• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

เมื่อคุณต้องเป็นหมอตำแยจำเป็น จะทำอย่างไร

เมื่อคุณต้องเป็นหมอตำแยจำเป็น จะทำอย่างไร



มันก็บ่แน่หรอกนะคุณนะ วันดีคืนดีคุณนั่นแหละอาจจะต้องถูกอุปโลกน์ให้เป็นหมอตำแยขึ้นมา หรือคุณต้องกระโดดเข้าไปเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ผมจะไม่สาธยายให้ละเอียดหรอกนะว่าสถานการณ์แบบไหนที่คุณจะหลีกเลี่ยงไม่ได้บ้าง เชิญอ่านเรื่องที่ผมจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ เอาเองก็แล้วกันนะครับ

วันนั้น เมื่อไม่นานมานี้ ผมดูหนังที.วี.มีอยู่เรื่องหนึ่ง...เกี่ยวกับสาวท้องแก่ เกิดปวดท้องคลอด...แล้วจะคลอดเอาจริง ๆ บนเครื่องบิน....กัปตันผู้รับผิดชอบประกาศหาตัวหมอที่จะมาช่วยทำคลอดให้กับผู้โดยสารคนนั้นจากจำนวนผู้โดยสารไม่ใช่น้อยในจัมโบ้ 747 ...แต่โชคช่างไม่เข้าข้างเอาเสียเลย เพราะหมอน่ะมีเหมือนกัน แต่กลายเป็นหมอสอนศาสนาไปเสียฉิบ คุณกัปตันเลยต้องกลายไปเป็นหมอตำแยจำเป็นเสียเองกว่าจะเรียบร้อย ทุลักทุเลเต็มคราบเลยครับ
กัปตันให้สัมภาษณ์ตอนหลังว่า ขับเครื่องบินยังง่ายกว่าทำคลอดซะอีก แถมไม่ยุ่งเท่าเรื่องนี้
 

ที่ว่ายุ่งยากนั้นเป็นอย่างไร
เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ...คุณกัปตันก็ต้องวิทยุด่วนมาที่ศูนย์บังคับการบิน บอกข่าวว่า ขณะนี้กำลังมีคนจะคลอดอยู่รอมมะร่อแล้วบนเครื่อง ขอสูติแพทย์หนึ่งคน

“บ้าสิ จะให้ส่งสูติแพทย์ขึ้นไปได้อย่างไรกัน” ข้างล่างตะโกนบอกไปตามสาย
แต่ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น กัปตันต้องการสูติแพทย์มาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรต่างหากในวิกฤตเช่นนั้น
อ๋อ ! ข้างล่างเข้าใจในเจตนา ครับวิทยาการก้าวหน้าไปไกลมาก
เขาก็ตามหมอสูติแพทย์ได้ทันท่วงที ติดต่อวิทยุให้หมอสูติได้พูดกับกัปตันบนเครื่องที่กำลังเหินฟ้าอยู่โดยตรง

“ถึงไหนแล้วครับ” หมอสูติถาม

“โอ้ เรายังอยู่ห่างจุดหมายเหลือเกินครับคุณหมอ” กัปตันตอบ

ไม่ใช่ ไม่ใช่ ผมถามว่า ตอนนี้เด็กอยู่ถึงไหนแล้ว จะโผล่แล้วหรือยังต่างหาก”

“อ้อ ขอโทษครับผมเข้าใจผิด เดี๋ยวขอผมชะโงกหน้าดูหน่อย”

กัปตันก็โผล่หน้าไปมอง หญิงสาวที่นอนเหงื่อแตกพลั่ก หน้าบูดเบี้ยวด้วยความปวดท้องคลอด ซึ่งจะคลอดแหล่ไม่คลอดแหล่อยู่ในห้องเฉพาะที่กัปตันอุตส่าห์หาไว้ให้ เพื่อไม่ให้ผู้โดยสารอื่นต้อง แตกตื่น
กัปตันมีแอร์โฮสเตสสาวและสวยซะด้วยเป็นพยาบาลจำเป็น.......ช่วยอยู่ข้าง ๆ

“ยังไม่เห็นมีอะไรโผล่มาให้เห็นเลยค่ะ คุณกัปตันขา นอกจากเลือด” เสียงหวานรายงานมาทันทีเมื่อกัปตันถาม

“มีแต่เลือดดำ ๆ เลอะเทอะไปหมดครับ คุณหมอ” กัปตันรายงานแบบตามน้ำทันทีเหมือนกัน

“อ้อ เดี๋ยวผมลืมถามไป คนไข้ท้องที่เท่าไหร่แล้ว ครบกำหนดรึเปล่า”

“ท้องแรกครับ แล้วก็ครบกำหนดเป๊ะเลย”

“คนไข้อยากเบ่งรึเปล่า” หมอถาม

โอ๊ย คุณหมอครับ เบ่งเก่งจังเลยผมนี่ตื่นเต้นไปหมดเพราะไม่เคยมาก่อน”

“เบ่งมานานสักครึ่งชั่วโมงแล้วละครับ” กัปตันตอบเมื่อคุณหมอท่านถามมา

เอาละ ใจเย็น ๆ คุณยังมีเวลาเตรียมตัวบ้าง เพราะท้องแรกกว่าจะคลอดหลังจากเริ่มเบ่งก็อาจจะกินเวลาตั้งหนึ่งชั่วโมง ไม่เหมือนท้องหลังหรือที่เคยคลอดมาก่อนแล้ว พวกนี้จะเร็วหน่อย คุณอาจจะรับเด็กไม่ทัน เพราะมันจะพุ่งออกมายังกับลูกรักบี้เลยทีเดียว และนั่นแหละบางทีช่องคลอดแม่ขาดป่นปี้หมด เพราะคุณช่วยคลอดไม่ทัน

เอาละ คุณทำตามที่ผมบอกให้นะครับ แล้วก้อคุณควรจะมีสิ่งของจำเป็นเหล่านี้ไว้บ้าง แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวคุณบ้าจี้ขึ้นมาเที่ยวแวะซื้อที่ไหน จะประสาทกันใหญ่
1. ผ้าสะอาดผืนใหญ่พอที่จะรองรับกันแม่ทั้งก้นแล้วมีที่เหลือพอจะให้คุณลูกคลานออกมานอนได้...และผ้าต้องหนา ๆ หน่อยนะ

2. ผ้าสะอาดพอปิดแข้งปิดขา ปิดหน้าท้องของแม่ได้บ้างเพื่อว่า จะได้ไม่ประเจิดประเจ้อจนน่าเกลียด

3. อ้ายยาฉีดแก้ปวด พวกยาชา อะไรพวกนี้ ผมไม่คิดว่าพวกคุณจะมีหรอกนะ แต่ถ้ามีแล้วก็ดี เพราะเราจะใช้ฉีดบริเวณปากช่องคลอดตรงที่เราจะตัดให้ช่องคลอดมันกว้างขึ้น เด็กจะได้คลานออกมาง่าย ๆ หน่อย โดยที่ปากช่องคลอดไม่ต้องฉีกขาดมาก...อ้อ ผมชอบใช้ซัยโลเคน (Xylocaine) 1% ครับ

4. ผ้าผืนเล็ก ๆ อาจเป็นผ้าก๊อซถ้ามี หรือผ้าเช็ดหน้าที่สะอาดก็ได้ เอาไว้ซับเลือดหรือเช็ดทำความสะอาดบริเวณปากช่องคลอด

5. ตะไกรที่สะอาด ขนาดกลาง จะเป็นตะไกรอะไรก็ได้ที่คุณสามารถทำให้มันสะอาดปราศจากเชื้อโรคได้ก็เป็นใช้ได้ทั้งนั้นแหละครับ อ๋อ...วิธีทำความสะอาดนั้นหรือครับ เอาต้มในน้ำเดือด สักพักก็ใช้ได้แล้ว แต่ระวังอย่าทำให้มันสกปรกอีกหลังจากทำความสะอาดแล้ว จนกว่าคุณจะได้ใช้งานมันแล้ว นะครับ
ตะไกรที่ผมว่านี้คุณอาจใช้ตัดปากช่องคลอด ตัดเฉียง ๆ หน่อยนั่นแหละดี เอาตามแนว 7.30 น. หรือไม่ก็แนว 4.30 น. ตามแต่ถนัดอย่าได้ตัดลงหาทวารเชียวนะครับ เดี๋ยวจะยุ่งกันใหญ่ ถ้าคุณเล่นตัดเกินเข้าทวารไปด้วย คุณตัดเข้าไปเถอะครับให้ พอเด็กออกได้ เรื่องจะเย็บเข้าที่ไว้ว่ากันทีหลัง...ไว้ให้ผมเย็บให้ก็ได้หรือหมออื่นก็ได้ ตอนนี้ขอเอาเด็กออกมาให้ปลอดภัยเสียก่อน ตะไกรที่ว่านี้ ต้มมาแล้วก่อนใช้เอาแอลกอฮอล์ 70% เช็ดล้างก่อนใช้อีกทีก็จะดี เพราะแอลกอฮอล์จะช่วยฆ่าเชื้อโรคที่หลงเหลืออยู่ได้บ้าง
ตะไกรอันนี้เมื่อคุณใช้ตัดปากช่องคลอดแล้วเอาไปทำความสะอาดอีกทีให้สะอาดจริง ๆ นะ เอาไว้ตัดสายสะดือเด็กไงละครับ

6. เชือกที่เหนียวพอประมาณ และต้องสะอาดด้วยไม่ยากหรอก เอามันมาแช่แอลกอฮอล์นั่นแหละ แช่ไว้นาน ๆ เลยสักครึ่งชั่วโมง หรือชั่วโมงก็ใช้ได้แล้ว
เชือกไว้ทำอะไรหรือครับ... ไว้ผูกสายสะดือเด็กไม่ใช่ไว้ผูกอย่างอื่น

7. แหม ถ้าคุณมีลูกยางไว้ สำหรับดูดเสมหะจากปากจากคอ เด็กตอนคลอดออกมาใหม่ ๆ สักลูกแล้วก็แจ๋วเลยครับ พอหาได้ไม้ ? ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไรพอเด็กคลอดออกมาคุณก็ยกขาเด็กให้ห้อยหัวลง ตบก้นตบหลังเบา ๆ ให้แกร้องเสมหะจะได้ออกมาไม่ไหลเข้าปอดก็พอช่วยได้ครับ หรือบนจัมโบ้ 747 ของคุณมีเครื่องดูดเสมหะ ถ้ามีก็งัดออกมาใช้ได้สบายมากเลย

8. อีกอย่างที่คุณอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ คือถุงมือยางที่สะอาด ที่แพทย์ผ่าตัดเขาใส่เวลาผ่าตัดนั่นแหละ
แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร ก็คุณไม่ใช่หมอนี่ครับ คุณก็ล้างมือ ฟอกด้วยสบู่หลาย ๆ ครั้งจนแน่ใจว่าสะอาดแล้วล้างด้วยแอลกอฮอล์อีกที คราวนี้คุณก็กลายเป็นหมอมือเปล่าได้แล้ว ข้อสำคัญล้างมือแล้วเอาไว้จับเด็กและเครื่องมือช่วยทำคลอดอย่างเดียวเท่านั้นนะ อย่าได้ไปจับอย่างอื่นให้วุ่นไปหมดล่ะ เดี๋ยวมือคุณก็สกปรกเด็กจะติดเชื้อหรือไม่แม่เด็กจะได้เชื้อจากมือคุณไป แผลที่ฝีเย็บเขาเน่าแล้วคุณจะบาปนะผมจะเตือนไว้ก่อน คุณกัปตัน

9. เด็กออกมาแล้วก็ควรมีผ้าสะอาด อาจเป็นผ้าขนหนูสะอาดไว้ห่อเด็กกันหนาวด้วย เพราะผมรู้ว่าบนเครื่องของคุณน่ะแอร์มันหนาวไม่ใช่เล่น

“เป็นไงคุณกัปตันผมสาธยายมา 8-9 อย่างพอจะหาได้ไหม” คุณหมอถามมาตามสาย

“สบายมากขอรับ” กัปตันตอบยิ้มๆ แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อแห่งความตื่นเต้นที่ครั้งแรกจะได้เป็นแพทย์ตำแยจำเป็น

“กัปตันคะ หัวเด็กผลุบๆ โผล่ๆ อยู่นี่แล้วล่ะค่ะ” แอร์โฮสเตสผู้ช่วยกัปตัน รายงานด้วยความตื่นเต้นเช่นกัน

“มองเห็นหัวเด็กแล้วครับ คุณหมอ เวลาแม่แกเบ่ง” กัปตันรายงานต่อ

เอาละ ทีนี้คุณไปทำหน้าที่แทนผมได้แล้ว ผมจะอธิบายให้คุณฟังว่าขั้นตอนเป็นอย่างไร จำให้ดีนะคุณกัปตัน”

“ครับ”
กัปตันรับเสียงหลง แต่หนักแน่นเต็มไปด้วยความมั่นใจ

เมื่อเวลาแม่เด็กเบ่ง คุณเห็นหัวเด็กดันปากช่องคลอดให้บานออกเป็นวงรี วัดขนาดได้สักไข่ไก่ ทีนี้คุณก็ค่อยๆ ใช้ตะไกรที่ผมให้คุณเตรียมไว้นั่นแหละตัดปากช่องคลอดตัดเฉียงๆ นะ ตัดให้เป็นแผลยาวสัก 2 นิ้วฟุตก็เหลือเฟือแล้ว เมื่อตัดแล้วคุณก็จะเห็นเลือดทะลักออกมาจากแผลที่ตัดไว้ คุณก็อย่าได้ตกใจหรือเป็นลมไปเสียก่อนล่ะ...บางคนเห็นเลือดเป็นไม่ได้ ลมใส่ทุกที คุณก็เอาผ้าผืนเล็ก ๆ ที่สะอาดนั่นแหละกดแผลไว้ให้เลือดมันออกน้อย ๆ หน่อย”

ไม่นานเกินรอทุกสอง-สามนาที แม่จะเบ่งครั้งหนึ่ง มาถึงช่วงนี้เบ่งอย่างมากไม่เกินห้าครั้งเด็กก็จะออกมาแล้ว ผมจะบอกให้คุณกัปตันทราบก่อนว่ามากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เด็กจะคลอดโดยเอาหัวออกมาก่อน เมื่อหัวโผล่มาทั้งหัวแล้ว คุณกัปตันไม่ต้องรีบร้อนค่อยๆ เอาลูกยางดูดเสมหะออกจากปากเด็ก คอเด็กและจมูกเด็ก ไม่ต้องกลัวเด็กเจ็บ จากนั้นคุณกัปตันค่อยบรรจงเอาอุ้งมือทั้งสองข้างของคุณกัปตันขนาบเข้ากับด้านข้างของศีรษะเด็กทั้งสองข้าง แล้วดึงศีรษะเด็กลงเพื่อให้ไหล่หน้าของเด็กคลอดออกมา เมื่อไหล่หน้าคลอดแล้วคุณกัปตันค่อยดึงศีรษะเด็กในแนวขึ้น...เข้าใจไหมครับ...ครับมันไม่ใช่ของง่ายหรอกที่จะเข้าใจ...แต่ก็พอจะถูไถไปได้ละครับ

ทีนี้เมื่อไหล่เด็กคลอดทั้งหน้าทั้งหลังแล้ว ตัวเด็กก็ง่ายละ มันจะไหลตามมาเอง คุณกัปตันระวังอย่าให้พุ่งออกมาแบบตอร์ปิโดก็แล้วกัน ถ้าลำบากนัก ผมว่าคุณกัปตันปล่อยให้แม่แกเบ่งเด็กออกมาเองก็ได้ เพียงแต่ตัดปากช่องคลอดให้แค่นั้นก็พอ แบบนี้ก็ใช้ได้เหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะสู้แบบที่ผมแนะนำตอนแรกไม่ได้ก็ตาม เอาละครับ เป็นอันว่าตอนนี้เด็กออกมาทั้งตัวแล้ว คุณกัปตันก็จะเห็นว่าระหว่างตัวเด็กจะมีสายสะดือออกมาจากบริเวณหน้าท้องแล้วหายไปในช่องคลอดของแม่...ครับ ส่วนที่หายเข้าไปนั้น ก็จะไปต่อกับรกซึ่งยังไม่ลอกตัว
ถึงตรงนี้คุณกัปตันก็เอาเชือกที่สะอาดที่ผมบอกให้เตรียมไว้แต่แรกนั่นแหละมาผูกสายสะดือ ผูกสองแห่งด้วยกันผูกให้แน่น แล้วใช้ตะไกรที่ว่าตัดตรงกลางเลย เมื่อผูกแน่นดีเลือดก็จะไม่ไหลออกมาตามสายสะดือ ถ้าหากคุณกัปตันผูกสายสะดือเด็กไม่แน่นโดยเฉพาะด้านที่ติดกับเด็ก เลือดไหลออกมาเด็กตายได้ คุณกัปตันจะเสียชื่อนะครับ อันนี้ต้องระวังให้ดี ของง่ายๆ แต่เด็กตายได้เมื่อตัดสายสะดือเรียบร้อย เด็กร้องไห้จ้า คุณกัปตันก็ยิ้มได้ละครับ เพราเด็กคงปลอดภัยแข็งแรงดี

ทีนี้มาถึงคราวเอารกออกจากท้องแม่มั่ง
ต้องรอให้รกลอกตัวเสียก่อน ก็ไม่นานเกินรอหรอกครับ ที่ว่าไม่นานคือไม่ควรเกินครึ่งชั่วโมง นับตั้งแต่เด็กคลอดออกมาแล้วคุณกัปตันสังเกตอย่างนี้สิครับดูหน้าท้องของแม่ มดลูกจะเล็กลงกว่าหลังคลอดใหม่ๆ ดูที่ช่องคลอดมีเลือดดำทะลักออกมาหรือสายสะดือลดต่ำลงมาจากช่องคลอด แบบนี้แสดงว่ารกลอกตัวแล้ว คุณกัปตันก็เอามือกดหน้าท้องดันมดลูกลงมาทางช่องคลอด มดลูกก็จะช่วยดันรกออกมาอีกทีอีกมือหนึ่งคุณกัปตันจะจับสายสะดือช่วยดึงเบา ๆ ก็ได้ไม่ยากหรอก รกก็จะหลุดออกมาทั้งกระบิ
พูดถึงรกคุณจะเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่คุณกัปตันละครับเห็นเขาว่าเอาไปทำเครื่องสำอางปะหน้าคุณสุภาพสตรีกันได้ ถ้าหากคุณกัปตันบินผ่านปารีส แวะเอาไปขายคงได้หลายเงินนะ... ก็ปารีสเป็นดงแห่งเครื่องสำอางไม่ใช่หรือครับเป็นไง ทีนี้ก็เรียบร้อยละซิ ทั้งแม่ทั้งลูก

แต่คุณกัปตันอย่าลืมส่งแม่ไปเย็บแผลที่ตัดไว้ล่ะเมื่อถึงสนามบิน...” คุณหมอยังไม่ลืมที่จะกำชับกัป-ตัน

แล้วทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปด้วยดี คุณกัปตันและแอร์โฮสเตจ ผู้ช่วย ก็ได้รับการปรบมือแสดงความยินดีที่สามารถช่วยให้คุณแม่คลอดบุตรออกมาได้อย่างปลอดภัย

แล้วคุณล่ะอยากจะเป็นอย่างกัปตันคนนั้นไหมเอ่ยเมื่อคุณอยู่ในสถานการณ์อย่างนั้น....อย่าวิ่งหนีนะ แล้วคุณจะได้รับการปรบมือเช่นเดียวกันในฐานะหมอตำแยจำเป็นไงล่ะครับ แล้วคุณจะภูมิใจอย่างไม่มีวันลืม เชื่อผมเถอะครับ
 

 

ข้อมูลสื่อ

16-006
นิตยสารหมอชาวบ้าน 16
สิงหาคม 2523
นพ.พนิตย์ จิวะนันทประวัติ