูดคุยในระหว่างที่ทำการกดจุด หรือในระหว่างที่ทำการกดจุด หรือในระหว่างที่ทำการกดจุดอยู่นั้น ใจต้องคิดแต่เรื่องที่เรากำลังกดอยู่ อย่าได้คิดไปในทางอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการรักษา และที่สำคัญที่สุดของการเป็นหมอนวดไทยคือ อย่าได้มีความโลภ

ความโลภทำให้เสียคนมามากต่อมากแล้ว คนที่เป็นหมอนวดมีความรู้ทางด้านนี้แล้ว เปรียบเสมือนท่านมีสมบัติหมื่นตำลึงทองบางท่านอาจจะสงสัยว่า การเป็นหมอนวดสังคมไม่ค่อยจะยอมรับแล้วจะมีค่ามากมายได้อย่างไร หากเปรียบกับอาชีพอื่นๆแล้วเทียบกันไม่ได้เลย
จริงอยู่การนวดนั้นจะไปตั้งราคาค่านวดเท่าโน้นเท่านี้ไม่ได้ สุดแท้แต่จะได้รับเป็นค่าครู แต่การนวดนั้นเป็นสมบัติติดตัวที่ไม่มีใครสามารถจะมาขโมยหรือแอบนำไปใช้ได้ เปรียบเสมือนกับน้ำซึมในบ่อทราย ฉะนั้น ผู้ที่จะเป็นหมอนวดเส้นทั้งหลายจงภูมิใจในตัวเองและภูมิใจในอาชีพ
หมอนวดไทยของเรายึดถือในเรื่องคุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลักใหญ่ 2 ประการคือ สิ่งควรละเว้น และสิ่งควรประพฤติปฏิบัติโดยหลักการแล้วไม่ว่าหมอแผนใด (ปัจจุบัน, โบราณ) ต้องมีคุณธรรม และจริยธรรมเหมือนกัน แต่อาจแตกต่างกันไปบ้างในส่วนปลีกย่อย

จรรยาแพทย์ของแพทย์โบราณที่เคยได้มีผู้บันทึกไว้มากมายหลายประการ ซึ่งนายแพทย์กรุงไกร เจนพาณิชย์ได้รวบรวมและตีพิมพ์ในหนังสือ “คู่มือการนวดไทย” มีดังนี้

1. ไม่คุยโอ้อวดความรู้ ไม่ว่าจะมีในตนหรือไม่มีก็ตาม ข้อนี้กินความไปถึงโฆษณาโฆษณาให้คนเชื่อถือ หมอที่ดีจะดังเอง จากคำบอกเล่าของคนไข้แบบปากต่อปากนั่นเอง

2. ไม่ใช้อุบายหลอกลวงคนไข้ด้วยประการต่างๆ เพื่อเห็นแก่อามิสสินจ้าง และชื่อเสียง

3. ไม่ยกตนข่มท่าน ยกย่องตนเองแล้วข่มคนอื่น ทำให้เกิดการแตกสามัคคี เข้าทำนอง “ลูกศิษย์คิดล้างครู”

4. ไม่กระทำการลวนลามคนไข้สตรี หรือญาติคนไข้ ไม่ว่าทางกาย วาจา หรือแม้ทางใจ

5. ไม่หมกมุ่น หรือมัวเมาในอบายมุขทั้งปวง

6. มีความอ่อนน้อมถ่อมตน โดยคำนึงถึงคุณวุฒิ วัยวุฒิ และชาติวุฒิ ไม่ว่าจะเป็นคนร่วมอาชีพ คนไข้ หรือบุคคลอื่นใดก็ตาม

7. มีสติสัมปชัญญะ และขยันขันแข็งในการศึกษาศิลปวิทยาที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์แผนเดิม

8. รักษาความลับของคนไข้อย่างเคร่งครัด

9. มีพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา เป็นที่ตั้ง รักษาคนจน คนมี ด้วยจิตเสมอกัน ไม่ลำเอียงด้วยอคติ 4 คือ ลำเอียงด้วยความรัก ความโกรธ ความกลัว และความหลง (โง่)

10. ไม่หวั่นไหวต่อโลกธรรม 8 คือ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา และทุกข์

11. มีความกตัญญูกตเวทีต่อบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ สถานศึกษาอย่างมากและอย่างสม่ำเสมอ

12. กระทำการนวดรักษาเพื่อการกุศลเป็นหลัก โดยยึดหลัก “เอาใจเขามาใส่ใจเรา”

13. ห้ามนวดในสถานที่อโคจร ได้แก่ ในโรงพยาบาล (เป็นการรักษาซ้ำซ้อน) โรงแรม โรงอาบอบนวด โรงน้ำชา แต่จะนวดที่บ้านของหมอนวดเอง หรือที่บ้านของคนไข้เท่านั้น

เมื่อเราได้ฝึกพลังนิ้ว ข้อมือ และสมาธิจิตได้ดีพอแล้ว ก็มาศึกษาดูว่าในร่างกายของคนเรานั้นเป็นอย่างไร มีส่วนประกอบอะไรบ้าง การนวดนั้นต้องคำนึงถึงว่าจะนวดส่วนใด ปกติการนวดมักจะนวดกดลงบนเส้นหรือบนกล้ามเนื้อ บางครั้งอาจจะกดลงบนเส้นเลือดใหญ่ด้วย จุดที่เป็นเส้นประสาทจะไม่ทำการกด บางครั้งใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นๆประคบตรงบริเวณที่เป็นเส้นประสาท กระดูกส่วนต่างๆ จะไม่นวดหรือกด
การกดที่จุดเส้นหรือกล้ามเนื้อนั้น มักจะนิยมกดหรือนวดกัน ซึ่งการกดนั้นจะต้องกดให้หนักแต่พอมือ มิใช่มีกำลังเท่าใดโหมกดลงไปเท่านั้น การกระทำเช่นนั้นอาจจะทำให้เส้นหรือกล้ามเนื้ออักเสบหรือฉีกขาดได้



การกดเส้นหรือกล้ามเนื้อจะต้องกดพอแรง มือต้องนิ่ง ค่อยๆกดลงไปแล้วนิ่งค้างไว้ประมาณ 10 วินาที แล้วคลึงค่อยๆยกมือขึ้น เพื่อเลื่อนตำแหน่งกดจุดต่อไป
เส้นเลือดใหญ่มีอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย ซึ่งการกดจุดบนเส้นเลือดแดงนั้น จะกดได้แต่ต้องไม่เกิน 30-45 วินาที เพราะถ้ากดจุดเส้นเลือดแดงนานกว่า 45 วินาทีแล้ว จะทำให้เกิดอาการชาตามส่วนปลายของหลอดเลือดได้ เนื่องจากเส้นประสาทขาดเลือดไปเลี้ยง การนวดมีผลโดยตรงต่อหลอดเลือด เพราะจะทำให้หลอดเลือดคลายตัวหรือหดตัวได้ การคลายตัวหรือหดตัวของเส้นเลือดเป็นการเพิ่มการไหลเวียนไปยังส่วนที่ต้องการ

การปิด เปิดประตูลม เป็นวิธีการที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งเป็นการกดให้เลือดในหลอดเลือดแดงหยุดไหลชั่วคราว เช่นเดียวกับเวลาวัดความดัน เมื่อปล่อยแรงที่กด เลือดจะพุ่งไปเลี้ยงส่วนต่างๆอย่างรวดเร็วและแรง ผู้ถูกกดจะรู้สึกร้อนในบริเวณที่กดและบริเวณใกล้เคียง
การนวดมีส่วนช่วยให้การไหลกลับของหลอดเลือดดำดีขึ้น โดยมีทิศทางการนวดเข้าสู่หัวใจ ซึ่งจะเป็นการไล่เลือดดำไหลกลับเข้าสู่หัวใจได้มากขึ้น การนวดควรยกแขนหรือขาให้สูงกว่าระดับหัวใจ แขนให้นวดไปที่บริเวณรักแร้ ขาให้นวดไปที่บริเวณขาหนีบ ดังจะยกตัวอย่างง่ายๆที่พบเห็นกันมากในปัจจุบัน กรณีที่มีอาการบวมน้ำโดยไม่มีบาดแผลที่ผิวหนัง

การคั่งของเลือดที่อยู่ตามปลายขา และน่องในผู้ป่วยที่นอนนานๆ กรณีมีเส้นเลือดขอด ซึ่งเกิดจากลิ้นในหลอดเลือดดำ ถูกเลือดที่คั่งอยู่นานยืดจนเสียหน้าที่ไป ผนังหลอดเลือดโป่งขดเป็นปมหรือเป็นก้อน การนวดช่วยได้โดยการนวดด้วยวิธีลูบหนักๆไปตามทิศทางการไหลของเลือดสู่หัวใจ ยกขาสูงและพันผ้ายืดตั้งแต่ปลายเท้าไปถึงข้อพับเข่า หรือใส่ถุงน่องที่มียางรัด
นอกจากผู้ทำการนวดจำเป็นต้องรู้ถึงส่วนต่างๆบางส่วนของร่างกายแล้ว ยังจะต้องรู้ข้อควรระวังเกี่ยวกับวิธีการนวดในส่วนต่างๆของร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า

ฉบับหน้าเราจะมาว่ากันถึงเรื่องนี้อย่างละเอียดต่อไป
(โปรดอ่านต่อฉบับหน้า)

ข้อมูลสื่อ

89-009
นิตยสารหมอชาวบ้าน 89
กันยายน 2529
นวดไทย
บุญเทียม ตันติ์เตชรัตน์