• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

วิธีการคูณธาตุของแพทย์แผนโบราณ

วิธีการคูณธาตุของแพทย์แผนโบราณ

“หมอชาวบ้าน “ ฉบับที่ 40 ได้ลงเรื่องยาประจำธาตุเพื่อปรุงให้คนกินปรับปรุงธาตุในร่างกายให้เป็นปกติ ธาตุในร่างกายแข็งแรง ระบบต่างๆในร่างกายจะสมบูรณ์ขึ้น
พร้อมกับได้กล่าวถึงตัวยาประจำธาตุมี 4 อย่างคือ
1. ดอกดีปลี             ประจำ ธาตุดิน
2.รากชะพลู           
 ประจำ ธาตุน้ำ
3.เถาสะค้าน            
ประจำ ธาตุลม
4.รากเจตมูลเพลิง
ประจำ ธาตุไฟ
5.เหง้าขิงแห้ง
         ประจำ อากาศธาตุ

ได้มีผู้อ่านสนใจถามว่า วิธีการคูณธาตุของแพทย์แผนโบราณ เป็นอย่างไร และใช้เมื่อไหร่
ผู้เขียนจึงอธิบายให้ทราบดังนี้
การคูณธาตุนั้น คูณเพื่อทำยาธาตุ ที่ใช้ในการรักษาโรคเรื้อรังต่างๆที่ไม่ใช่โรคติดต่อ หรือโรคร้ายแรง เป็นโรคที่จับต้นชนปลายไม่ถูก ชนิดที่เรียกว่า อาการ32 แปรปรวนไปหมด ทางแพทย์แผนโบราณก็ให้คูณธาตุกินก่อน หรือให้กินควบคู่ไปกับยารักษาโรคอื่นๆก็ได้
มีคนป่วยบางคนท้องขึ้นเป็นประจำ และบางคนท้องเสียไม่รู้จักหายเพียงกินยาคูณธาตุนี้อย่างเดียวก็หายเป็นปกติได้ จึงนับได้ว่ามีประโยชน์
วิธียาคูณธาตุนี้ มีมายมายหลายวิธีด้วยกัน แต่ต้องใช้ตัวยามากเป็นการหมดเปลืองโดยไม่จำเป็น ที่จะกล่าวนี้เป็นวิธีง่ายๆและสะดวกทั้งตัวยาก็ไม่มากไม่น้อยเกินกว่าวิธีอื่น และราคาก็ไม่แพง เป็นการประหยัดไปในตัว


การคูณธาตุ
ให้ถามคนไข้ว่าเกิดวันที่หรือแรมกี่ค่ำ เดือนอะไร ปีอะไร
สมมุติ เกิดวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2475 วันที่หมอถามคนไข้เป็นวันที่ 1 มกราคม 2526 และคนทั่วไปนับถึงอายุปัจจุบันจะเป็น 51 ปี ( คือจาก 2547 -2526 )
ส่วนโหรคิดเต็มเดือนและเต็มปีดังนี้
1 มิถุนายน 2475 เทียบเป็นไทยก็แรม 13 ค่ำ เดือน 6 ปี วอก ( พ.ศ. 2475 ) เมื่อนับแรม 13 ค่ำเดือน 6 ปีวอก ( พ.ศ. 2475 ) ถึง แรม 13 ค่ำ เดือน 6 ปีจอ ( พ.ศ. 2525 )จะได้ระยะห่าง 49 ปีเต็ม
สมมุติว่าวันที่ 1 มกราคม 2526 (วันที่ถามคนไข้ ) เทียบเป็นไทยก็ได้ แรม 3 ค่ำเดือน 3 ปีกุล ( พ.ศ. 2526 ) เมื่อนับแรม 13 ค่ำ เดือน 6 ปีจอ ( พ.ศ.2525 ) ถึงแรม 3 ค่ำ เดือน 2 ปีกุน ( พ.ศ. 2526 ) จะได้ระยะห่างเวลาประมาณ 8 เดือน คิดเป็นไทยก็จะได้ 48 ปี 8 เดือน จัดได้ว่าอายุ 50 ปี


วิธีคูณธาตุ
ท่านให้ตั้งอายุปีปัจจุบัน คือ 50 ปี เอา 5 ( กองธาตุ 5 กอง ) คูณอายุ เท่ากับ 50 คูณ 5 ได้ 250
หลังจากนั้นก็ต้องมาทราบว่าธาตุแต่ละธาตุมีกำลังประจำธาตุดังนี้ ดิน 20 , น้ำ 12 , ลม 6 , ไฟ 4 , อากาศ 10 ให้เอากำลังประจำธาตุดิน ( 20 ) บวกกับผลลัพท์อายุที่คูณด้วยกองธาตุ ( 250 ) จะได้ธาตุดิน 20 บวก 250 ได้ 270 สำหรับธาตุน้ำ ลม ไฟ อากาศ ให้เอาผลลัพท์จากธาตุดิน ( 270 ) บวกกับธาตุในแต่ละธาตุ
ธาตุน้ำ 12 บวก 270 ได้ 282
ธาตุลม 6 บวก 270 ได้ 276
ธาตุไฟ 4 บวก 270 ได้ 274
อากาศธาตุ 10 บวก 270 ได้ 280

ให้เอา 4 หารผลลัพท์ที่ได้ในแต่ละธาตุ
ธาตุดิน 270 หาร 4 ได้ 67 เศษ 2
ธาตุน้ำ 282 หาร 4 ได้ 70 เศษ 2
ธาตุลม 276 หาร 4 ได้ 69 เศษ 0
ธาตุไฟ 274 หาร 4 ได้ 68 เศษ 2
อากาศธาตุ 280 หาร 4 ได้ 70 เศษ 0

แต่ละธาตุให้เอาเศษไว้ ตัดส่วนทิ้งไป
ธาตุดิน 2
ธาตุน้ำ 2
ธาตุลม 0
ธาตุไฟ 2
อากาศธาตุ 0

ธาตุทุกธาตุให้ตั้งเกณฑ์ไว้ต้องครบ 8 สลึงของตัวยา เศษของธาตุที่ได้ถือหน่วยเป็นสลึง ดังนั้นเมื่อเติมธาตุให้ครบเกณฑ์ก็จะได้
ธาตุดิน 2 เพิ่มอีก 6 ได้ครบเกณฑ์ 8
ธาตุน้ำ 2 เพิ่มอีก 6 ได้ครบเกณฑ์ 8
ธาตุลม 0 เพิ่มอีก 8 ได้ครบเกณฑ์ 8
ธาตุไฟ 2 เพิ่มอีก 6 ได้ครบเกณฑ์ 8
อากาศธาตุ 0 เพิ่มอีก 8 ได้ครบเกณฑ์ 8

จะได้ตัวยาที่จะนำไปกินดังนี้
ธาตุดิน. ดอกดีปลี 6 สลึง
ธาตุน้ำ รากชะพลู 6 สลึง
ธาตุลม เถาสะค้าน 8 สลึง
ธาตุไฟ รากเจตมูลเพลิง 6 สลึง
อากาศธาตุ เหง้าขิงแห้ง 8 สลึง

วิธีทำ
เอายาทั้ง 5 รวมกันต้ม ครั้งแรกใส่น้ำท่วมยาเคี่ยวให้เหลือครึ่งหนึ่งแล้วเทเอาน้ำขึ้น
ใส่น้ำเท่าครั้งแรก ต้มเคี่ยวต่อครั้งที่ 2 ให้น้ำเหลือครึ่งหนึ่งแล้วรินน้ำรวมกับที่ต้มครั้งแรก
ครั้งที่สาม ต้มให้งวดเกือบแห้ง แล้วก็รินน้ำมารวมต้มกับครั้งที่ หนึ่ง และสอง เอากากยาทิ้ง แล้วเอาน้ำมากินหรือถ้ากินร่วมกับยาอื่นก็เอาไปดองรวมกัน

วิธีกิน
กินเพียงวันละ 1 ครั้งเท่านั้น เช่น ตอนบ่าย 3 โมงหรือสามทุ่ม หรือจะเอาเวลาไหนก็ได้ แต่ต้องกินเวลาเดียวกันทุกวัน ครั้งละ 2-3 ช้อนโต๊ะหรือหนึ่งถ้วยชาในการรักษา
ในการรักษาโรคเรื้อรังต่างๆ ที่มิใช่โรคติดต่อหรือโรคร้ายแรงต่างๆ หารคูณธาตุเป็นการปรับปรุงกองธาตุให้เสมอกัน ไม่ต้องเติมตัวยาอะไรอีกทั้งสิ้น คูณธาตุได้อย่างไรจำนวน 5 อย่างก็เอาเท่านั้น ถ้าธาตุกำเริบหย่อนพิการ ใช้ตัวยา 5 อย่างก็พอ.

 

 

 


 

ข้อมูลสื่อ

45-006
นิตยสารหมอชาวบ้าน 45
มกราคม 2526
ประเสริฐ พรหมณี