• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

หัดกับวัคซีนป้องกันโรค

หัดกับวัคซีนป้องกันโรค

ในช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมา พบว่ามีการระบาดของโรคหัดและอีสุกอีใสในหมู่เด็กๆ รวมทั้งผู้ใหญ่บางคนก็พลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย  เป็นที่น่าสังเกตว่า ไข้ออกผื่นเหล่านี้มักจะระบาดในช่วงต่อระหว่างหน้าหนาวกับหน้าร้อน (ธันวาคมถึงมีนาคม) เชื่อว่าเป็นเพราะสภาพอากาศเหมาะกับการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสที่เป็นตัวก่อโรค

โรคนี้เป็นที่รู้จักมาแต่ดึกดำบรรพ์ จนมีชื่อเรียกแบบไทยๆ เนื่องจากโรคเหล่านี้ติดต่อกันง่ายและรวดเร็ว จากการคลุกคลีใกล้ชิด โดยติดต่อกันทางลมหายใจ เด็กๆ ที่อยู่ในบ้านเดียวกัน ห้องเรียนเดียวกัน หรือบ้านใกล้เรือนเคียง ถ้ามีคนหนึ่งเป็นหัดหรืออีสุกอีใส ในไม่ช้าเด็กคนอื่นๆ ก็พลอยเป็นกันถ้วนหน้า จนเกิดเป็นความเชื่อว่า เด็กทุกคนเกิดมาจะต้องออกหัด และอีสุกอีใส

ในปัจจุบัน มีการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันหัดกันทั่วประเทศ อีกไม่กี่ปีข้างหน้าโรคนี้คงจะค่อยๆหมดไป เช่นเดียวกับโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนอื่นๆ เช่น ไอกรน คอตีบ บาดทะยัก โปลิโอ ซึ่งได้มีการรณรงค์มานานปี จนในเวลานี้มีการป่วยด้วยโรคเหล่านี้ค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับสมัยก่อน

ยกตัวอย่าง สมัยที่ผู้เขียนจบใหม่ๆ ออกไปทำงานที่บ้านนอกเมื่อ 17-18 ปีก่อน เคยพบเด็กตามหมู่บ้านเป็นไอกรนกันทีละหลายๆ หมู่บ้าน แข่งกันไอระงมกันไปทั่ว บางคนไอจนตาปูด ตาแดง แต่ปัจจุบันแพทย์รุ่นใหม่แทบจะไม่เคยเห็นเด็กที่เป็นไอกรนกันแล้ว นี่ต้องยกว่าเป็นเพราะเทคโนโลยีหรือวิทยาการทางการแพทย์ ที่สามารถคิดค้นวัคซีนใช้ป้องกันโรคอย่างได้ผล

ส่วนอีสุกอีใส ในขณะนี้ได้มีการทำวัคซีนขึ้นใช้ในต่างประเทศแล้ว คิดว่าอีกไม่ช้าไม่นานคงจะมีการนำมาใช้ในบ้านเรา

เมื่อพูดถึงโรคหัด ก็มักจะมีคำถามเกี่ยวกับเรื่อง “หัดหลบใน” ซึ่งเป็นความเชื่อที่มีมาแต่โบราณ พูดจาภาษาหมอครั้งนี้ ก็ได้ไขขานปัญหานี้จากแง่มุมของวิทยาการสมัยใหม่ หัดหลบใน มีจริงหรือไม่ ก็ขอเชิญค้นหาคำตอบจากคอลัมน์นี้ได้เลยครับ

ข้อมูลสื่อ

131-002
นิตยสารหมอชาวบ้าน 131
มีนาคม 2533
รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ