• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

มาบริหารตวงตากันดีกว่า


การบริหารร่างกายให้มีส่วนสัดงามตั้งแต่กล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ ช่วงแขน ช่วงท้อง ต้นขาตลอดถึงน่องหรือจะเรียกให้ถูกว่างามทั่วร่าง รักษาผิวพรรณให้สะอาดหมดจด แต่ก็ยังขาดอยู่อีกอย่างหนึ่งที่ละเลยไปคือ การบริหารดวงตา หรือการออกกำลังนัยน์ตา นัยน์ตาก็มีกล้ามเนื้อชนิดหนึ่งเหมือนกันที่ห่อหุ้มแก้วตาเราอยู่ จะมีวิธีใดที่จะใช้เป็นบทบัญญัติในการบริหารนัยน์ตาให้ถูกต้องเล่า ?


แก้วตาคือเลนส์ชนิดหนึ่งที่เราสามารถเห็นได้ใกล้ไกลอย่างสะดวกสบาย หากว่าเลนส์นั้นอ่อนลงหรือไม่สมบูรณ์พอหรือเกิดอุปสรรคจากการกระทบกระเทือนอย่างหนัก เป็นต้นว่าหกล้มศีรษะฟาดพื้นหรือถ้าเป็นนักมวยถูกคู่ต่อสู้ชกถูกศีรษะหรือบริเวณขอบตาบ่อยๆ อะไรเทือกนี้แล้ว ย่อมทำให้ประสาทตาของท่านมืดมัว ทำให้นัยน์ตาฝ้าฟางได้เหมือนกันและจะมีอาการปวดศีรษะติดตามมาด้วย


ผู้ที่นัยน์ตาบอดหรือพิการท่านทราบไหมว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นแก่ตัวท่าน อย่างน้อยก็ทำให้ท่านครุ่นคิดไปในส่วนที่ไม่ดีงาม ประสาทท่านจะเสีย ร่างกายท่านจะทรุดโทรมและบั่นทอนชีวิตของท่านไปทีละน้อยๆ ซึ่งไม่ผิดอะไรกับ“สนิมเหล็กกัดเหล็กใหญ่ เล็กย่อมได้” ฉะนั้น ขอให้ท่านทั้งหลายที่อ่านนิตยสาร “หมอชาวบ้าน” เป็นประจำ จงใคร่ครวญและสละเวลาอ่านและพยายามหมั่นเพียรปฏิบัติตามคำแนะนำเรื่อยๆ ไปก็แล้วกัน ความสุขความสดชื่นและความเจริญจะเป็นของท่านโดยไม่มีผู้ใดหยิบยื่นให้ท่านได้ดอกครับนอกเสียจากตัวของท่านเอง ผมจะขอเริ่มเรื่องการบริหารดวงตาเสียแต่บัดนี้เลย
 

   


ท่าที่ 1
นั่งบนเก้าอี้ ลำตัวตรง ใช้ข้อศอกทั้งสองตั้งบนโต๊ะและใช้ฝ่ามือทั้งสองยันไว้ใต้คาง เพ่งสายตาทั้งคู่ไปข้างหน้า จงเหลือบนัยน์ตาขึ้นมองเพดานและเหลือบลงมามองบนโต๊ะที่ท่านใช้ศอกตั้งอยู่ปฏิบัติเช่นนี้สลับกันโดยเงยขึ้นประมาณ 25 ครั้ง เหลือบลง 25 ครั้ง ในครั้งแรก อย่ากลั้นหายใจ จงหายใจตามปกติ

 

  
 

 

ท่าที่ 2
ท่านคงนั่งอยู่ในท่าเดิมโดยไม่ต้องใช้ฝ่ามือยันคาง ให้ท่านเหลือบนัยน์ตาไปด้านขวา และกวาดสายตาตามมาทางด้านซ้ายเป็นเส้นฉากตรง ทำดังนี้ข้างละเท่าๆ กันเหมือนกับท่าที่ 1

 

  


ท่าที่ 3
ขอให้ท่านจงนั่งอยู่ในท่าเดิมอีกครั้งหนึ่งนะครับ ทีนี้ ให้ท่านเหลือบสายตาขึ้นมองดูเพดานแล้วกวาดสายตาจากด้านขวามาบรรจบด้านซ้ายเป็นครึ่งวงกลม และกวาดสายตาจากซ้ายมาขวาในลักษณะเดียวกัน ทำสลับกันไปมาเหมือนกับท่าแรกๆ

 

  


ท่าที่ 4
ท่านจงยืนตรงในท่าไหนก็ได้ตามสะดวกสบาย จงใช้สายตาทั้งคู่เพ่งไปข้างหน้า ให้สังเกตวัตถุอะไรสักอย่างหนึ่งเป็นเป้าหมายจงพินิจพิจารณาดูให้ดีว่าสิ่งนั้นเป็นอะไร ข้อปฏิบัติชิ้นนี้แหละจะช่วยให้สายตาของท่านกล้าแข็งยิ่งขึ้น


วิธีบริหารดวงตาทั้ง 4 ท่านี้ ถ้าท่านหมั่นปฏิบัติเพียงอาทิตย์ละ 3 วันก็พอคือ จันทร์ พุธ ศุกร์ หรือจะทำทุกวันได้ ยิ่งเป็นการดีสำหรับท่าน เพราะเกรงว่าท่านจะเบื่อ จึงกำหนดให้เพียง 3 วันเท่านั้น
อนึ่ง เวลาตื่นนอนตอนเช้าเมื่อท่านยังนอนหงายอยู่ก็บริหารได้เหมือนกันคือเหลือบตาลง กลอกนัยน์ตาเป็นวงกลมซ้ายไปขวาและขวาไปซ้าย ชายหางตาไปทางขวาย้อนมาซ้ายสลับกัน ท่านจะมีเวลาทำได้สักกี่ครั้งก็ได้ ดีกว่าไม่ได้ทำเสียเลย


ท่านที่มีสายตาอ่อนเมื่อดูภาพยนตร์หรือโทรทัศน์และเพ่งนานๆ จะรู้สึกนัยน์ตาพร่าหรือแสบนัยน์ตาและบางทีก็อาจทำให้น้ำตาไหลได้ นั่นแหล่ะครับคือปฐมเหตุบ่งชี้ให้เห็นอย่างแจ่มแจ้งแน่ชัดแล้วว่า มันเนื่องมาจากสายตาของท่านอ่อนนั่นเอง

ยังไม่สายเกินไปที่จะบริหารสายตาของท่านเสียแต่เดี๋ยวนี้ จะเป็นลาภอันประเสริฐของท่านทั้งทางตรงและทางอ้อม จงกอบโกยเอาไว้เสียแต่เนิ่นๆ จงอย่าเป็นผลัดวันประกันพรุ่ง
มีข้อแนะนำปลีกย่อยแก่ท่านสักหน่อยว่า เมื่อเวลาท่านอ่านหรือเขียนหนังสือ โปรดให้แสงสว่างเข้าทางซ้ายมือเสมอ เพราะเราชาวไทยเวลาเขียนหนังสือต้องเขียนจากซ้ายมาขวา ไม่ใช่เขียนจากขวามาซ้ายเหมือนหนังสือจีน ถ้าท่านยังติดใจสงสัยกรุณาทดลองได้ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือกลางคืนและท่านจะรู้แจ้งเห็นจริงเอง

 

ข้อมูลสื่อ

26-010
นิตยสารหมอชาวบ้าน 26
มิถุนายน 2524
อื่น ๆ
เลื่อน ทรรทรานนท์