• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

๘ วิธีสร้างผิวไร้สิวฝ้า

๘ วิธีสร้างผิวไร้สิวฝ้า


การได้เป็นเจ้าของใบหน้าที่นวลเนียนสดใส ล้วนเป็นที่ปรารถนาของทุกคน แต่ไม่เคยมีใครที่ไม่มีปัญหากับผิวของตนเอง การเรียนรู้วิธีรักษาและป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก จึงน่าจะเป็นวิถีทางที่ดีที่สุดสู่การเป็นเจ้าของผิวสวย เคล็ดลับสู่ผิวสวยใสไร้สิวฝ้านั้นมีง่ายๆ ดังนี้

วิธีที่ ๑ การล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน
เพื่อชำระล้างเหงื่อไคล ไขมันและขี้ไคลออกจากผิวหนัง เวลาล้างหน้าให้ล้างเบาๆ แล้วซับน้ำให้แห้งด้วยผ้าขนหนูสะอาด อย่าใช้ผ้าขนหนูถูหน้าแรงๆ เพราะจะทำให้สิวอักเสบมากขึ้น ไม่ควรใช้แปรง ฟองน้ำ หรือสบู่ที่ผสมเม็ดขัดถู ขัดถูใบหน้า เพราะทำให้ใบหน้าระคายเคือง และกระตุ้นให้สิวกำเริบมากขึ้น

วิธีที่ ๒ หากเป็นสิวน้อย อาจทายาเองได้
ผู้ที่มีปัญหาสิวเพียงเล็กน้อย เช่น สิวหัวดำ หัวขาว หรือสิวอักเสบเพียงเล็กน้อย อาจหาซื้อยามาทาเองได้ แต่ต้องอ่านฉลากยาให้เข้าใจวิธีใช้โดยละเอียดเสียก่อน
หากใช้ครีมทารักษาสิวแล้วเกิดอาการผิวแห้งหรือ ระคายเคือง ควรปรึกษาแพทย์ ต้องระวังยาที่โฆษณาว่ารักษาได้ทั้งสิวและฝ้า เพราะยาพวกนี้มักผสมสตีรอยด์ ซึ่งอาจทำให้สิวยุบเร็วจริง แต่มีข้อแทรกซ้อนตามมามากมาย กรณีที่เป็นสิวอักเสบมาก จัดเป็นโรคผิวหนัง จำเป็นต้องได้รับยาภายใต้การดูแลของแพทย์ และยากินรักษา สิวบางตัวอาจทำให้ทารกในครรภ์พิการได้

วิธีที่ ๓ พิจารณาให้ดีก่อนใช้เครื่องสำอาง
ควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่ไม่มีผลต่อการทำงานของผิวหนัง ต้องไม่มีสารสตีรอยด์เจือปน ควรเลือกใช้ครีมให้ความชุ่มชื้นที่ไม่มีส่วนประกอบที่เป็นสารเคมีที่กระตุ้นให้เกิดสิว ไม่ควรใช้เครื่องสำอางที่เหนียวเหนอะหนะเกินไป เครื่องสำอางที่มีราคาแพงที่สุด อาจไม่ใช่เครื่องสำอางที่ดีที่สุด หรือที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
 
วิธีที่ ๔ ไม่แนะนำให้บีบแกะสิวออกด้วยตนเอง
การบีบแกะสิวออกจะทำให้เกิดการอักเสบลุกลาม และเกิดแผลเป็นได้มาก แพทย์อาจพิจารณากดสิวอุดตันหัวดำออกให้ในกรณีที่จำเป็น ส่วนในกรณีที่มีสิวอักเสบหรือสิวหัวช้าง การฉีดยาสตีรอยด์เข้าไปในสิวอาจทำให้สิวยุบลงอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับกรณีเร่งด่วน เช่น จะเข้าพิธีแต่งงานในวันรุ่งขึ้น แต่วิธีนี้ก็อาจเกิดผลแทรกซ้อนตามมาได้ ส่วนการใช้แผ่นขจัดสิวเสี้ยนนั้น หากใช้บ่อยครั้งเกินไป ผิวอาจอักเสบระคายเคืองและเป็นการกระตุ้นให้เกิดสิวมากขึ้นได้

วิธีที่ ๕ หลีกไกลรอยเหี่ยวย่นโดยขจัดสาเหตุ
รอยเหี่ยวย่นบนผิวหน้าของคนเรา แบ่งเป็น ๓ ชนิด ใหญ่ๆ คือ รอยเหี่ยวจากอารมณ์ รอยเหี่ยวจากแสงแดด และรอยเหี่ยวแห้ง ผู้ที่มีแต่ความเครียดชอบหน้านิ่วคิ้วขมวดหรือเลิก หน้าผาก จะเกิดร่องย่นได้ตามหัวคิ้ว และหน้าผาก ครีมบำรุงผิวที่อ้างว่าลบรอยเหี่ยวต่างๆ จึงไม่เป็นจริง เพราะเครื่องสำอางเหล่านี้ออกฤทธิ์เพียงแค่ชั้นนอกสุดคือชั้นขี้ไคล แต่ส่วนที่เสียไปคือส่วนชั้นหนังแท้ การป้องกันรอยเหี่ยวย่น ๓ แบบนี้คือ การมีอารมณ์ แจ่มใส อย่าหน้านิ่วคิ้วขมวด เพื่อลดรอยเหี่ยวย่นจากอารมณ์ หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดจัดเพื่อป้องกันรอยเหี่ยวย่นจากแสงแดด และการใช้ครีมให้ความชุ่มชื้นทาในกรณีของรอยเหี่ยวแห้ง

วิธีที่ ๖ รักษาฝ้าและกระโดยการเลี่ยงแดด
ยังไม่มีวิธีใดที่รักษาฝ้าให้หายขาดและไม่เกิดขึ้นใหม่ได้อีก จึงไม่ควรเสียเงินและเวลาให้กับการรักษาฝ้าและกระจนเกินไป ชาวต่างประเทศถือว่ากระเป็นเสน่ห์ของใบหน้า (beauty spots) วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันรักษาฝ้าและกระ คือ การหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วง ๐๘.๐๐-๑๗.๐๐ น. เพราะรังสีในแสงแดดนอกจากทำให้ฝ้าและกระเข้มขึ้น ยังทำให้ผิวเหี่ยวแก่ และเกิดมะเร็งผิวหนังได้

วิธีที่ ๗ พักผ่อนเพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์
การทำงานหนักโดยไม่พักผ่อนเลย หรือเอาแต่เล่น โดยไม่ทำงานให้เป็นแก่นสารต่างมีผลเสียต่อสุขภาพ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายอ่อนแอ ก่อผลเสียต่อผิวได้ การสูบบุหรี่นอกจากจะมีผลต่อสุขภาพร่างกายทั่วไปแล้ว ยังทำให้ใบหน้าแลดูแก่ก่อนวัยไปนับ ๒๐ ปี เพราะนิโคตินทำให้หลอดเลือดหดตัว เซลล์ผิวหนังจึงขาดสารอาหาร เกิดริ้วรอยเหี่ยวแก่ขึ้น นอกจากนั้น การดื่มเบียร์ ดื่มเหล้า ดื่มไวน์ ตลอดจนยาเสพติดในทุกรูปแบบต่างก่อปัญหาแก่ผิวทั้งสิ้น จึงควรดูแลสุขภาพด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ คือนอนหลับวันละไม่ต่ำกว่า ๘ ชั่วโมง กินอาหารให้ครบทุกหมู่และดื่มน้ำให้เพียงพอ ไม่มีอาหารเสริมหรือวิตามินมหัศจรรย์ตัวใดที่จะทำให้ผิวสวยได้ หากไม่ปฏิบัติตามกติกาอนามัยพื้นฐาน เหล่านี้

วิธีที่ ๘ อยากมีผิวสวยต้องไม่เครียด
อารมณ์กับสุขภาพผิวถือเป็นสิ่งที่มีความสัมพันธ์กันแนบแน่น ความเครียดทำให้ผิวหนังอักเสบเป็นลมพิษ ผมร่วง หรือสิวกำเริบขึ้นได้ บางรายเวลาเครียดมากจะแกะสิวเล่นทำให้ใบหน้าเกิดแผลเป็นและยิ่งเครียดเพิ่มขึ้นไปอีก วิธีหลีกเลี่ยงความเครียดมีหลายวิธี เช่น การออกกำลังกาย การปฏิบัติตามคำสอนศาสนา การนั่งวิปัสสนา การเล่นโยคะ การนวด การมีอารมณ์ขัน มองโลกใน แง่ดีและสดใส เหล่านี้ย่อมทำให้จิตใจเบิกบาน และเมื่อมีสุขภาพจิตดีแล้ว สุขภาพผิวก็จะตามไปด้วยอย่างแน่นอน

สูตรผิวสวยเหล่านี้ เป็นสูตรที่สามารถปฏิบัติได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องเสียเวลา และเงินทองไปกับเทคนิคต่างๆ ที่มีการโฆษณาชวนเชื่อเกินความจริงอยู่ในขณะนี้ 

๑๐ วิธี "ไม่เกินวัย"
การทำไม่ให้เกินวัย ต้องการให้ทุกคนได้เห็นว่า วิธีการใช้ชีวิต วิธีการเลือกทางเดินของชีวิต...ควรจะทำอะไรบ้าง

ศาสตราจารย์นายแพทย์สุทธิชัย จิตะพันธ์กุล จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายว่า...จะเรียก "ทำอย่างไรไม่ให้แก่เร็ว" ก็ได้ คำว่า ไม่ให้เกินวัย จึงไม่ได้แปลว่าไม่ให้แก่อย่างเดียว แต่หมายถึงการทำให้ตัวเองมีความกลมกลืนไปกับสภาพความเป็นจริง ดำรงชีวิตได้อย่างเหมาะสม สามารถทำให้ตนเองมีคุณภาพชีวิตที่ดีให้นานที่สุด

จุดสำคัญ...ทำให้ช่วงสูงอายุ หรือช่วงที่ต้องพึ่งพาคนอื่น สร้างความลำบากให้คนอื่นสั้นที่สุด
หลัก ๑๐ ประการ แต่ละข้อเป็นวิธีที่ง่าย แต่น้อยคนนักจะเห็นความสำคัญอย่างจริงจัง 

 ๑. ฉลาดกิน มีกำไร รู้จักเลือกกินอาหาร แต่ละวันจะต้องสมดุล ทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ผัก ผลไม้...เลี่ยงอาหารมันมาก กินผัก ผลไม้ทุกมื้อ หมุนเวียนอย่าให้ซ้ำและดื่มน้ำวันละ ๑.๕ ลิตร

 ๒. กินให้เป็น อย่าทำตัวเป็นถังขยะ พ่อแม่ไม่น้อย หลังมีลูก... อ้วนอย่างรวดเร็วเพราะชอบกินของเหลือจากลูกๆ อย่าปล่อยให้หิวจัด เวลากินก็จะกินอย่างไม่ยั้ง

 ๓. ออกแรงเป็นประจำ นั่นคือ อย่ายึดติดรูปแบบ ใช้วิธีออกแรง...ทำกิจกรรมทั่วไปเพิ่มขึ้นก็ได้

 ๔. หลีกหนีของเสีย ไม่เดินทางไปในที่อากาศไม่ดี แสงแดด ลม ฝุ่น ควันบุหรี่...ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็หาเครื่องป้องกัน

 ๕. เป็นงาน อย่าเอางานมาทำบนไหล่ จงวางงานอยู่ตรงหน้า จะได้ใช้สองมือทำงานได้สะดวก ใส่ใจกับงาน ใช้ปัญญาไตร่ตรอง...อย่าทำงานด้วยความเครียด กังวลกับงาน...กลัวว่าทำไม่ได้ กลัวเสียชื่อ เสียหน้า

 ๖. ใช้ชีวิตให้เป็น สิ่งมีชีวิตทุกชนิดจำเป็นต้องพักผ่อน การนอนหลับให้เพียงพอ เป็นช่วงที่ร่างกาย จิตใจ...เตรียมความพร้อมสำหรับวันต่อไป

 ๗. เข้าอู่บ้าง ตรวจร่างกายประจำปี...รักษาตัวแต่เนิ่นๆ ใช้ยาเท่าที่จำเป็น

 ๘. สร้างจิตงาม หัวเราะ...หัวเราะ...หัวเราะ มองบวก...ปรับจิตให้สุข เชื่อมโยงไปถึงการทำอย่างไรไม่ให้ชีวิตไร้ค่า แก่ตัวแล้วจะทำอย่างไร อยู่ที่ว่ามีความคิด มีความเข้าใจ มีโลกทัศน์หรือเปล่า

 ๙. ดูรอบข้าง แต่มองไกล สภาพแวดล้อม คนรอบข้าง ทำให้เกิดความสุข สัมพันธภาพที่ดี

 ๑๐. ทำเอง และหาแนวร่วม

ทั้ง ๑๐ ข้อนี้เป็นหลักปฏิบัติที่เน้นวิธีคิด มุมมอง ความเข้าใจ จะนำไปใช้ในช่วงชีวิตไหนก็ได้ ไม่ว่าจะวัยเด็ก วัยรุ่น หรือวัยผู้ใหญ่

ข้อมูลสื่อ

328-001
นิตยสารหมอชาวบ้าน 328
สิงหาคม 2549
ผิวสวย หน้าใส
นพ.ประวิตร พิศาลบุตร