• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

เด็กห้าเดือนถึงหกเดือน

เด็กห้าเดือนถึงหกเดือน (ต่อจากฉบับที่แล้ว)


                        

 

 

 

 

สภาพผิดปกติ

 


150.ไอบ่อย ๆ

เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง เช่น ตอนย่างเข้าฤดูฝนหรือย่างเข้าฤดูหนาว เด็กซึ่งไม่เคยไอ อาจมีอาการไอตอนหัวค่ำและตอนรุ่งเช้า ถ้าไอตอนหัวค่ำ บางครั้งอาจอาเจียนเอานมออกมาด้วย เมื่อเด็กอาเจียน คุณพ่อคุณแม่มักจะตกใจ รีบวัดอุณหภูมิ แต่ปรากฏว่าไม่มีไข้และเด็กก็ไม่ร้องกวน มีแต่อาการไออย่างเดียว เมื่อพาไปหาหมอ หมอบางคนอาจบอกว่าหลอดลมไม่ดีหรือหลอดลมอักเสบคล้ายหืด และเมื่อเอามือทาบหลังหรือลองฟังเสียงที่หน้าอก จะได้ยินเสียงครืด ๆ คราด ๆ แบบมีเสมหะมาก

เด็กบางคนมีอาการเช่นนี้มาตั้งแต่อายุ 1 เดือน จนกระทั่งถึง 5 เดือน คุณแม่ต้องไม่คิดว่าเด็กเป็นโรคร้ายแรงถึงกับพาไปหาหมอเป็นประจำเพื่อรักษา เรื่องนี้เคยกล่าวถึงแล้วในหัวข้อ 111 มีเสมหะ ถึงแม้เด็จะไอ แต่ถ้าเด็กร่าเริงดี กินนมดี ไม่มีไข้ อย่ากลัวว่าเด็กจะเป็นโรคร้ายแรง และไม่ต้องกลัวว่าถ้าไม่รักษาปล่อยไว้จนโตแล้วเด็กจะเป็นหืด ตรงกันข้าม การพาลูกไปหาหมอเป็นประจำแล้วเลี้ยงแบบเด็กป่วยไม่ให้ออกไปเล่นนอกบ้านเลย กลับจะทำให้ลูกคุณเป็นหืดได้ง่าย

ถ้าคุณแม่จะพาลูกไปให้หมอตรวจเมื่อเด็กเริ่มมีอาการไปนั้น ไม่คัดค้าน แต่ถ้าหมอบอกว่าลูกคุณเป็นโรคหลอดลมอักเสบคล้ายหืดหรือโรคหืดในเด็ก คุณแม่จงสบายใจได้ โรคแบบนี้ไม่ใช่โรคที่ต้องพึ่งคุณหมอให้รักษาให้  แต่เป็นโรคที่เด็กต้องพึ่งคุณแม่ให้เป็นผู้ช่วยรักษาโดยการเลี้ยงลูกให้แข็งแรง
เวลาที่เด็กไอ ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำให้ในช่วงที่อากาศเย็นเพราะทำให้มีเสมหะมากขึ้น ควรอาบน้ำตอนสาย ๆ หรือตอนบ่าย และพาลูกออกตากอากาศนอกบ้านให้มาก ๆ (ยกเว้นวันที่อากาศเย็นจัด) เพื่อให้ผิวหนังและเยื่อหลอดลมแข็งแรงและเป็นวิธีลดเสมหะที่ดีที่สุด อย่าเอาแต่ขังลูกไว้ในบ้านโดยให้สวมเสื้อผ้าหนา ๆ เพราะมีแต่จะทำให้เด็กไม่หายสักที

ถ้าลูกคุณมีเสมหะมาก อย่าหาว่าแกเป็นเด็กอ่อนแอแล้วเลี้ยงแบบทะนุถนอมกระทบอะไรไม่ได้เลยกลัวว่าจะแตกเหมือนแก้วบาง ๆ ขอให้คิดว่าแกเป็นเด็กแข็งแรงดี เพียงแต่มีเสมหะมากหน่อยเท่านั้น ส่วนใหญ่คุณพ่อคุณแม่ที่แต่งงานมา 10 ปีแล้ว เพิ่งจะมีลูกคนเดียว หรือคุณพ่อคุณแม่ที่อยากได้ลูกชายมากมีแต่ลูกสาวมา 3-4 คน เพิ่งจะได้ลูกชายเป็นคนสุดท้อง มักจะถนอมลูกเกินไป ถ้าเด็กมีเสมหะมากหน่อย อาจทะนุถนอมมากไปจนเด็กกลายเป็นโรคหืดไปจริง ๆ ตัวอย่างเช่นนี้มีไม่น้อยเลย


 

 



151.ร้องกวนกลางคืน
มีเด็กไม่น้อยทีเดียวที่เริ่มนิสัยร้องกวนตอนกลางคืนเมื่ออายุได้ 5 เดือน พอคุณพ่อคุณแม่กำลังจะเข้านอน ก็ได้เวลาร้องพอดี ต้องอุ้มบ้างให้นมบ้างสักพักใหญ่จึงยอมหลับ แต่พออีก 2 ชั่วโมงก็แผดเสียงอีกแล้ว คืนหนึ่งตื่นอย่างน้อย 2-3 ครั้ง
ถ้าคุณแม่ทำงานนอกบ้าน เด็กมีหวังต้องนอนกับคนใช้หรือบางคนอาจจะไปขอยานอนหลับจากหมอช่วย แต่เด็กแบบนี้ยาขนาดธรรมดามักจะไม่ได้ผล จึงไม่ควรใช้ยากับเด็ก

เด็กน้อยคนที่ร้องกวนกลางคืนจนเป็นนิสัยเพราะหิว ถ้าสงสัยว่าเด็กร้องเพราะหิวลองเพิ่มปริมาณนมก่อนนอนให้มากขึ้น หรือเพิ่มนมมื้อดึกให้อีก 1 มื้อ เด็กก็จะเลิกร้องกวนตอนกลางคืน
เด็กบางคนถ้าตอนกลางวันไม่ได้เล่นออกกำลังกายเพียงพอ ตกกลางคืนจะร้องกวน ดังนั้นคุณแม่ควรลดเวลาทำงานอย่างอื่นลง แล้วเอาเวลามาเล่นกับลูกให้มาก มีเด็กหลายคนที่เลิกร้องกวนตอนกลางคืนเมื่อกลางวันได้เล่นมากขึ้น วันหนึ่ง ๆ ถ้าเด็กได้เล่นนอกบ้านไม่ถึง 3 ชั่วโมงเด็กอาจออกกำลังกายไม่พอเพียง

ถ้าแบ่งเวลานอนกลางวันของเด็กไม่ดี อาจทำให้เด็กตื่นง่ายตอนกลางคืนร้องกวนและนอนตื่นสาย เช่นตื่นเอาตอน 10 โมงเช้า แล้วนอนอีกครั้งตอนบ่าย 2 โมง พอตกเย็นก็นอนอีกถึง 3 ทุ่ม กลางคืนกว่าจะนอนอีกครั้งก็ดึกมาก ถ้าคุณแม่พยายามค่อยๆ หัดให้ตื่นเช้าขึ้นเรื่อย ๆ และพยายามไม่ให้นอนหลัง 6 โมงเย็น เด็กก็จะนอนกลางคืนได้ดีขึ้น เมื่อคุณแม่ไม่อยากให้ลูกนอนตอนเย็น ก็ต้องพยายามเล่นกับลูกหรือพาออกไปเดินเที่ยวข้างนอกให้หายง่วง

เด็กบางคนนอนไม่หลับตอนกลางคืน เพราะมีพยาธิเส้นด้ายทำให้คันบริเวณทวารหนัก ถึงแม้ว่าเด็กอายุ 5 เดือน จะมีน้อยที่เป็นโรคพยาธิ แต่ถ้ามีคนในบ้านเป็น ควรนำอุจจาระเด็กไปตรวจหาไข่พยาธิด้วย
นอกจากสาเหตุต่าง ๆข้างต้นแล้ว ยังมีเด็กที่ร้องกวนตอนกลางคืนเป็นนิสัยโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำอย่างไร ๆ ก็ไม่หายก็มี

เด็กบางคนนอนอยู่ดี ๆ ร้องจ้าขึ้นมาอย่างกระทันหัน บางครั้งเริ่มจากวันที่ถูกฉีดยาหรือประสบเหตุร้ายอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งอาจทำให้ฝันร้ายเนื่องจากเป็นเด็กที่อารมณ์อ่อนไหวง่าย และจะร้องกวนตอนกลางคืนจนเป็นนิสัยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่นิสัยนี้จะไม่ติดไปตลอดชีวิตแน่ เด็กจะร้องกวนมาก ๆ สัก 1-2 เดือน แล้วค่อย ๆ หายไปเอง คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกร้องกวนกลางคืน และพยายามให้ยาก็แล้ว พาไปหาหมอรดน้ำมนต์ไหว้พระก็แล้วไม่ยอมหายสักที คุณอย่าเพิ่งหมดอาลัยตายอยาก เพราะนิสัยนี้ต้องหายแน่ๆ ไม่ช้าก็เร็ว

สำหรับคุณแม่ที่นมยังไหลอยู่ เมื่อลูกร้องกวนกลางคืนคุณแม่ควรอุ้มกอดให้กระชับและให้ดูดนมแม่ ถ้าครู่เดียวเด็กหลับ คุณแม่ควรทำอย่างนี้เมื่อลูกร้องตอนกลางคืน ไม่ต้องห่วงว่าเด็กถึงวัยหย่านมแม่แล้วจะให้นมแม่ไม่ได้เพราะกลัวว่านมแม่ชักจะจางมีคุณค่าอาหารน้อยลง คุณค่าทางอาหารที่ขาดเราอาจให้อาหารอื่นทดแทนได้ แต่หน้าอกอันอบอุ่นของแม่ที่ช่วยกล่อมลูกให้หลับนั้นไม่มีอะไรจะมาแทนได้  *เป็นหวัด ดูหัวข้อ 134 เป็นหวัด

 


 

 


152.เป็นฝีที่หัว

เด็กที่เป็นผดง่าย เมื่อเด็กเกาจนเป็นแผลและเชื้อโรคเข้าไปจะกลายเป็นฝีได้ บางคนอาจเป็น3-4 แห่ง บางคนอาจเป็นทั้งหัวก็มี ถ้าเป็นทั้งหัวมักมีไข้ขนาด 38 องศาเซลเซียสร่วมด้วย เมื่อเด็กเป็นฝี แตะนิดเดียวก็เจ็บ เวลานอนหันหัวไปถูกตรงฝีทีไรจะเจ็บตื่นร้องกวนทุกที ดังนั้นเด็กที่เป็นผดง่ายคุณแม่ควรป้องกันเอาไว้ก่อน โดยตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ และเปลี่ยนปลอกหมอน ผ้าปูที่นอนให้ทุกวัน และถ้าเด็กเกิดเป็นฝีขึ้นมาที่หนึ่ง ต้องรีบรักษาให้หายเร็ว ๆ อย่าปล่อยให้เป็นมาก ฝีในระยะแรกรักษาด้วยเพนนิซิลินค่อนข้างจะได้ผล เมื่อฝีหายแล้ว อาจยังคงมีก้อนแข็งที่ต่อมน้ำเหลืองตรงท้ายทอย 2-3 แห่ง ถ้ากดแล้วเด็กไม่เจ็บก็ปล่อยไว้ได้ จะค่อย ๆยุบหายไปเอง

 

 


 



153.เป็นหัดก่อนอายุ 6 เดือน

เด็กอายุ 5 เดือน ยังมีภูมิต้านทานโรคหัดจากแม่เหลืออยู่ ถึงจะติดหัดก็มีอาการน้อยมาก เด็กบางคนก็ไม่เป็นเลย ตามปกติเมื่อได้รับเชื้อหัด อาการจะปรากฏใน 10-11 วัน แต่ถ้ามีภูมิต้านทานอยู่ ระยะเวลาอาจเลื่อนไปจนอาจถึง 20 วันจึงปรากฏอาการ
ตามปกติเมื่อเด็กเป็นหัด ระยะแรกจะมีอาการคล้ายหวัด คือ มีอาการไอ จาม มีขี้ตา แต่สำหรับเด็กอายุ 5 เดือน อาการเหล่านี้อาจไม่มีเลย เด็กอาจตัวร้อนประมาณ 37 องศาเซลเซียสเพียงวันเดียว และมีผื่นแดงเป็นจุด ๆ เล็กน้อยขนาดนับได้บริเวณหน้า หน้าอก และหลัง แล้วก็หายไป

แต่ถ้าภูมิต้านทานโรคหัดที่ได้จากแม่มีน้อยและหมดไปเร็ว อาการของโรคก็จะหนักขึ้น เช่นตัวร้อนวันครึ่ง และมีผื่นมากหน่อย แต่เด็กอายุเท่านี้มักไม่มีอาการไอ และไม่มีโรคปอดแทรกซ้อน กล่าวได้ว่าโรคหัดในเด็กอายุก่อน 6 เดือนจะมีอาการเบากว่าปกติมากและให้ภูมิคุ้มกันตลอดชีวิต ดังนั้น เมื่อมีคนบ้านเป็นหัด ไม่จำเป็นต้องฉีดแกมม่าโกลบุลินป้องกันให้เด็ก เมื่อเด็กอายุ 5 เดือนเป็นหัด คุณแม่ไม่ต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษ นอกจากงดอาบน้ำให้และงดพาออกเที่ยวนอกบ้านเพื่อป้องกันไม่ให้ติดเด็กอื่น สำหรับเด็กอายุเกิน 6 เดือนถ้าเป็นหัด อาการจะหนักเท่าหัดปกติ

 


 




154.ขี้หูเหลว
มีคุณแม่น้อยคนที่จะคอยตรวจดูหูลูกอย่างละเอียดอยู่เสมอ เมื่อเด็กอายุได้ 5 เดือน เราจะเห็นข้างในรูหูได้ชัดขึ้น คุณแม่บางคนอาจตกใจเมื่อเห็นขี้หูลูกเปียกแฉะ ไม่แห้งแข็งเหมือนของตน ทำให้สงสัยว่าลูกจะเป็นโรคหูอักเสบหรือเปล่า
เด็กที่เป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบ บริเวณทางเข้ารูหูจะเปียก แต่มีน้อยรายที่จะเป็นพร้อมกันทีเดียว 2 ข้าง และก่อนที่จะเห็นหูเปียก เด็กมักจะมีไข้นำมาก่อนและร้องกวนตอนกลางคืนเพราะปวดหูนอนไม่หลับ

เด็กที่ขี้หูแฉะมาแต่กำเนิดซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวของเด็กเอง ขี้หูจะไม่เหลวข้างเดียวเป็นอันขาด ในกรณีนี้คุณแม่ไม่ต้องทำอะไร เพียงแต่ใช้สำลีเช็ดตรงปากทางเข้าก็พอ อย่าเช็ดเข้าไปในรูหู เพราะถ้าทำไม่ดีเกิดเป็นแผลขึ้น อาจทำให้เด็กเป็นโรคหูชั้นนอกอักเสบได้ ลักษณะขี้หูเหลวนี้โตขึ้นก็ไม่หายแต่จะมีขี้หูน้อยลง

(อ่านต่อฉบับหน้า)
 

ข้อมูลสื่อ

37-007
นิตยสารหมอชาวบ้าน 37
พฤษภาคม 2525