• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ปรัชญา...แห่งการร่วม "รัก"

ไม่ว่าคุณจะเรียกว่าอะไร เซ็กซ์ กามารมณ์ ร่วมเพศ ทำรัก ฯลฯ หรืออาจมีมากกว่าคำที่กล่าวมาก็ตาม กิจกรรมแห่งความรัก ความพิศวาสที่เกิดจากธรรมชาติเรียกร้องให้นั้น คำที่เหมาะสมที่สุดน่าจะเป็นคำว่า...ร่วมรัก

เพราะเป็น "การร่วมมือกันด้วยความรัก" เป็นการตอบสนองทางกายด้วยความรัก และถ่ายทอดความรักด้วยการเคลื่อนไหวทางกาย ถ่ายทอดสัมผัสรักให้แก่กันผ่านอวัยวะที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และมีเส้นประสาทมาหล่อเลี้ยงมากที่สุดซึ่งก็คือ "ผิวหนัง" นั่นเอง

ความสุขสมที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสอดประสานตามจังหวะของบทเพลงพิศวาสดังกล่าว ทำให้เป็นสายใยแห่งความผูกพันที่มองไม่เห็นซึ่งจะยึดเหนี่ยวคน 2 คนที่รักกันให้แน่ใจว่า...เรายังคงรักกันอยู่

เพราะเราคงยังร่วมรักกันอย่างมีความสุข
จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า คู่ครองที่ยังคงมีกิจกรรมร่วมรักกันอย่างสุขสม และสม่ำเสมออย่างมีความสุขร่วมกันแล้ว เรื่องใหญ่ก็กลายเป็นเรื่องเล็ก และเรื่องเล็กก็กลายเป็นไม่มีเรื่อง

ซึ่งต่างจากคู่ครองที่เบื่อหน่ายที่จะร่วมรักกันไม่ว่าจะเกิดจากเหตุผลใดก็ตาม ปัญหาครอบครัวก็มักจะเกิดขึ้นและนำไปสู่การไม่เข้าใจกัน ทะเลาะเบาะแว้งกัน โกรธเคืองกันจนถึงขั้นเกลียดกันขนาดไม่มองหน้ากันก็มี เรื่องไม่เป็นเรื่องก็กลายเป็นเรื่อง เรื่องเล็กก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่ก็กลายเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย

ถ้าเราเข้าใจปรัชญาแห่งการร่วมรักอย่างเป็นสุข... ทุกอย่างก็ราบรื่น
ผู้หญิงเกิดมาเพื่อต้องการความรัก และปรารถนา อย่างแรงกล้าที่จะเป็นมารดาที่รักของบุตร เป็นภรรยาที่รักของสามี อยากมีสามีที่รัก ซื่อสัตย์และมั่นคงตลอดไป อยากมีลูกที่รักและกตัญญูต่อเธอ เชื่อฟังเธอ และในความรักฉันคู่ครองนั้น เธออยากได้ชายคนนั้น ที่เข้าใจเธอ รักเธอมั่นคงจริงใจ ดูแลอุปการะเธอให้มีความสุข ความรักของผู้หญิงส่วนใหญ่จึงเป็นความรักในจินตนาการ ที่ยากจะจับต้องได้ ซึ่งต้องอาศัยอารมณ์ และความรู้สึกที่อ่อนไหวจึงจะลึกซึ้งถึงสัมผัสรักดังกล่าวของเธอ

ส่วนผู้ชายเกิดมาเพื่อที่จะบอกรัก อยากจะเป็นบิดาของบุตร อยากจะเผยแพร่การเจริญพันธุ์ตามธรรมชาติและตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากธรรมชาติ ให้เป็นผู้เผยแพร่เผ่าพันธุ์ ผู้ชายจึงบอกรักผ่านทางการร่วมรักหรือมีเซ็กซ์โดยไม่รู้ตัว

ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้ชายเป็นทาสของธรรมชาติ
เป็นผู้รับใช้ธรรมชาติ...เพื่อการดำรงคงอยู่ของเผ่าพันธุ์มนุษยชาติ
และธรรมชาติตอบแทนผู้ชาย...โดยให้เขามีความสุขสุดยอดทุกครั้งที่ได้หลั่งน้ำอสุจิเพื่อการเจริญพันธุ์ออกไป

ผู้ชายเกือบทุกคนจึงแสวงหาความสุขตามประสาปุถุชน...ด้วยการพยายามที่จะหาใครสักคนมาร่วมรัก ด้วยแรงผลักดันของฮอร์โมนเพศชาย ที่เป็นฮอร์โมนแห่งการเจริญพันธุ์ และเขาจะกลายเป็นคนอ่อนโยน น่ารักทุกครั้ง หลังจากได้ร่วมรักอย่างสุขสมกับคู่ของเขา

ในขณะที่เวลาที่เขาไม่ได้ร่วมรัก...ฮอร์โมนเพศชายที่คั่งอยู่ในตัวของเขาจะทำให้เขาเกิดความก้าวร้าวรุนแรง จนถึงขั้นอาจจะทำร้ายคู่ครองได้...

แต่ผู้หญิงต้องการความรักก่อนที่จะมีเซ็กซ์!!!
ในขณะที่ผู้ชายมีเซ็กซ์อย่างสุขสม...แล้วจะเกิดความรักเพิ่มพูนขึ้น
ผู้ชายจึงมาจากดาวอังคาร...ส่วนผู้หญิงมาจากดาวพระศุกร์

การพยายามพบกันครึ่งทางเพื่อที่จะทำให้ความรัก และกามารมณ์ประสานสอดคล้องกันจนสัมผัสได้ จึงเป็นแนวทางและปรัชญาที่สาวหนุ่มทั้งหลายจะต้องพยายามให้ได้ เพื่อทำให้สัมพันธ์รักทั้งของเขาและเธอราบรื่นและสุขสม

...เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่จะต้องเรียนรู้ในการประสานสัมพันธ์รักด้วยกายและใจ
...แน่นอนว่าการร่วมรักนั้นย่อมมีท่วงท่าลีลารักที่หลากหลาย

ผู้หญิงเป็นพวกอนุรักษ์นิยม เคยมีความสุขในรูปแบบใดก็ยึดติดกับรูปแบบนั้น
เคยช่วยตัวเองให้มีความสุขแบบไหน ก็อยากให้ร่วมรักให้มีความสุขแบบนั้น

เคยร่วมรักกันในท่าไหน ก็อยากร่วมรักกันในท่านั้นตลอดไป ไม่อยากเปลี่ยนแปลง ผู้ชายเป็นพวกหัวก้าวหน้า ชอบลองของใหม่ ไม่ชอบยึดติดกับรูปแบบเดิมๆ อยากมีความสุขในหลายรูปแบบและชอบเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

และที่น่าแปลกในผู้ชายนั้นพอมีคู่แล้ว...ไม่ยอมช่วยตัวเอง
ชอบใช้ของจริงเป็นประจำ...แม้ว่าบางครั้งของจริง จะไม่ว่างหรือไม่พร้อม

การหาทางพบกันครึ่งทาง...ก็เป็นศาสตร์และศิลป์ ที่คู่ครองทั้งหลายจะต้องเรียนรู้เช่นกัน มิฉะนั้นการร่วมรักก็จะกลายเป็นการทำการบ้านที่แสนจะน่าเบื่อหน่าย

เมื่อรู้แบบนี้แล้วคุยกันบ้าง คุยกันอย่างคู่รัก คุยกันฉันมิตร มีความเมตตาอยากให้คู่มีความสุข มีความกรุณาอยากให้คู่พ้นทุกข์ และคุยกันถึงหนทางที่จะมอบรักให้แก่กันผ่านทางการร่วมรักอย่างสุขสม และจำไว้เสมอว่า...คุณภาพนั้นสำคัญกว่าปริมาณ

ที่จริงแล้ว...การร่วมรักจึงไม่ได้เกิดขึ้นบนเตียง!!!
...เหมือนที่เคยคิดกัน และชอบคิดกัน

แต่การร่วมรักนั้นเกิดขึ้นได้ทุกขณะชีวิตที่สอง คนได้ใช้ชีวิตร่วมกัน การสัมผัสกายของกันและกัน การบอกรักแก่กันผ่านภาษาพูดและภาษากายที่กระทำต่อกัน...ก็เป็นการร่วมรักเช่นกัน
 

ข้อมูลสื่อ

353-020
นิตยสารหมอชาวบ้าน 353
กันยายน 2551
นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์