• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

จันโอ-จันอินกลิ่นหอมจรุงใจ

                             


จันโอ-จันอิน
เป็นผลไม้จากพืชชนิดเดียวกันมี ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Diospyros decandra Lour.
จันโอ-จันอินมีชื่ออื่นคือ จันลูกหอม จันขาว จัน (ทั่วไป) เวียดนามเรียก thi เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง วงศ์เดียวกับลูกพลับสีส้มจากประเทศจีน มะพลับ ตะโกและมะเกลือ

ลำต้น เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ สูง 10-20 เมตร เรือนยอดทรงกลมหรือกระสวย หนาทึบ ลำต้นตรง เนื้อไม้สีขาว เปลือกต้นสีน้ำตาลอมดำแตกเป็นสะเก็ด

ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงแบบสลับ รูปขอบขนาน    กว้าง 1-3 เซนติเมตร ยาว 7-10 เซนติเมตร โคนใบมน ปลายใบสอบหรือแหลม เนื้อใบบาง เมื่อยังอ่อนมีขนยาวสีแดงปกคลุม ก้านใบยาว 3-5 เซนติเมตร

ดอก เป็นดอกเดี่ยวหรือดอกช่อ แยกเพศอยู่คนละต้น สีขาวหรือสีเหลืองอ่อน ดอกเพศผู้ออกเป็นช่อขนาดเล็ก ช่อหนึ่งมีประมาณ 3 ดอก ก้านดอกยาว 2-4 มิลลิเมตร ตามส่วนต่างๆ มีขนสีน้ำตาลแดงปกคลุม กลีบเลี้ยง 4-5 กลีบ เรียงเป็นรูปถ้วยแต่ไม่เชื่อมติดกัน กลีบดอก 4-5 กลีบ โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นรูปเหยือกน้ำ ดอกเพศเมียออกเป็นดอกเดี่ยวตามกิ่งเล็กๆ กลีบเลี้ยงและกลีบดอกเหมือนดอกเพศผู้ แต่ใหญ่กว่าใบ

ผลกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางผล 4-8 เซนติเมตร ที่ผลยังมีส่วนของกลีบเลี้ยงติดอยู่ที่จุก เมื่อสุกมีสีเหลืองเนื้อนุ่ม รสหวาน และมีกลิ่นหอม กินได้


ผลมีลักษณะแตกต่างกันเป็น 2 แบบ
แบบหนึ่งผลกลมแป้น มีรอยบุ๋มตรงกลางผล   ไม่มีเมล็ดหรือเป็นเมล็ดลีบ รสฝาดอมหวาน มีกลิ่นหอม เรียกกันว่า ลูกจัน
อีกแบบหนึ่งผลกลมหนา และไม่มีรอยบุ๋ม มี  เมล็ด 2-3  เมล็ด เรียกกันว่า ลูกอิน มีเมล็ดข้างใน มีรสฝาดอมหวาน ถ้าทำให้ช้ำรสฝาดของลูกจันและลูกอิน จะหายไป

จันโอ-จันอิน มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเอเชียแถบเขตร้อน มักปลูกกันตามวัด เพราะเป็นต้นไม้ยืนต้นโตช้า
จันโอ-จันอินนำมากินเป็นอาหารได้ ชาวอีสานกินผลดิบ กล่าวว่าเอามาตำกินแซบอีหลีจริงๆ ผลสุกกินเล่น เป็นผลไม้ที่มีรสหวาน ก่อนกินจะต้องคลึงให้ช้ำเพื่อให้ยางฝาดที่แทรกอยู่ในเนื้อลดลง แต่เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีกลิ่นหอมจรุงใจเป็นเอกลักษณ์จึงมักนำมาดมเล่นก่อนแล้วค่อยกินเนื้อผลในภายหลัง

       
สรรพคุณ

ผล จันโอ-จันอิน บำรุงกำลัง แก้ท้องเสีย แก้อาการ นอนไม่หลับกระวนกระวาย

เนื้อไม้ แก้ไข้ที่มีผลต่อตับและดี บำรุงเลือดลม    แก้ร้อนในกระหายน้ำ บำรุงประสาท แก้อาการเหงื่อมาก บำรุงตับปอดให้เป็นปกติ บำรุงร่างกายให้สดชื่น ขับพยาธิ แก้ดีพิการ

แก่น แก้กระหายน้ำ แก้ไอ แก้ไข้ที่มีผลต่อดี บำรุงผิว บำรุงหัวใจ แก้ตับพิการ แก้ไข้กำเดา แก้ลม แก้อ่อนเพลีย บำรุงตับปอด

มีงานวิจัยผลไม้ไทยศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ของน้ำผลไม้ไทย จำนวน 5 ชนิด ได้แก่ หม่อน หว้า องุ่น จันโอ-จันอิน และมะหลอดพบว่าสารสกัดจากหม่อนมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระมากที่สุด รองลงมาคือหว้า จันโอ-จันอิน มะหลอด และองุ่นพบว่าฤทธิ์ยับยั้งการแตกของเม็ดเลือดแดง หม่อนมีค่ามากที่สุด รองลงมาคือหว้า มะหลอด จันโอ-จันอิน และองุ่น

การตรวจสอบทางเคมีเบื้องต้นพบว่าสารสกัดจากหม่อน หว้าและองุ่นมีสารกลุ่มแอนโทไซยานินเป็นหลัก ส่วนสารสกัดจากจันโอ-จันอิน และมะหลอดมีสารกลุ่มฟลาโวนอยด์

ความจริงปัจจุบันหาลูกจันโอ-จันอินได้ยากมาก ถ้าพบก็มักจะอยู่บนต้นไม้เก่าแก่ที่สูงจนสอยไม่ถึง เช่น ตามวัดบางแห่งในเขตภาคกลาง ลูกจันโอ-จันอินสุกจะร่วงเอง ถ้าไม่เป็นอาหารอันโอชะของ
กระรอกไปเสียก่อนก็จะช้ำเมื่อตกถึงพื้น ถ้าใครโชคดีได้ลูกจันโอ-จันอินมาก็ลองกินดูนะคะ
 

                               


ได้สูตรลูกจันโอ-จันอินน้ำกะทิมาจากอินเทอร์เน็ต ไม่ทราบชื่อเจ้าของสูตร ขออนุญาตเผยแพร่ไว้ที่นี่นะคะ

ลูกจันโอ-จันอินน้ำกะทิ

ลูกจันโอ-จันอิน 10 ลูก

น้ำกะทิ 800  กรัม  

น้ำตาลปี๊บ ตามชอบ

ข้าวเหนียวมูน

คลึงให้ลูกจันโอ-จันอินน่วม  แล้วปอกเปลือก ออก แคะเม็ด ฉีกเนื้อลูกจันโอ-จันอินเป็นชิ้นๆ     ตั้งกะทิให้ร้อนบนไฟอ่อน ใส่น้ำตาลปี๊บ ค่อยๆ คนให้น้ำตาลละลาย ปิดเตา ใส่เนื้อลูกจันโอ-จันอินแล้วก็คนเบาๆ กินกับข้าวเหนียวมูล

ถ้าไม่มีลูกจันลองใช้ลูกพลับสีส้มแทนไปพลางๆ ก่อนนะคะ

 

 

ข้อมูลสื่อ

365-008
นิตยสารหมอชาวบ้าน 365
กันยายน 2552
บทความพิเศษ
รศ.ดร.กรณ์กาญจน์ ภมรประวัติธนะ