• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

กดจุด แก้หวัด

กดจุด แก้หวัด

 

“อือ ...รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเริ่มคัดจมูกอีกแล้ว”

สงสัยจะเป็นหวัดอีกตามเคยละมั้งคุณ’

แย่จัง...ดิฉันเป็นบ่อยเหลือเกิน อากาศเปลี่ยนหน่อยก็เป็น โดนฝนแท้ฝนเทียมก็เป็น เป็นจนอย่างกับเป็นสิ่งจำเป็นในปีหนึ่ง ๆ ของชีวิตเสียแล้วละนี่”

“แล้วกัน ของไม่ดีปล่อยเป็นของจำเป็นของชีวิต มีหวังสุขภาพก็แย่ซิครับ แสดงว่า สุขภาพของคุณไม่แข็งแรง ไม่สามารถปรับร่างกายให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง”

แต่พอฉันรู้ว่าจะเป็น ก็กินยากันไว้ทุกที แต่ก็ยังเป็นอยู่เรื่อย”

“ไม่มียาอะไรกันหรือแก้ได้หรอกครับ หวัดเกิดจากเชื้อไวรัสมากมายหลายชนิด ขณะนี้ยังไม่มียาอะไรที่จะฆ่าเชื้อไวรัสเหล่านี้ได้ มีแต่ร่างกายเราแข็งแรง ก็จะเกิดภูมิต้านทานโรคเหล่านี้ได้ ทุกวันนี้มีแต่ยารักษาอาการเท่านั้น วิธีที่ดีทีสุดจะทำให้ไม่เป็นหวัดก็คือ หมั่นออกกำลังกายหรือกายบริหารให้แข็งแรง ไม่ทำงานหักโหมเกินตัว กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้พอเพียง ก็จะไม่ทำให้เป็นหวัดได้”

เอ...ดิฉันว่าวัน ๆ ก็เหนื่อยแล้วนะคะ ต้องเบียดและบางทีเกือบจะโหนรถเมล์ไปทำงานด้วยซ้ำ เย็นก็มีสภาพไม่ต่างกับตอนไป กลับถึงบ้านก็ทั้งเพลียทั้งเหนื่อยแล้วจะมาให้ออกกำลังกายอีกมันจะไม่เพลียเข้าไปใหญ่หรือคะ”

“การอุดอู้หรือโหนรถเมล์แล้วเหนื่อย มันไม่เหนื่อยเหมือนการออกกำลังกายหรอกครับ ที่มันเพลียนั้นก็เพราะเครียด จากการเบียดเสียดเยียดยัดในรถบ้างรถติดบ้าง รถช้าบ้าง สารพัด
แต่การออกกำลังกายนั้น มันต้องเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของกล้ามเนื้อ เช่น การบริหาร หรือการเดิน การวิ่ง  คุณเชื่อไหมว่า พวกเรามีความเข้าใจผิดเรื่องการใช้แรงกายกันมากทีเดียวอย่างคุณดูสะพานลอย(ในกรุงเทพฯ) ที่เขาสร้างให้คนเดินข้าม ปรากฏว่าไม่ค่อยมีคนเดินข้ามกัน เดินไกลหน่อยก็บอกว่าเมื่อย เสียแรง กลัวว่าออกแรงหน่อยแล้วมันจะหมดไป เรากำลังคิดอะไรเป็นเรื่องกำไร ขาดทุนไปหมด
อันที่จริง...ยิ่งออกกำลังจะยิ่งแข็งแรง”

จริงอย่างคุณว่า.....ดิฉันก็รู้สึกอย่างงั้น รู้สึกเดินขึ้นบันไดสะพานลอยมันเมื่อย เสียแรง ขาดทุนพลังงาน เลยข้ามถนนข้างล่างบ่อย ๆ นี่โดนปรับไปหลายสิบแล้วนะนี่”

“อ้าว...ผมชวนคุณคุยเสียเพลินอาการหวัดเป็นอย่างไรบ้างครับ”

“ก็นี่แหละ อยากจะถามคุณว่ามีอะไรช่วยบ้างไหมละคะ”

“ผมเคยอ่านเจอในวารสารต่างประเทศ เขาว่ามีวิธีกดจุดแก้หวัดได้ สนใจไหมครับ”

“เออ...แปลกดี แล้วจุดที่เขากด กดที่ไหนละคะ”

“มีให้กดทั้งร่างกายเลยคุณ”

“อุ้ย...แล้วจุดแก้หวัดที่ว่ามันอยู่ตรงไหนของร่างกายละนี่


“อยู่บริเวณฝ่ามือและใบหน้าครับ”

“อย่างงั้นก็สะดวกหน่อย ไหน ๆ บอกจุดและสอนวิธีกดให้ที ”


จุดที่กดและตำแหน่ง
1.จุดเหอกู่
ตำแหน่ง คว่ำฝ่ามือลง ให้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้แนบชิดติดกัน จุดเหอกู่จะอยู่ตรงสูงสุดของกล้ามเนื้อที่นูนขึ้นมาระหว่างนิ้วทั้งสอง (ดูรูปที่ 1)
วิธีกด ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือข้างหนึ่งกดอีกข้างหนึ่ง(ในกรณีที่กดตัวเอง) หรือจะให้คนอื่นกดให้ โดยใช้หัวแม่มือกดจุดทั้งสองพร้อมๆ กัน ประมาณข้างละ 20 ครั้ง
 

          

 

2.จุดอิ๋งเซียง
ตำแหน่ง อยู่ตรงข้างจมูกตรงร่องแก้ม(ดูรูปที่ 2)
วิธีกด งอหัวแม่มือ แล้วกดลงบนจุดอิ๋งเซียง แล้วค่อย ๆ ถูขึ้นไปตามแนวสันจมูกไปจนถึงขอบตา ให้ทำอย่างนี้สักประมาณ 20 ครั้ง หรือจนมีความรู้สึกร้อนบริเวณจมูก

หมายเหตุ
- ถ้ามีอาการปวดหัวก็ให้กดจุดอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ไท่หยาง, เฟิงฉือ (รายละเอียดดูได้จาก “หมอชาวบ้าน” ฉบับที่ 32)
- วิธีนี้ใช้ได้กับผู้ที่มีมีอาการหวัดในระยะต้น คือมีอาการอ่อนเพลีย ปวดหนักศีรษะเล็กน้อย คัดจมูก น้ำมูกใส จาม สำหรับผู้ที่มีอาการไข้ เจ็บคอ เขาว่าใช้ไม่ได้ผล
 

ข้อมูลสื่อ

44-006
นิตยสารหมอชาวบ้าน 44
ธันวาคม 2525
อื่น ๆ
วิทิต วัณนาวิบูล